เคยสงสัยกันหรือเปล่าคะว่าทำไมสุนัขพุดเดิ้ลบางตัวถึงไม่มีหาง ทำไมสุนัขไทยหลังอานถึงหูตั้งตลอดเวลา แล้วทำไมสุนัขพิทบูลส่วนใหญ่ถึงมีใบหูที่เล็กสั้นกว่าสุนัขพันธุ์อื่นๆ ...

     จริงๆ แล้วสุนัขเหล่านี้ก็ไม่ได้เกิดมามีหางกุด หูตั้ง หูเล็ก มาตั้งแต่เกิดหรอกค่ะ แต่เกิดจากการที่ผู้เลี้ยงพาลูกสุนัขไป ตัดหาง ตัดและดามหู เพื่อเวลาที่ลูกสุนัขโตขึ้นจะได้มีลักษณะที่ดีตามค่านิยมของผู้เลี้ยง

     ประเด็นเรื่องการตัดหาง ตัดและดามหูในสุนัขนั้น เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงในกลุ่มผู้เลี้ยงสุนัขว่าเป็นการทรมานสุนัขเพื่อสนองความต้องการของผู้เลี้ยงเท่านั้น การทำแบบนี้เหมาะสมแล้วหรือไม่ เป็นการทารุณกับสุนัขเกินไปหรือเปล่า?

     ซึ่งจุดนี้คงต้องมองกันถึงสาเหตุของการนำสุนัขไปตัดหาง ตัดและดามหู เช่น สุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลส่วนใหญ่ ผู้เลี้ยงจะนิยมพาไปตัดหาง การตัดหางในสุนัขพุดเดิ้ลนั้นจริงๆ แล้วเป็นเรื่องของค่านิยมของผู้เลี้ยงแต่ละคนเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วตามมาตรฐานสากลของสุนัขสายพันธุ์พุดเดิ้ลไม่ได้มีการระบุไว้ว่าสุนัขพุดเดิ้ลต้องตัดหาง แต่สาเหตุที่ผู้เลี้ยงมักจะนิยมตัดกันก็เพราะว่า ลักษณะหางของสุนัขพุดเดิ้ลนั้นไม่สมดุลกับตัวสุนัขทำให้มีลักษณะทางกายภาพไม่สง่า ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่จึงนิยมตัดหางออก 1 ใน 3 ส่วนของความยาวของหางทั้งหมด เพื่อความสวยงาม ... กรณีนี้คือกรณีที่เกี่ยวกับค่านิยมของผู้เลี้ยง


     แต่ก็จะมีอีกกรณีหนึ่ง ที่ผู้เลี้ยงทำเพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขได้รับอันตราย และทำเพื่อสร้างความสง่างามให้เหมาะกับสายพันธุ์ เช่น สุนัขสายพันธุ์พิทบูล ส่วนใหญ่ผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้จะตัดหูสุนัข โดยเหตุผลที่ต้องตัดหูสุนัขพิทบูลก็เพราะ ในอดีตพิทบูลเป็นสุนัขที่ถูกใช้ในการต่อสู้แข่งขันกัดสุนัข หูของพิทบูลจะมีลักษณะยาวและพับลง ซึ่งอาจเป็นจุดอ่อนที่ทำให้คู่ต่อสู้ทำร้ายร่างกายได้โดยการกัด ดังนั้นการตัดหรือขลิบปลายหูออกจะช่วยลดจุดอ่อนทำให้สุนัขคู่ต่อสู้มีโอกาสทำร้ายสุนัขพิทบูลได้น้อยลง

     ส่วนในปัจจุบันส่วนใหญ่แล้วมักจะตัดเพื่อให้ดูสวยงามน่าเกรงขามเหมาะกับสายพันธุ์และเพื่อให้ง่ายต่อการรักษาความสะอาด

