ถ้าถามว่าน้องหมาสายพันธุ์ไหนของไทยที่โด่งดังไปไกลยังต่างแดนคงหนีไม่พ้น “ไทยหลังอาน” หน้ามอม ขนเกรียน น่าเกรงขาม และอีกสายพันธุ์ที่หลายครอบครัวทั่วไทยเลี้ยงกันอยู่ นั่นก็คือ “ไทยบางแก้ว” น้องหมาหน้าคล้ายสุนัขจิ้งจอก ขนฟู ที่ดูเหมือนจะน่ารักแต่กลับดุดันไม่กลัวใครหน้าไหน มีวีรกรรมสุดแสบให้โจษจันไม่เว้นวัน ซึ่งหลายคนรู้จัก คุ้นเคยกันดี แต่จะมีสักกี่คนที่รู้เบื้องลึก เบื้องหลังของพวกเขาว่ามีต้นกำเนิดอยู่ที่ไหน ทำไมมีนิสัย พฤติกรรมเช่นนั้น
 

     บทความนี้พริกก็เลยได้ไปหาข้อมูลเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับน้องหมาพันธุ์บางแก้วที่พริกเคยเลี้ยงเมื่อหลายปีที่แล้วแต่ไม่ค่อยได้ใส่ใจรายละเอียดชีวิตของพวกเขาสักเท่าไหร่ การเขียนบทความนี้จึงเปรียบเสมือนการได้กลับไปทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงพวกเขาอีกครั้งค่ะ ... ว่าแต่จะเป็นเรื่องอะไรกันบ้าง ตามไปดูกันดีกว่า

 

 

 

 

      100 ปีที่แล้ว บ้านบางแก้ว ต.ท่านางงาม  อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ยังปกคลุมด้วยผืนป่าหนาทึบ ชาวบ้านส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนเรือนแพริมแม่น้ำลำคลองและประกอบอาชีพประมง เมื่อเข้าฤดูน้ำหลากก็จะสัญจรเข้าออกหมูบ้านได้เพียงทางเรือเท่านั้น ถ้าปีไหนน้ำมากเป็นพิเศษก็ไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกไม่ได้เลย น้องหมาที่เลี้ยงไว้ในบ้านก็ออกไปไหนไม่ได้ พอตกกลางคืนก็เจอกับหมาจิ้งจอก หมาป่า ที่ออกมาหากินบริเวณบ้านยามค่ำคืน จึงเกิดการผสมพันธุ์ ออกลูก ออกหลาน เป็นลูกผสมระหว่างหมาบ้าน หมาจิ้งจอก และหมาป่า  อีกทั้งบ้านบางแก้วยังเป็นพื้นที่ทีห่างไกลชุมชนอื่นๆ สัญจรไปมาได้เพียงทางน้ำจึง มีอาณาบริเวณจำกัด  จึงส่งผลให้ลักษณะสายพันธุ์จากรุ่นสู่รุ่นค่อยๆ นิ่ง มีเอกลักษณ์ชัดเจน จนกลายเป็น น้องหมาสายพันธุ์บางแก้ว จอมกร่างในที่สุดค่ะ

  

 

 

 

     หมู่บ้านบางแก้วอยู่ติดกับแม่น้ำลำคลอง ชาวบ้านอาศัยอยู่บนแพ น้องหมาบ้างแก้วเกิดมาพร้อมกับสายน้ำ ธรรมชาติจึงสร้างแผ่นหนังระหว่างนิ้วแต่นิ้วให้กว้างกว่าน้องหมาทั่วๆ ไป มีฝ่าเท้าที่ค่อนข้างใหญ่ มีข้อเท้าแข็งแรง เพื่อช่วยในการตะกุยน้ำ ว่ายน้ำได้ดี เพื่อให้เหมาะสมกับการดำรงชีพอยู่ริมน้ำอย่างปลอดภัย สามารถหากินและเอาตัวรอดได้แม้ในยามน้ำหลาก จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมน้องหมาบางแก้วเกือบทุกตัวจึงว่ายน้ำได้ ชอบหนีไปลงน้ำในบ่อปลา หรือกะละมังหลังบ้าน ... เพราะนิสัยนี้มันอยู่ในสายเลือดของพวกเขานั่นเองค่ะ ^^  

 

 

 

 

     ถึงแม้น้องหมาบางแก้วจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการกินสักเท่าไหร่ กินได้ไม่ว่าจะอาหารคาวหรืออาหารเม็ด แต่หากย้อนกลับไปถึงถิ่นกำเนิดจะรู้ว่า อาหารประจำของเขาก็คือปลา นั่นเอง เนื่องจากน้องหมาบางแก้วมีถิ่นกำเนิดอยู่ริมแม่น้ำลำคลอง ชาวบ้านบริเวณนั้นจับปลาหาเลี้ยงชีพ ช่วงหน้าฝนมีน้ำท่วมจึงทำมาหากินอะไรไม่ได้นอกจากจับปลา เหล่าเจ้าบางแก้วทั้งหลายเลยได้กินปลาเป็นอาหารหลักไปโดยปริยาย นี่เองจึงพวกเขาชอบอาหารกลิ่นคาวๆ ดังนั้นถ้าน้องหมาบางแก้วของเพื่อนๆ คนไหนให้อะไรก็ไม่ค่อยกิน ลองนึ่งเนื้อปลาอุ่นๆ กลิ่นหอมๆ ให้เขากินดู อาจจะติดใจก็ได้ค่ะ อย่างไรก็ตามควรศึกษาเรื่องโภชนาการกับปริมาณในการปรุงอาหารให้พวกเขากินเองด้วยนะคะ (อ่านเพิ่มเติม ปรุงอาหารให้น้องหมาง่ายๆ แบบมืออาชีพ ค่ะ) 

