ถ้าหากพูดถึงสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักอันดับหนึ่งที่ครองใจคนทั่วโลกก็คงหนีไม่ พ้น สุนัขหรือน้องหมา อย่างแน่นอน แล้วเพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่า ในต่างประเทศเขามีเทคนิคการเลี้ยงและดูแลน้องหมากันอย่างไรบ้าง?

     เทคนิคการเลี้ยงการดูแลวันนี้ ปังปอนด์ก็เลยจะหยิบ 3 ประเทศเด่น ๆ ที่เลี้ยงน้องหมาแบบจัดหนักจัดเต็มจากฝั่งเอเชีย ฝั่งตะวันตก และฝั่งยุโรป มาให้เพื่อน ๆ ดูกันค่ะว่า เขามีการเลี้ยงและทุ่มเทให้กับน้องหมากันแบบไหน แต่รับรองได้เลยว่า แต่ะละประเทศที่ปังปอนด์หยิบมานำเสนอเพื่อน ๆ นั้น ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นเราไปดูกันค่ะ ...

 

ประเทศญี่ปุ่น

     หากพูดถึงประเทศที่ประชากรให้ความสำคัญและเลี้ยงดูน้องหมาดีแบบสุด ๆ ก็คงต้องยกตำแหน่งให้กับ ประเทศญีปุ่น เลยค่ะ เพราะ ว่า คนญี่ปุ่นนั้นมีความรักความผูกพันกับน้องหมามาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งเห็นได้จากประวัติศาสตร์ในยุคโชกุน โทกุกาว่า สึนะโยชิ ที่ได้กำหนดกฎหมายห้ามทำร้ายหรือฆ่าสุนัข ในปี 1648 และเรื่องราวของสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) แสนซื่อสัตย์ที่ไปยืนรอเจ้าของที่สถานีรถไฟนานกว่า 10 ปี จนชาวประเทศญี่ปุ่นได้ตั้งอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงความซื่อสัตย์ของมัน ซึ่งภายหลังได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และนิทานเพื่อปลูกฝังให้เด็กญี่ปุ่น รักน้องหมาค่ะ
 

 
     ปัจจุบันประชากรญี่ปุ่นและในกลุ่มผู้ที่มีบุตรยาก นิยมหันมาเลี้ยงน้องหมาแทนการมีลูก ด้วยเหตุผลที่ว่า การมีลูกเป็นการเพิ่มภาระในยุคที่มีค่าครองชีพสูง และทำให้ส่งผลต่อหน้าที่การงาน โดยสถิติของปี 2555 พบว่า ในประเทศญี่ปุ่นมีสัตว์เลี้ยงมากขึ้น 22 ล้านตัว ซึ่งมากกว่าเด็กที่มีเพียง 17 ล้านคนเท่านั้น จนทั่วโลกยกให้ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คลั่ง ไคล้น้องหมาแบบสุด ๆ เพราะคนรักสัตว์ในญี่ปุ่นจะทุ่มเทและยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อสรรหาสิ่งดี ๆ มาทำให้สุนัขของตัวเองมีความสุข ทั้งพาสุนัขไปร้านกรูมมิ่ง โรงแรม คาเฟ่ และเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟนชั่น เครื่องประดับ ฯลฯ จนทำให้เกิดธุรกิจ สัตวเลี้ยงโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายน้องหมา ที่มีมูลค่าสูงถึง 40,000,000,000 บาทเลยทีเดียว (อ่านเพิ่มเติมในข่าวคอลัมน์ Daily Dog ญี่ปุ่นคลั่ง! ทุ่มแต่งตัวน้องหมามากกว่าอยากมีลูก)
 

     สำหรับการเลี้ยงน้องหมาของคนญี่ปุ่นนั้นจะค่อนข้างมีกฏระเบียบ โดยเฉพาะตั้งแต่การซื้อสุนัขเพราะจะต้องมีการตรวจสอบประวัติผู้ซื้อว่า มีความสามารถในการรับผิดชอบชีวิตสัตว์ได้หรือไม่ และหากไม่สามารถเลี้ยงน้องหมาได้ เพราะติดปัญหาด้านต่าง ๆ เช่น ไม่มีพื้นที่เลี้ยง มีเวลาไม่มากพอ ค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอ ฯลฯ ก็สามารถเลือกใช้บริการร้านเช่าสัตว์เลี้ยง ธุรกิจสุดแปลกแต่มีจริงในประเทศญี่ปุ่น ที่คนรักสัตว์สามารถเช่าน้องหมาไปจูงเล่น อุ้มเล่น เป็นรายชั่วโมง หรือพาไปค้างคืน เป็นรายวัน รายเดือนก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังมีระบบจัดการในเรื่องสุนัขจรจัดได้เป็นอย่างดี โดยรัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์พิทักษ์สัตว์ เพื่อหาเจ้าของคนใหม่ให้กับสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง และเป็นสถานที่ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมกับให้ความรู้และปลูกฝังให้เด็กและประชาชนรักสัตว์อีกด้วย         

