การออกกำลังกาย ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญกับน้องหมาในทุกช่วงวัยและทุกสายพันธุ์ เพราะเมื่อน้องหมาได้ออกกำลังกายเป็นประจำก็จะช่วยสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้ยืดหยุ่นและแข็งแรง โดยเฉพาะในน้องหมาเด็ก หรือลูกสุนัข ที่เมื่อมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็จะช่วยให้พวกเค้าเจริญเติบโตสมวัย และช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ในอนาคตได้  ...

      เทคนิคการเลี้ยงการดูแลน้องหมา ในวันนี้ ปังปอนด์ก็เลยจะมาพูดถึงเรื่องการออกกำลังกายที่เหมาะสมในน้องหมาเด็ก และตอบข้อสงสัยของผู้เลี้ยงน้องหมาหลาย ๆ คนที่มีความเชื่อว่า ถ้าให้น้องหมาเด็กออกกำลังกายบ่อย  ๆ หนัก ๆ ตั้งแต่ยังเล็กจะช่วยให้น้องหมามีร่างกายที่แข็งแรงได้เร็วมากยิ่งขึ้น ว่าจริงหรือไม่ รวมถึงข้อควรระวังในการพาน้องหมาออกกำลังกายกันค่ะ ไปติดตามกันเลย 

 

จริงมั้ย? ที่ให้ลูกสุนัขออกกำลังกายหนัก ๆ แล้วจะแข็งแรง 

    เจ้าของน้องหมาหลาย ๆ คน มีความเชื่อที่ว่า ถ้าหากให้น้องหมาเด็ก หรือลูกสุนัขออกกำลังกายเยอะ ๆ หนัก ๆแล้วจะช่วยทำให้พวกเค้ามีร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ! ... ซึ่งจริง ๆ แล้วต้องบอกเลยค่ะว่า การให้น้องหมาออกกำลังกายหนัก ๆ มากจนเกินพอดี และไม่สอดคล้องกับช่วงอายุของน้องหมาก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของน้องหมาและอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยค่ะ

    ก่อนอื่นเลยเราต้องทำความเข้าใจเรื่องช่วงอายุของน้องหมาก่อนว่า ในลูกสุนัขสายพันธุ์เล็กจะมีลักษณะโครงสร้างของร่างกายที่เล็ก แต่มีช่วงอายุที่ยาวนานคือ มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 – 15 ปี ในขณะที่ลูกสุนัขสายพันธุ์ใหญ่มักจะมีช่วงอายุสั้นกว่า อายุขัยโดยเฉลี่ยของน้องหมาพันธุ์ใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 10-12 ปี  ... ซึ่งในน้องหมาพันธุ์ใหญ่จะมีช่วงวัยเด็กที่ยาวนาน เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยรูปร่างและโครงสร้างภายนอกของน้องหมาจะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นทั้งเรื่องของความสูงและขนาดของลำตัว ผู้เลี้ยงน้องหมาหลาย ๆ คนจึงมักเข้าใจผิดว่า น้องหมาเหล่านี้มีขนาดตัวใหญ่ โตแล้วก็ต้องการการออกกำลังกายที่เพิ่มมากขึ้นตามรูปร่างที่สูงใหญ่ไปด้วย 
 

    แต่ในความเป็นจริง ถึงแม้ว่า น้องหมาจะมีโครงสร้างภายนอกที่เริ่มใหญ่มากขึ้น แต่อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายก็ยังยังคงเติบโตและมีพัฒนาการต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าหากน้องหมาออกกำลังกายมากเกินไปก็จะทำให้อวัยวะภายในต่าง ๆ ทำงานหนักมากขึ้น ก็อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโต ความสมดุล และส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกายน้องหมาได้  ... โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีการระบายความร้อนไม่ดี มักจะหายใจหนัก ๆ หอบ น้ำลายยืดย้อยตลอดเวลาอย่าง เซนต์เบอร์นาร์ด , เคน คอร์โซ่ , มาสทิฟฟ์ ฯลฯ  การออกกำลังกายมากเกินไปก็อาจจะทำให้น้องหมาเหล่านี้เกิดอาการลมแดดหรือฮีตสโตรก ถ้าช่วยไม่ทันก็อาจจะทำให้น้องหมาเสียชีวิตได้ค่ะ

    ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงควรศึกษารูปแบบการออกกำลังกายและระยะเวลาในการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับทั้งลูกสุนัขพันธุ์เล็ก และลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่ก่อนให้พวกเค้าออกกำลังกาย แนะนำว่า ให้เตรียมน้ำเปล่าให้น้องหมากินก่อนและหลังการออกกำลังกายทุกครั้ง เพื่อป้องกันน้องหมาสูญเสียน้ำในร่างกาย รวมถึงในขณะออกกำลังกาย รวมถึง ให้สังเกต อาการเหนื่อยหอบของน้องหมา ถ้าหากน้องหมาเหนื่อยหอบมาก ๆ ก็ควรให้น้องหมาพัก หรือเลิกการออกกำลังกายในวันนั้น ๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับน้องหมาแสนรักของเราค่ะ

 

แล้วลูกสุนัขต้องออกกำลังกายแค่ไหนถึงจะเหมาะสม?

 

     สำหรับการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับลูกสุนัขนั้น สิ่งทีผู้เลี้ยงจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเลยก็คือ ช่วงอายุของน้องหมา กิจกรรม และประเภทการออกกำลังกายที่เหมาะสม โดยช่วงอายุสามารถแบ่งได้เป็น 3 ช่วง คือ น้องหมาวัยเด็ก น้องหมาโตเต็มวัย และน้องหมาสูงอายุ ซึ่งน้องหมาที่อยู่ในแต่ละช่วงวัยจะมีความต้องการและรูปแบบการออกกำลังกายที่แตกต่างกันไป ... โดยในบทความนี้ปังปอนด์จะขอพูดถึงเรื่องการออกกำลังกายที่เหมาะสมของลูกสุนัข หรือ น้องหมาในวัยเด็ก และเพื่อความเข้าใจง่าย ปังปอนด์จะขอแยกการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับน้องหมาเด็กสายพันธุ์เล็กและสายพันธุ์ใหญ่ ให้เพื่อน ๆ ได้นำไปปรับใช้และจัดตารางการออกกำลังกายให้กับน้องหมาได้ง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
 

สุนัขพันธุ์เล็กช่วงวัยเด็ก (อายุประมาณ 1-6 เดือน)
 

     ในลูกหมาพันธุ์เล็ก การออกกำลังกายถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะการพาน้องหมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ระบบร่างกายต่าง ๆ ของน้องหมาแข็งแรง ส่งผลดีต่อหัวใจและหลอดเลือด เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยกระตุ้นเรื่องระบบย่อยอาหาร และทำให้น้องหมาได้ปลดปล่อยพลังงาน ทำให้สามารถกินอาหารได้มากขึ้น และช่วยลดพฤติกรรมซุกซนในน้องหมาเด็กได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

     สำหรับการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับลูกสุนัขพันธุ์เล็ก ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะค่ะ โดยเราควรเริ่มพาน้องหมาออกกำลังกายตั้งแต่ยังเล็ก อาจจะหาของเล่นชนิดต่าง ๆ ที่เสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง ลูกบอลมาปาให้น้องหมาคาบเล่น หรือใส่สายจูงพาเดินและวิ่งเล่นวันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 10-15 นาที โดยจะต้องอยู่ในการควบคุมของผู้เลี้ยงตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย และอาจเริ่มฝึกทักษะขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ในช่วงอายุ 4 เดือนขึ้นไปเพื่อให้น้องหมามีสมาธิ สงบ และรู้จักการความคุมอารมณ์ เช่น ฝึกให้น้องหมารู้จักฟังคำสั่งง่าย ๆ อย่างการคอย นั่ง สวัสดี ฯ โดยทุกครั้งที่น้องหมาทำตามคำสั่ง ผู้เลี้ยงก็ควรแสดงความรักโดยการลูบหัว เกาตัว ชมเชยหรือให้ขนมชิ้นเล็ก ๆ เป็นรางวัล เพื่อให้น้องหมารู้สึกดีกับการฝึกทักษะค่ะ
 