     การตัดหาง ตัดและดามหู ส่วนใหญ่แล้วถ้าหากเป็นสุนัขที่เราเพาะพันธุ์เองนั้น เราก็จะต้องหาร้านหรือคลีนิคที่รับตัดหาง ตัดหรือดามหู ซึ่งจุดนี้ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องหาข้อมูลอย่างละเอียดเพราะถ้าหากเลือกร้านไม่ ดี หรือเลือกร้านที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจจะตัดออกมาแล้วไม่สวย ซึ่งก็แน่นอนว่าจะมีผลต่อสุนัขของเราไปตลอดชีวิต

     แต่ถ้าเป็นสุนัขที่เราซื้อจากฟาร์มทางฟาร์มก็จะจัดการมาให้เรียบร้อย ผู้เลี้ยงมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดแผลไม่ให้ติดเชื้อ ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนการดูแลที่สำคัญมาก เพราะถ้าหากหลังจากทำการ ตัดหาง ตัดหรือดัดหู มาแล้วไม่ดูแลให้ดูก็อาจส่งผลต่อร่างกายของสุนัขของเรา อาจจะเป็นแผลเรื้อรังที่ยากต่อการรักษาได้

     "เทคนิคการเลี้ยงการดูแล" ในวันนี้ มะเหมี่ยวมีเรื่องราวเกี่ยวกับการตัดหาง การตัดและดามหูสุนัขมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ ... ลองมาดูกันนะคะว่า สุนัขต้องมีอายุเท่าไหร่ ถึงจะพาไปตัดหางและตัดหูได้ สุนัขพันธุ์ไหนบ้างที่ต้องตัดหางและตัดหู รวมถึงหลังจากตัดแล้วมีวิธีดูแลยังไง ไปหาคำตอบกันเล้ยยย!!

ตัดหางสุนัข ... 


     การตัดหางของลูกสุนัขนั้นกระทำเพื่อความสวยงามตามสายพันธุ์ นิยมทำกันมากในพันธุ์ พุดเดิ้ล มินิเจอร์ ยอร์คเชียร์ เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้วสุนัขที่โดนตัดหางนั้นจะเป็นสุนัขที่เพาะพันธุ์เพื่อการจำหน่าย

     สำหรับผู้ที่ต้องการตัดหางสุนัข จะต้องวางแผนตั้งแต่ก่อนสุนัขคลอด และหลังจากลูกสุนัขคลอดได้ไม่เกิน 7 วันจะต้องพาไปหาคุณหมอทำการตัดหาง ซึ่งถ้าเลยจากนี้ไปจะหาคลีนิคทำกันลำบาก เนื่องจากบริเวณโคนหางจะมีเส้นเลือดและเส้นประสาทมาเลี้ยงทำให้เมื่อเราตัด หาง เขาจะเจ็บมากแถมยังเสียเลือดเยอะอีกด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้เลี้ยงควรรู้นะคะ

     หลายคนอาจจะตั้งข้อสงสัยว่า ถ้าหากต้องการตัดหางสุนัขให้ออกมาแล้วดูสวยงามและสมส่วนส่วน ควรจะมีเกณฑ์วัดยังไง ... ทางประเทศอเมริกาได้มีการทำตามร่างกำหนดสัดส่วนในการตัดหางไว้แบบนี้ค่ะ


ความยาวของหางที่จะตัดออกตามสายพันธุ์ (เมื่ออายุไม่เกิน 7 วัน) ตามเกณ์ของอเมริกา
• โดเมบอร์แมน 3/4 นิ้ว (2ข้อกระดูกหาง)
• ร็อตไวเลอร์ ชิดตัวมากที่สุด (1ข้อกระดูกหาง)
• บ็อกเซอร์ 1/2-3/4 นิ้ว
• พุดเดิล (มาตราฐาน) 1 ใน 2 - 2 ใน 3 (ประมาณ 1 เศษ 1/2 นิ้ว)
• พุดเดิล (มินิเจอร์) 1 ใน 2 - 2 ใน 3 (ประมาณ 1 1/8 นิ้ว)
• พุดเดิล (ทอย) 1 ใน 2 - 2 ใน 3 (ประมาณ 1 นิ้ว)
• มินิเจอร์พินเชอร์ 1/2 นิ้ว (2 ข้อกระดูกหาง)
• ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย 1 ใน 3 (ประมาณ 1/2 นิ้ว)
• ค็อกเกอร์ สแปเนียล 1 ใน 3 (ประมาณ 3/4 นิ้ว)