     และนอกจากชาวญี่ปุ่นจะรักและให้ความสำคัญกับน้องหมาแบบสุด ๆ แล้ว บริษัทและห้างร้านต่าง ๆ ก็ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์สินค้าต่าง ๆ สำหรับสุนัขโดยเฉพาะ เช่น บริษัทผู้ผลิตเครื่องเล่นเกมรายใหญ่ในญี่ปุ่นยังได้คิดค้น เครื่องแปลภาษาสุนัข มาตอบโจทย์คนรักสุนัขเพื่อจะได้เข้าใจน้องหมาได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้เห็นว่า น้องหมาในประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เพียงแค่สัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่คนญี่ปุ่นเลี้ยงน้องหมาแบบใส่ใจเหมือนลูกของตัวเองจริง ๆ ค่ะ

 

ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

     นอกจากประเทศสหรัฐอเมริกาจะเป็นประเทศมหาอำนาจของโลกแล้ว เพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่า ประเทศ สหรัฐอเมริกายังเป็นประเทศที่เลี้ยงน้องหมามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย โดยมี 71.4 ล้านครัวเรือนที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง และเมื่อนับ ๆ แล้วก็มีน้องหมาทั้งหมดรวมแล้วกว่า 61.1 ล้านตัวจากทั่วประเทศเลยล่ะค่ะ ... คนรักสัตว์ชาวอเมริกันให้ความสำคัญกับน้องหมามากไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ โดยเลี้ยงน้องหมาเป็นเหมือนญาติ และเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ผู้เลี้ยงชาวอเมริกันพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อดูแลน้องหมาอย่างเต็มที่ โดยเห็นได้จากเม็ดเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีที่ผู้เลี้ยงน้องหมา ชาวอเมริกันใช้จ่ายในการเลี้ยงดู รักษาพยาบาล และบริการต่าง ๆ สำหรับน้องหมา จนทำให้อุตสาหกรรมการค้าสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงเติบโตเป็นอันดับที่ 7 ของกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศของเขาเลยล่ะค่ะ

     สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกานั้นเรียกได้เลยว่า เป็นประเทศที่ผู้เลี้ยงน้องหมามีความรับผิดชอบในการเลี้ยง ห่วงใยสวัสดิภาพของน้องหมา รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมเป็นอย่างมากประเทศหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะ ในสหรัฐอเมริกามีกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิน้องหมา และกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่เข้มงวด มีบทลงโทษอย่างจริงจัง เช่น กฏหมายห้ามเพาะพันธุ์สุนัขเพื่อขาย กฏหมายการทารุณกรรมสัตว์ หรือหากเลี้ยงน้องหมาโดยไม่มีใบอนุญาต ก็จะมีโทษตั้งแต่ปรับเงิน ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ไปจนถึงถูกสั่งห้ามเลี้ยงสัตว์หรือถูกจำคุกนานหลายสิบปี พร้อมกับยังมีการรณรงค์ให้ประชาชนนำน้องหมามาฝังไมโครชิพเพื่อป้องกันน้อง หมาหายและลดปัญหาสุนัขจรจัด รวมถึงในทุก ๆ รัฐทั่วอเมริกายังมีศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ศูนย์พักพิงสัตว์กระจายอยู่เป็นจำนวนมากเพื่อคอยดูแลช่วยเหลือสัตว์อีกด้วย ค่ะ
 

     สำหรับวิธีการเลี้ยงน้องหมาของชาวอเมริกันส่วนมากจะเน้นดูแลเรื่องสุขภาพและ สวัสดิภาพของน้องหมาเป็นหลัก เพราะผู้เลี้ยงชาวอเมริกันถือว่า น้องหมาเป็นสมาชิกในครอบครัวที่ต้องดูแลให้ดีที่สุด โดยผู้เลี้ยงจะใส่ใจดูแลเรื่องอาหาร ขนมที่มีคุณภาพดีให้กับน้องหมา และมักจะพาน้องหมาไปวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพทีดีซึ่งสามารถเห็นได้ทั่วไป ตามสวนสาธารณะในแต่ละเมือง ส่งน้องหมาเข้าฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ รวมถึงผู้เลี้ยงส่วนมากมักจะทำประกันชีวิตให้กับน้องหมาที่จะช่วยเรื่องค่า รักษาในยามน้องหมาเจ็บป่วยเพราะค่ารักษาพยาบาลสำหรับสัตว์ในอเมริกาจะค่อน ข้างสูงเลยทีเดียวค่ะ
 

