โดย: Candyx

5 เคล็ดลับ เลี้ยงน้องหมายังไงให้ใคร ๆ ก็รุมรัก !

เลี้ยงน้องหมาอย่างรับผิดชอบ ใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้าง ...

25 สิงหาคม 2558 · · อ่าน (6,660)
1,436

SHARES


1,436 shares

Dogilike.com :: 5 เคล็ดลับ เลี้ยงน้องหมายังไงให้ใคร ๆ ก็รุมรัก !


     พักหลัง ๆ มานี้ เพื่อน ๆ หลายคนคงจะเห็นได้ว่า ในสังคมออนไลน์เริ่มมีประเด็นถกเถียงกันเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงน้องหมาของเจ้าของสุนัขที่ไม่ค่อยใส่ใจความรู้สึกส่วนรวมของคนอื่นกันมากขึ้น เช่น พาสุนัขเข้าไปนั่งในร้านอาหารที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก ให้สุนัขกินอาหารในภาชนะเดียวกันกับคน พาสุนัขเดินตลาดสด ละเลยการดูแลปล่อยให้สุนัขวิ่งเล่นอึฉี่อย่างอิสระ คุ้ยขยะภายในหมู่บ้าน ฯ ซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับกลุ่มคนที่กลัวและไม่ชอบสุนัข โดยบางคนก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมการเลี้ยงของเจ้าของสุนัขว่า ไม่เหมาะสมและเป็นการเลี้ยงสุนัขอย่างไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม

     เทคนิคการเลี้ยงการดูแล ในสัปดาห์นี้ ปังปอนด์ก็เลยจะพาเพื่อน ๆ เจ้าของน้องหมามาเรียนรู้การเลี้ยงน้องหมาอย่างรับผิดชอบต่อสังคม และเลี้ยงแบบไหนน้องหมาถึงจะเป็นที่รักของทุกคน โดยหัวใจสำคัญที่เพื่อน ๆ ต้องใส่ใจเลยก็คือ เจ้าของน้องหมาทุก ๆ คนจะต้องเลี้ยงน้องหมาแบบเอาใจเขามาใส่ใจเราค่ะ สำหรับเคล็ดลับการเลี้ยงน้องหมาให้ใคร ๆ ก็รักน้องหมาของเรามีวิธีที่ง่ายมาก ๆ ดังนี้เลยค่ะ

 

1.ดูแลจุดเกิดกลิ่น ทำความสะอาดร่างกายเสมอ



     วิธีที่แรกจะทำให้น้องหมาของเราเป็นที่รักของผู้พบเห็น สิ่งแรกคือเราจะต้องทำให้น้องหมาของเรามีเนื้อตัวสะอาด หอมน่าสัมผัส โดยวิธีง่าย ๆ ก็คือ การดูแลร่างกายและอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของน้องหมาให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงดูแลจุดเกิดกลิ่นที่จะทำให้น้องหมามีกลิ่นตัว โดยมีวิธีง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

     - อาบน้ำ บีบต่อมก้น แนะนำให้ผู้เลี้ยงอาบน้ำให้กับน้องหมาอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ในน้องหมาที่มีปัญหาเรื่องมีกลิ่นสาบ หรือมีกลิ่นตัวแรงเป็นพิเศษก็อาจจะเลือกแชมพูสูตรสำหรับสุนัขมีกลิ่นสาบ หรือแชมพูสูตรสมุนไพรที่มีสารสกัดธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิวหนังที่บอบบาง และอาจจะบีบต่อมก้น ซึ่งถือเป็นจุดที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวจุดหนึ่ง โดยต่อมก้นจะมีรูปร่างรีเป็นถุง 2 ข้าง ในตำแหน่ง 9 นาฬิกาและ 3 นาฬิกา บริเวณใต้ผิวหนังข้างรูทวารหนักในระหว่างอาบน้ำ เมื่ออาบน้ำเสร็จก็ใช้ไดร์เป่าขนน้องหมาจนแห้งสนิท เพื่อลดการเกิดความอับชื้น เกิดกลิ่น และโรคผิวหนังในน้องหมาค่ะ (อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ เทคนิคง่าย ๆ กับการบีบต่อมก้นให้สุนัข  )

