Dogilike Review มาแล้วจ้า!! ... เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มะเหมี่ยวมีโอกาสได้ไปเดินเที่ยวงานมหิดลคนรักสัตว์ ครั้งที่ 10 มา บอกเลยว่าสนุ๊กสนุก มีน้องหมาน่ารักๆ เพียบ แถมยังมีสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจให้ช้อปอีกต่างหาก

     แหม จะว่าไปงานดีๆ แบบนี้ก็ไม่ได้มีทุกวัน มะเหมี่ยวขอช้อปหน่อยละกันเน๊อะ ... เดินไปเดินมาก็เจอคุกกี้อบสดๆ ใหม่ๆ ไร้สารปรุงแต่ง "Doggie N Cookie คุกกี้บำบัดกลิ่นปากน้องหมา" ของน้องๆ นักศึกษาคณะสัตวแพทย์ มหิดล บอกเลยว่าน่าสนใจมาก ว่าแล้วก็เลยจัดมาฝากบรรดาเจ้าตัวแสบที่บ้านซะหน่อย ส่วนจะอร่อยโดนใจน้องหมาหรือไม่นั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ

 

คุณสมบัติพิเศษ

     "Doggie N Cookie คุกกี้บำบัดกลิ่นปากน้องหมา" เป็นคุกกี้ที่ถูกพัฒนาสูตรขึ้นมาเพื่อช่วยลดปัญหากลิ่นปากของน้องหมา เนื่องจากไม่ว่าน้องหมาจะกินอาหารแห้งหรืออาหารเปียก ก็มักจะมีแบคทีเรียในปากที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก และเกิดหินน้ำลายติดอยู่ตามซอกและคอฟันน้องหมา จนทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกซึ่งเป็นที่มาของ "กลิ่นปาก" การให้อาหารเสริมในรูปแบบของ "คุกกี้" ที่มีลักษณะทางกายภาพเป็นก้อนใหญ่และเหนียวยืดหยุ่นจะทำให้น้องหมาใช้เวลาเคี้ยวในช่องปากนานขึ้น ช่วยเพิ่มการหลั่งน้ำลายที่จะช่วยทำความสะอาดช่องปากและฟัน นอกจากนี้ยังช่วยลดการสะสมของหินน้ำลายตามคอฟันด้วย

     สำหรับ Doggie N Cookie มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ แป้งข้าวสาลี , แป้งข้าวเจ้า , ตับไก่บด , รำอ่อน , นมผง , น้ำมันรำข้าว , ไข่เป็ด , ฟักทอง , เบคอน , วิตามินอี , ซิงค์คลอไรด์

 

วิธีใช้

     ให้น้องหมากินคุกกี้หลังมื้ออาหารนะคะ โดยปริมาณที่เหมาะสมในการให้อยู่ที่ 4-5 ชิ้น ต่อวัน แบ่งให้น้องหมามื้อละ 2-3 ชิ้นก็ได้ค่ะ ... ให้น้องหมากินประจำในปริมาณที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยบรรเทาปัญหากลิ่นปากน้องหมาได้ค่ะ
 

จุดเด่น

     ฟังทอง ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของ Doggie N Cookie มีคุณค่าทางค่าโภชนาการอาหารคือ มีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง และมีเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง สารอาหารในฟักทองจะมีประโยชน์ในการบำรุงผิวหนังและขนของน้องหมา แถมยังมีกากใยซึ่งดีต่อระบบขับถ่ายของน้องหมาด้วย

 

จุดสังเกต

     เมื่อแกะคุกกี้ให้น้องหมากินแล้ว ควรกินให้หมดภายใน 2 สัปดาห์ และควรเก็บไว้ในที่แห้งห่างจากความชื้นด้วยค่ะ

 

ความรู้สึกหลังการใช้งาน

     งานชิมขนมนี่ขอให้บอก พวกตัวแสบทั้งหลายพร้อมใจกันนั่งเรียงหน้าสลอนรอกินขนมกันเป็นแถว .......... วันนี้มะเหมี่ยวหลอกหมามากินขนมได้ 3 ตัวค่า ได้แก่ เรด้าร์ (ชิวาวาหน้าหนูหริ่ง) , เกาลัด (พุดเดิ้ลตัวแสบ) , ถั่วแดง (ไทยหลังอานหางดาบขาโหด)

     ... ได้หมาทดลองชิมแล้ว ทีนี้เราก็มาดูที่ตัวคุกกี้กันบ้างดีกว่า พอแกะกล่องคุกกี้ออกมาจะได้กลิ่นหอมๆ ของเบคอนทันทีเลยล่ะค่ะ มะเหมี่ยวแอบชิมคุกกี้เองด้วยนะ (5555 น้องๆ ที่คณะสัตวแพทย์ยืนยันมาแล้วว่ากินได้ค่ะ ก็เลยลองจัดไปซักหน่อย) คุกกี้จะมีรสเค็มนิดๆ แต่จะมีกลิ่นหอมจากแป้งสาลี ฟักทอง และเบคอน เนื้อคุกกี้จะไม่กรอบมาก มีความหนืดเล็กน้อย
 

     คนชิมแล้วทีนี้ก็ถึงตาน้องหมาบ้าง เอ้า!!! จัดไป ...


เริ่มกันที่เจ้า "เรด้าร์" ... จ้องขนมตาแป๋วเลย



จะกินละน้าาาาา อะ อะ อะ อ้ามมมม ...



งั่มมมมม เต็มปากเต็มคำ อาหย่อยยยยย





ต่อกันด้วย "เกาลัด" ตัวแสบ .... ชีวิตจิตใจจดจ่ออยู่แต่กับขนม ขนม ขนม


หมอจังงงงง ขอกินโหน่ยยยยยยย




ยังกินไม่ได้ ฝึกความอดทนก่อน อยู่นิ่งๆ !!!




กินได้ยังอ่ะ มันหอมนะ ><



ทนไม่ไหวละ จะหม่ำละนะ!!




หูยยย หย่อยยจิงๆ ด้วย แง่มๆๆๆ





ปิดท้ายกันด้วย "ถั่วแดง" ขาใหญ่ประจำบ้าน


หวัดดีก่อนเร็ว แล้วจะให้กิน ...




หวัดดีแล้วกินได้ยังอ่ะแม่ ><




งั่ม งั่ม งั่ม อร่อยสมการรอคอยเลยอ่ะ


 

     โห เคี้ยวกันมันส์เลยนะพวกตัวแสบ กินเรียบแบบนี้แสดงว่าของเค้าดีจริงๆ นะคะเนี่ย ถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็ลองโทรไปสอบถามรายละเอียดได้ที่ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เบอร์โทรศัพท์ 02-441-5242-5 ค่ะ ^^


 

เดี๋ยวก่อนๆ อย่าเพิ่งไป มาเล่นเกมกันก่อน!!!!





ประกาศรายชื่อโชคดีจากการร่วมสนุกในกิจกรรม






 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/