     และนอกจากเรื่องการดูแลสุขภาพของน้องหมาแล้ว ผู้เลี้ยงชาวอเมริกันยังทุ่มเทในเรื่องความสวยงามให้กับน้องหมาแบบจัดเต็ม ทั้งซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ ซึ่งทำให้มีแบรนด์เสื้อผ้าต่าง ๆ ของน้องหมาเกิดขึ้นมากมายเพื่อตอบโจทย์ตลาดคนรักน้องหมา รวมถึงการพาน้องหมาเข้ารับบริการร้านกรูมมิ่งเพื่อตัดขน ย้อมขนตามแฟชั่น เพ้นท์เล็บ ซื้อของขวัญวันคริสมาสหรือสำหรับวันฮานูก้าให้แก่น้องหมา จัดงานฉลองวันเกิด จัดงานศพ และเจ้าของมักจะพาน้องหมาติดตัวไปทำงาน ไปซื้อของ ไปเที่ยวในวันหยุด และบางรายก็อาจจะพาน้องหมาไปใช้บริการรับฝากเลี้ยงหรือโรงแรมน้องหมาในช่วง ที่ต้องทำธุระ โดยที่รับฝากเลี้ยงและโรงแรมน้องหมาจะมีบริการต่าง ๆ เช่น อาหารมื้อพิเศษ เตียงนอน ห้องนั่งเล่น ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความสุขความบันเทิงให้กับน้องหมาค่ะ

 

ประเทศอังกฤษ

 

 
     ถ้าหากพูดถึงประเทศในฝั่งยุโรปที่เลี้ยงดูน้องหมาแบบโอเวอร์สุด ๆ ก็คงหนีไม่พ้น สหราชอาณาจักร หรือประเทศอังกฤษเมืองผู้ดีอย่างแน่นอนค่ะ เพราะว่าที่ประเทศอังกฤษเขาเลี้ยงดูน้องหมาเหมือนลูกแท้ ๆ ของตัวเอง ชนิดที่ต้องเรียกว่า ทุ่มสุดตัวกันเลย โดยจากการสำรวจพบว่า ผู้เลี้ยงสุนัขร้อยละ 75 ชอบซื้อของขวัญให้กับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง  และร้อยละ 66 ของเจ้าของน้องหมาในอังกฤษมักจะยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสิ่งของต่าง ๆ มาเพื่อปรนเปรอน้องหมาของตัวเอง ทั้งใช้จ่ายในเรื่องอาหาร ขนมน้องหมา เสื้อผ้า เครื่องประดับ ข้าวของเครื่องใช้ และบริการต่าง ๆ เพื่อทำให้น้องหมามีความสุขที่สุด ...

     นอกจากชาวอังกฤษจะดูแลน้องหมาเป็นอย่างดีเหมือนลูกแล้ว ชาวอังกฤษยังยกให้น้องหมาเป็นฮีโรผู้พิทักษ์กันอีกด้วย เพราะน้องหมาในประเทศอังกฤษได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือมนุษย์ในด้านต่าง ๆ มากมาย เช่น การฝึกน้องหมาเพื่อเป็นสุนัขนำทาง สุนัขช่วยเหลือคนพิการ สุนัขตำรวจที่ทางการได้เพาะพันธุ์ ดูแลและฝึกทักษะต่าง ๆ ให้น้องหมามีความแข็งแกร่งตั้งแต่เล็ก ๆ ซึ่งทางการได้นำเทคโนโลยีต่างที่ล้ำหน้าประเทศอื่น ๆ เข้ามาใช้กับสุนัขตำรวจที่มีหน้าที่ค้นหา อย่างการติดกล้อง FidoCam ที่มีมูลค่าต่อตัวอยู่ที่ 500,000 บาทไทยให้กับน้องหมาเพื่อช่วยให้ในการรวบรวมหลักฐาน ผู้กระทำความผิดได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงทางการยังได้เน้นดูแลและจัดระเบียบน้องหมาโดยการออกกฏหมายใหม่บังคับ ให้เจ้าของน้องหมานำสุนัขมาฝังไมโครชิพ เพื่อลดปัญหาสุนัขสูญหายจากการถูกขโมย และปัญหาสุนัขจรจัด โดยจะมีผลบังคับในเดือนเมษายน ปี 2016 ซึ่งถ้าหากเจ้าของสุนัขไม่ปฏิบัติตามต้องถูกปรับเงินเป็นจำนวน 25,000 บาทเลยล่ะค่ะ
 