     - ตัดเล็บ ผู้เลี้ยงควรหมั่นสังเกต ตัดเล็บ ตะไบเล็บ ตัดขนใต้ฝ่าเท้าให้น้องหมาเป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคที่มาจากพื้นดิน และไม่ควรปล่อยให้เล็บยาวจนโค้ง เพราะจะทำให้น้องหมาเดินลำบาก และเล็บอาจโค้งงอลงมาทิ่มเนื้อจนเกิดการอักเสบได้ค่ะ ( วิธีตัดเล็บน้องหมาง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้! )

     - แปรงฟัน ผู้เลี้ยงควรแปรงฟันให้น้องหมาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยใช้แปรงสีฟันสำหรับน้องหมา หรืออาจจะหาของเล่นขัดฟันมาให้น้องหมาแทะเล่นเพื่อลดการเกิดหินปูน ช่วยลดกลิ่นปาก หากพบน้องหมามีปัญหาช่องปาก เช่น มีกลิ่นปาก ปวดฟัน เหงือกอักเสบ ก็ควรรีบพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องหมาค่ะ

     - เช็ดตา ผู้เลี้ยงก็ควรดูแลรักษาความสะอาดดวงตาน้องหมาเป็นประจำ โดยใช้สำลีชุบน้ำเช็ดที่มุมหัวตา และหมั่นสังเกตดวงตาของน้ำหมาอย่างสม่ำเสมอ หากพบอาการผิดปกติ เช่น ขี้ตามีสีเขียวขุ่น ตาแดง น้ำตาไหลเยอะ ก็ควรพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์เพราะอาการเหล่านี้เป็นอาการเริ่มต้นของปัญหา สุขภาพดวงตาที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการมองเห็นของน้องหมาค่ะ

     - ดูแลหู ในน้องหมาสายพันธุ์ที่มีหูยาวอย่าง บีเกิ้ล ดัชชุน บลัดฮาวด์ ฯลฯ ผู้เลี้ยงควรตรวจดูความผิดปกติของหูและเช็ดทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1- 2 ครั้ง เพื่อสุขภาพหูที่ดีของน้องหมา และจะช่วยลดปัญหากลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

 

2.ฝึกวินัยพื้นฐานให้เจ้าตูบ

 

Dogilike.com :: 5 เคล็ดลับ เลี้ยงน้องหมายังไงให้ใคร ๆ ก็รุมรัก !

     ผู้เลี้ยงควรฝึกทักษะ คำสั่งพื้นฐานต่าง ๆ เช่น ฝึกให้น้องหมากินอาหารอย่างมีระเบียบ ไม่กินตะกละ ฝึกให้น้องหมาขับถ่ายเป็นที่ ฝึกให้รู้จักการรอคอย เพื่อน้องหมาโตขึ้นมาจะได้เป็นน้องหมาที่น่ารัก ไม่ตื่นกลัว หรือสร้างความวุ่นวายเมื่อต้องอยู่ในที่สาธารณะที่มีคนจำนวนมากค่ะ สำหรับการฝึกน้องหมา หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่า เป็นเรื่องยาก แต่จริง ๆ แล้ว หากผู้เลี้ยงเรียนรู้ เข้าใจพฤติกรรม นิสัยของน้องหมา การฝึกทักษะ คำสั่งพื้นฐานต่าง ๆ ก็จะไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ

     อย่างเช่น ในน้องหมาที่นิสัยกินเร็ว ตะกละ ผู้เลี้ยงก็ควรฝึกให้น้องหมารู้จักการรอคอย โดยฝึกให้นั่งลงก่อนให้อาหาร และให้อาหารจากภาชนะของตนเท่านั้น น้องหมาก็จะเรียนรู้ว่า ก่อนจะกินอาหารต้องทำตามคำสั่งก่อน หรือในน้องหมามีนิสัยเห่าเสียงดัง พร่ำเพรื่อเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ซึ่งอาจสร้างความรำคาญให้กับคนรอบข้าง  ผู้เลี้ยงก็จะเป็นจะต้องฝึกให้น้องหมาหยุดนิสัยดังกล่าว โดยเริ่มจาก เมื่อเห็นน้องหมาเริ่มเห่าสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ให้ผู้เลี้ยงใช้วิธีนิ่งเฉย และเบี่ยงเบนความสนใจของน้องหมา เช่น เคาะประตู หรือเคาะสิ่งของที่อยู่ใกล้ ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เพื่อให้น้องหมาตกใจ เมื่อน้องหมาหยุดเห่าให้พูดคำว่า "พอแล้ว" และเอ่ยชมว่า“ดีมาก” พร้อมกับตบที่ต้นคอน้องหมาเบา ๆ และให้รางวัลเป็นขนมที่ชื่นชอบ ซึ่งจะทำให้น้องหมารู้เงื่อนไขว่า การไม่เห่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและจะได้กินขนมที่ชอบค่ะ (ติดตามอ่านบทความเพิ่มเติมเรื่อง จัดการปัญหาน้องหมาเห่าพร่ำเพรื่อ  สอนน้องหมาให้กินอาหารอย่างมีระเบียบ



3.แยกภาชนะให้อาหารทุกครั้ง

 

Dogilike.com :: 5 เคล็ดลับ เลี้ยงน้องหมายังไงให้ใคร ๆ ก็รุมรัก !


     ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านอาหารหลาย ๆ ร้าน ได้เปิดโอกาสให้เจ้าของพาน้องหมาเข้ามาใช้บริการกันได้มากขึ้น ซึ่งผู้ที่เข้าใช้บริการห้างร้านต่าง ๆ นั้นก็มีทั้งผู้ที่รักน้องหมาและผู้ที่ไม่ได้เลี้ยงหมา ไม่ชอบน้องหมาเช่นเดียวกัน ดังนั้น ผู้เลี้ยงที่ต้องการพาน้องหมาเข้าไปใช้บริการในสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในร้านอาหารจึงจำเป็นที่จะต้องใส่ใจและนึกถึงใจของคนที่ไม่ได้ชอบน้องหมาให้มากขึ้นนะคะ

     เมื่อผู้เลี้ยงพาน้องหมาเข้าไปในห้างร้าน โดยเฉพาะกับร้านอาหารอนุญาตให้น้องหมาเข้าไปได้ ก็ควรแยกภาชนะให้อาหารกับน้องหมาอย่างชัดเจน ไม่ควรให้น้องหมากินอาหารภายในถ้วยหรือใช้ช้อนของร้านอาหารป้อนให้น้องหมาเพราะภาชนะหรือมือของเราอาจสัมผัสน้ำลายน้องหมาที่มีเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียได้ และไม่ควรหยิบอาหารจากบนโต๊ะป้อนอาหารให้น้องหมา หรือให้น้องหมานั่งร่วมโต๊ะ และไม่ปล่อยให้น้องหมาเดินไปมาได้อย่างอิสระ แต่ควรให้น้องหมาอยู่ภายใต้การควบคุม โดยอาจจะใส่สายจูงให้น้องหมานอนอยู่บริเวณใต้โต๊ะ หรือในรถเข็น เพราะหากผู้เลี้ยงปล่อยให้น้องหมากินอาหารในภาชนะเดียวกันกับผู้เลี้ยง หรือหยิบอาหารป้อนน้องหมา ก็จะทำให้ผู้ที่พบเห็นและผู้ที่ไม่ได้ชอบน้องหมาจะรู้สึกอึดอัดใจ มองว่า ผู้เลี้ยงเป็นเจ้าของที่ไม่มีวินัย เลี้ยงน้องหมาอย่างไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่รู้จักกฏระเบียบ และไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนส่วนรวมอีกด้วยค่ะ