สุนัขพันธุ์ใหญ่ช่วงวัยเด็ก (อายุประมาณ 1-18 เดือน)
 

     สำหรับลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่ การออกกำลังกายจะคล้ายกับน้องหมาเด็กพันธุ์เล็กแต่อาจจะใช้เวลาในการออกกำลังมากกว่านิดหน่อย โดยเวลาการออกกำลังกายที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 15-20 นาที หรือผู้เลี้ยงอาจจะใช้วิธีปล่อยให้น้องหมาเล่นตามธรรมชาติแล้วคอยสังเกตดูว่า น้องหมาออกกำลังกายอย่างเพียงพอโดยใช้เวลานานกี่นาทีแล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาเมื่อน้องหมาเริ่มโตและแข็งแรงขึ้น เช่น ปล่อยวิ่งเล่นในสนามหญ้าอย่างอิสระ เพราะเมื่อน้องหมาปลอดปล่อยพลังงานอย่างเต็มที่จนเริ่มเหนื่อย น้องหมาก็จะรู้ตัวเองว่าควรจะหยุดวิ่งเล่นเมื่อไหร่นั่นเองค่ะ

     การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับลูกสุนัขพันธุ์ใหญ่ ควรเป็นการออกกำลังกายเบา ๆ เช่น จูงเดิน เล่นปาลูกบอล หรือให้ของเล่นที่ช่วยเสริมสร้างทักษะในด้านต่าง ๆ อย่างการของเล่นที่สามารถซ่อนอาหารหรือขนมไว้ข้างในได้ เพื่อให้น้องหมาได้ฝึกการค้นหา และคิดวิธีการนำขนมออกมาจากของเล่น ซึ่งจะช่วยเรื่องการพัฒนาสมองของน้องหมา ที่จะช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
 
     รวมถึงผู้เลี้ยงไม่ควรให้น้องหมาเด็กออกกำลังกายหนัก ๆ และควรหลีกเลี่ยงการเกิดการกระแทก หรือปล่อยให้น้องหมาอ้วนตั้งแต่เด็ก ๆ (ต้องควบคุมเรื่องโภชนาการอาหารให้เหมาะสม อ่านเพิ่มเติมที่บทความ สุนัขพันธุ์ใหญ่กับโภชนาการที่เหมาะสม ...) เพราะน้องหมาเด็กมีกระดูกที่ค่อนข้างอ่อน ยังไม่แข็งแรงสมบูรณ์เต็มที่ หากน้องหมาออกกำลังกายหนัก เกิดการกระแทก หรือมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไปก็จะทำให้ร่างกายต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นและอาจจะเกิดปัญหาเรื่องกระดูกและโครงสร้างในอนาคตได้ค่ะ
 

    จริง ๆ แล้ว เรื่องการควบคุมการออกกำลังกายของน้องหมาวัยเด็กให้เหมาะสมกับน้องหมาแต่ละตัวนั้นไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่เราศึกษาข้อมูลของสายพันธุ์ดูก่อนว่า น้องหมาเค้ามีลักษณะพิเศษด้านไหน ชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร และอาจจะปรึกษากับสัตวแพทย์เพื่อให้ช่วยวางแผนเรื่องการออกกำลังกายของน้องหมาแสนรัก พร้อมกับดูแลเรื่องโภชนาการที่เหมาะสมควบคู่กันไปด้วย รวมถึงให้เวลากับน้องหมาอย่างสม่ำเสมอ เพียงแค่นี้น้องหมาก็จะมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง เติบโตและก้าวเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยได้อย่างสมบูรณ์ มีอายุที่ยืนยาวอย่างแน่นอนค่ะ ...


 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/

ภาพประกอบจาก :
http://calmercaninestraining.com/
https://pixabay.com/th
http://www.zastavki.com/