ส่วนขั้นตอนการตัดหางสุนัขก็จะมีดังนี้ค่ะ
     1. โกนขนบริเวณโคนหางให้ทั่วๆ แล้วเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ จากนั้นเช็ดดวยทิงเจอร์เบตาดีนตาม
     2. ใช้หนังยางหรือเชือกรัดที่บริเวณโคนหาง (เทคนิคการรัดหนังยาง ให้เอายางวง มาตัดเป็นเส้นก่อน แล้วค่อยผูกรัด จะได้ดึงกระตุกได้ง่าย เพราะถ้ารัดเหมือนเวลาผูกถุงแกง แบบนี้จะแก้ยาก เพราะต้องรูดออกปลายหาง)
     3. ร่นหนังยางลงมาทางโคนหาง แล้วใช้กรรไกรตัดช่วงรอยต่อของกระดูกออก
     4. เย็บแผล หรือ ถ้าเป็นบางที่อาจไม่เย็บก็ได้ทิ้งประมาณ 15-30 นาที แล้วค่อยแกะยางออก
     5. ทาด้วยเบตาดีน จากนั้น 5–10 นาทีแกะยางออกแล้วเช็คดูว่าเลือดออกหรือเปล่าจากนั้นรอให้ครบ 7 วัน ค่อยพากลับมาตัดไหม


ตัดหูและดามหู ...


     เช่นเดียวกับการตัดหางเลยค่ะ ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ที่นิยมตัดและดามหูให้สุนัขก็เพื่อสุนัขจะได้มีลักษณะที่ดีตรงตามสายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดช่องหูด้วยค่ะ

     สำหรับสุนัขพันธุ์ที่นิยมตัดหาง เช่นโดเบอร์แมน บ๊อกเซอร์ มินิเจอร์พินส์เชอร์ และเกรตเดน ฯ

     ช่วงที่ควรพาสุนัขไปพบคุณหมอเพื่อทำการตัดและดามหูคือ ช่วงที่สุนัขมีอายุ 12-14 สัปดาห์ เพราะมีขนาดโตพอที่จะทำการผ่าตัดได้ง่าย ไม่เล็กเกินไป และสามารถทนต่อการวางยาสลบได้


     หลังจากตัดหูแล้วต้องดามหูไว้ จนกว่าจะตั้งตรงตามต้องการซึ่งกินเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ค่ะ (ในระยะเวลาที่บอกนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของสุนัขและการดูแลของเจ้าของด้วยนะคะ)

     ในการตัดหูให้สุนัขนั้น การเลือกทรงหูเป็นสิ่งสำคัญ  ต้องคำนึงถึงสายพันธุ์ของน้องๆ ขนาดของหัวกะโหลก ความยาวของหน้าประกอบด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของเจ้าของค่ะ อยากได้สั้น ยาว ปลายแหลม ปลายไม่แหลม แบบไหนแจ้งคุณหมอได้เลยนะคะ


     ระหว่างที่ตัดหูแล้วยังไม่ได้ตัดไหม เจ้าของจะต้องระวังคอยดูไม่ให้สุนัขเกาแผลจนไหมที่เย็บหลุด หรือแผลสกปรก การแผลได้รับการกระทบกระเทือนบ่อยๆ อาจทำให้รูปหูที่ไปตัดมา ไม่เป็นไปตามที่ต้องการได้ค่ะ


     ... ขอย้ำอีกครั้งนะคะว่า การตัดหาง ตัดหูและดามหู เป็นเรื่องของค่านิยมของเจ้าของสุนัข ไม่มีข้อบังคับว่าจะต้องทำถ้าหากไม่ทำจะเป็นอันตราย ดังนั้นถ้าหากใครไม่อยากทรมานสุนัขของตัวเองจะไม่ทำก็ได้นะคะ แต่ถ้าหากอยากได้สุนัขที่มีลักษณะที่ดีล่ะก็ ก็ทำตามที่แนะนำไว้ได้เลยค่ะ