4.ไปที่สาธารณะต้องเตรียมพร้อม


     สำหรับเจ้าของน้องหมาในต่างจังหวัด ส่วนมากแล้วก็มักจะปล่อยให้น้องหมาอยู่อย่างอิสระในขอบเขตรั้วบ้าน และมักจะไม่ค่อยนิยมอุ้มหรือน้องหมาออกไปนอกบ้านสักเท่าไหร่  แต่สำหรับเจ้าของน้องหมาที่อยู่ในตัวเมือง มักจะนิยมแต่งตัวน้องหมาแบบจัดเต็ม ก่อนอุ้มหรือให้น้องหมานั่งในรถเข็นพาไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยว คอมมูนิตี้มอลล์ สวนสาธารณะ ฯ

     ซึ่งการที่จะพาน้องหมาไปในที่สาธารณะที่มีผู้คนจำนวนมากแบบนี้ เจ้าของน้องหมาจำเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะที่จะต้องเตรียมอุปกรณ์ดูแลและเก็บกวาดอึฉี่ของน้องหมา เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนหรือเดือดร้อนคนอื่น ๆ แนะนำว่า เจ้าของน้องหมาควรมีกระเป๋าส่วนตัวที่มีข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์ทำความสะอาดติดตัวไปด้วยทุกครั้ง โดยภายในกระเป๋าควรมีสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ
 

-    หนังสือพิมพ์ หรือกระดาษทิชชูสำหรับเช็ดฉี่
-    ผ้าสำหรับเช็ดขน สิ่งสกปรกโดยเฉพาะ
-    ถุงเก็บอึน้องหมา
-    ถ้วยอาหาร ถ้วยน้ำพกพา
-    อาหารเม็ดและน้ำเปล่า
-    อาจมีของเล่น หรือขนมขบเคี้ยวเพื่อดึงดูความสนใจในกรณีน้องหมาซน เห่าส่งเสียงดัง

 


5.ใส่สายจูงเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ

 

Dogilike.com :: 5 เคล็ดลับ เลี้ยงน้องหมายังไงให้ใคร ๆ ก็รุมรัก !


     เมื่อต้องพาต้องพาน้องหมาออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ที่ถึงแม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใกล้ ๆ บ้านหรือพาน้องหมาไปในที่สาธารณะที่มีผู้คนจำนวนมาก สิ่งสำคัญที่ผู้เลี้ยงไม่ควรละเลยคือ การหาสายจูงมาใส่ให้กับน้องหมาตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้าน เพราะการใส่สายจูงจะช่วยทำให้ง่ายต่อการควบคุมน้องหมาให้อยู่ในสายตาของเราตลอดเวลา และยังช่วยในเรื่องความปลอดภัยของตัวสุนัขจากอุบัติเหตุต่าง ๆ  ที่อาจเกิดขึ้นในที่สาธารณะได้ เช่น รถชน โดนสุนัขตัวอื่นกัด

     และที่สำคัญคือ ช่วยจำกัดขอบเขตของน้องหมา ป้องกันไม่ให้น้องหมาของเราวิ่งหลุดไปหาคนอื่น ๆ ที่อาจจะกลัวหรือไม่ชอบน้องหมา ซึ่งอาจสร้างความเดือนร้อนให้กับคนอื่น ๆ ได้ และยังช่วยป้องกันน้องหมาวิ่งเตลิดเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ เนื่องจากในที่สาธารณะมีผู้คนที่กำลังทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ซึ่งอาจมีเสียง หรือสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้น้องหมาตื่นตกใจจนวิ่งหนีไปได้ค่ะ ฉะนั้น ผู้เลี้ยงสุนัขทุกคนควรมีสายจูงสุนัขติดไปด้วยในทุกที่เพื่อความปลอดภัยกันด้วยนะคะ


      จริง ๆ แล้วการที่จะทำให้น้องหมาของเราเป็นที่รักของทุก ๆ คน ทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่เราต้องเลี้ยงและดูแลน้องหมาให้สะอาด พร้อมทั้งใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้าง เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพียงเท่านี้การอยู่ร่วมกันของคนและน้องหมาก็จะไม่เกิดปัญหาแล้วล่ะค่ะ ยังไงเพื่อน ๆ ก็อย่าลืมสังเกตตัวเองและปรับปรุงในข้อที่่เราละเลยไปกันด้วยนะคะ ^_^

 

บทความโดย : Dogilike.com