     และบรรดาเหล่าเจ้าของน้องหมาหลาย ๆ คนที่อยากเห็นน้องหมาของคนอื่น ๆ มีความสุขเหมือนน้องหมาของตัวเองก็ได้ทำธุรกิจต่าง ๆ สำหรับน้องหมาเพื่อตอบโจทย์ตลาดคนรักน้องหมาที่มีมากมายในอังกฤษ เช่น ร้านขนม ร้านเบเกอรี พัพเค้กเพื่อสุขภาพ ร้านกรูมมิ่งที่ผสมสานความแปลกใหม่ ธุรกิจสุดเก๋ไม่เหมือนประเทศอื่น ๆ อย่าง ธุรกิจชาสมุนไพรเพื่อช่วยระบบต่าง ๆ ในร่างกายของน้องหมา หรือธุรกิจอาหารเช้าซีเรียลมีคุณค่าที่ผลิตจากวัตถุดิบออร์แกนิคทั้งหมด ที่มีปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพของน้องหมา หรือโรงแรมสุนัขระดับห้าดาวนับสิบแห่งในอังกฤษที่คอยให้บริการน้องหมา เช่น The Paw Seasons Dog Hotel ที่จัดแพ็คเกจสุดหรูราคา 2 ล้านบาทสำหรับ 2 อาทิตย์ ที่น้องหมาจะได้รับการบริการชั้นเลิศต่าง ๆ จากทางโรงแรม เช่น บริการรถลีมูซีนรับส่ง อาหารรสเลิศจากวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมี่ยมโดยเชฟส่วนตัว อาบน้ำตัดขน บริการสปา นวดบำบัด ว่ายน้ำ ห้องพักสุดหรูที่มีโทรทัศน์อยู่ภายใน ออกกำลังกายในสนามหญ้า รวมถึงสุนัขยังจะได้รับเสื้อผ้า ปลอกคอจากแบรด์ดัง  Louis Vuitton สายจูงจาก Bottega Veneta และเสื้อกันฝนจากแบรนด์ Mulberry อีกด้วย
 

 
     นอกจากนี้ในประเทศอังกฤษก็ยังมีสินค้าแบรนด์เนมหลายยี่ห้อที่ผลิต ดีไซน์ข้าวของเครื่องใช้ของน้องหมาทั้ง เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เบาะนอน ปลอกคอ สายจูง ของเล่นหลากหลายรูปแบบ ฯ ออกมาเพื่อตอบโจทย์เหล่าคนรักน้องหมาที่ต้องการให้น้องหมาของตัวเองมีความ สุขและรู้สึกพิเศษแตกต่างจากน้องหมาของคนอื่น ๆ ซึ่งแน่นอนว่า เจ้าของน้องหมาในอังกฤษก็ยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการสุดพิเศษ เหล่านี้ให้กับน้องหมาแสนรักของตัวเอง

     รวมถึงเหล่าคนรักน้องหมาในอังกฤษและทางการยังได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น กิจกรรมแข่งขันลดน้ำหนักน้องหมาประจำปี การจัดกิจกรรมนิทรรศการประมูลภาพวาดฝีมือน้องหมาเพื่อนำเงินช่วยเหลือสัตว์ กิจกรรมรวมพลน้องหมาแต่งกายแฟนซีเพื่อทุบสถิติโลก กิจกรรมตั้งแคมป์ลดน้ำหนัก ฯลฯ ... เรียกได้ว่า คนรักสัตว์ในประเทศอังกฤษให้ความสำคัญกับน้องหมามาก ๆ หายใจเข้าหายใจออกก็นึกถึงแต่น้องหมาจริง ๆ ค่ะ แบบนี้น้องหมาที่ประเทศอังกฤษจะไม่มีความสุขได้ยังไงกันล่ะเนี่ย  ^^”
 

 
     เป็น ยังไงกันบ้างคะสำหรับการเลี้ยง การดูแลน้องหมาของผู้เลี้ยงในแต่ละประเทศสุดสุดยอดและจัดเต็มกันมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ? ... ทั้งดูแลน้องหมาตั้งแต่เรื่องอาหารการกิน เสื้อผ้า การรักษาโรค รวมถึงสวัสดิภาพต่าง ๆ ที่พิเศษสุด ๆ นั่นก็เพราะเจ้าของน้องหมาต่างก็อยากเห็นน้องหมาของตัวเองสุขภาพดีมีและมี ความสุขเพื่อน้องหมาจะได้อยู่กับเจ้าของน้องหมาไปนาน ๆ ยังไงล่ะคะ สำหรับผู้เลี้ยงชาวไทยอย่างเราก็อย่าลืมที่จะดูแลใส่ใจน้องหมาให้มีสุขภาพดี และแข็งแรงกันด้วยนะคะ น้องหมาจะได้อยู่สร้างรอยยิ้มให้กับเราไปนาน ๆ เช่นเดียวกันด้วยนะคะ ^^”
 

บทความโดย : Dogilike.com

ข้อมูลอ้างอิง :
http://info.gotomanager.com/news/details.aspx?id=6592
http://www.thaitradeusa.com/home/?p=6876
http://www.arip.co.th/businessnews.php?id=410480
http://www.marumura.com/talkative/?id=3382

ภาพประกอบ:
http://www.dailymail.co.uk/