 

 

 

 

 

 

     อย่างที่ได้บอกไปแล้วข้างต้นว่า น้องหมาบางแก้วเกิดการผสมพันธุ์กันระหว่างหมาบ้าน หมาจิ้งจอก และหมาป่าซึ่งการผสมผสานกันถึง 3 สายพันธุ์นี้เองทำให้น้องหมาบางแก้วมีลักษณะใบหน้าแบ่งออกมาได้เป็นอีก 3 ลักษณะคือ 1) หน้าสิงห์ หรือ หน้าสิงโต 2) หน้าเสือ 3) หน้าจิ้งจอก  ซึ่งแต่ละลักษณะมีความแตกต่างกันที่กะโหลกศรีษะ ขนาดหู และ กระบอกปากที่สั้นยาวไม่เท่ากันเป็นส่วนใหญ่ ถัดลงมาจะเป็นลักษณะขน และลำตัวตามลำดับ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากรู้ว่า แต่ละลักษณะมีรายละเอียดต่างกันอย่างไร และน้องหมาบางแก้วของเพื่อนๆ จัดอยู่ในใบหน้าลักษณะไหน ต้องไม่พลาดเรื่องน่ารู้น้องหมาบางแก้ว สัปดาห์หน้าค่ะ ^___^   

 

 

 

 

     เนื่องจากน้องหมาบางแก้วมีเชื้อหมาป่า หมาจิ้งจอก ซึ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในป่า สร้างโพรง ขุดดินไว้เป็นที่อยู่อาศัย เกราะป้องกันภัย ซ่อนหรือเก็บอาหารที่เหลือกลบฝังไว้ใต้ดินไว้เป็นคลังอาหารไว้อย่างปลอดภัย เมื่อใกล้คลอดลูกก็จะใช้ปากกัดดิน เท้าขุดรู สร้างเป็นโพรงดินอันอบอุ่นขึ้นมา ต้อนรับสมาชิกใหม่เพื่อป้องกันภัยให้พวกเขาเป็นอย่างดี แล้วถึงแม้เวลาจะผันผ่านมากว่าร้อยปีตั้งแต่น้องหมาบางแก้วถือกำเนิดมา แต่ว่าสัญชาตญาณสัตว์ป่าของพวกเขาก็ยังคงดำรงเอกลักษณ์อยู่ ถ้าบ้านใครมีแปลงดอกไม้แสนสวย อาจจะต้องทำใจหน่อยนะคะ ^^ 

 

 

 

 

     น้องหมาบางแก้วมีขนค่อนข้างหนา ฟู น่าจะมีกลิ่นอับ กลิ่นตัว เช่นเดียวกับน้องหมาพันธุ์อื่นๆ อย่างน้องหมาโกลเด้นท์ รีทรีฟเวอร์ เยอรมันเชฟเฟิร์ด แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาเป็นน้องหมาที่ไม่มีกลิ่นตัว เช่นเดียวกับน้องหมาไซบีเรียนฮัสกี้ที่มีเชื้อสายหมาป่า ต่อให้ตากฝน แช่น้ำ จนตัวชื้น หรือไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือนก็ไร้กลิ่นตุๆ อย่างไรก็ตามการดูแลสุขภาพผิวหนังก็เป็นสิ่งสำคัญ ผู้เลี้ยงควรระมัดระวังเรื่องความสะอาด ผิวหนังอับชื้น อาการแพ้ที่ผิวหนัง ซึ่งมักเกิดขึ้นบ่อยกับน้องหมาบางแก้วค่ะ  (อ่านเพิ่มเติม เรื่องการดูแลผิวหนังได้ที่บทความ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเลี้ยงน้องหมาไทยบางแก้ว ค่ะ)

 

 

 

     ตามมาตรฐานสายพันธุ์ของน้องหมาบางแก้ว พวกเขาเป็นน้องหมาที่เฉลียวฉลาด มีไหวพริบ กระตือรือร้น จงรักภักดี มีความน่ารัก สุขุม รักเจ้าของ แต่ ... มีความมั่นใจในตัวเองมากจนเกินไป ดื้อ รักอิสระ ไม่ขึ้นอยู่กับใคร หรือเชื่อฟังใครง่ายๆ ยากต่อการฝึก และขี้อิจฉา ซึ่งการแบกศักดิ์ศรี และพกความมั่นใจไว้กับตัวจนเกินพิกัดของพวกเขานี่เองคือที่มาของสงครามทั้งในบ้าน และนอกบ้าน พวกเขามักชอบแสดงอำนาจ แสดงศักดานุภาพที่เหนือกว่าทั้งกับน้องหมาตัวอื่น และคนในครอบครัว .... ประมาณว่า ของๆ ข้าใครอย่าแตะ! เพราะมันเท่ากับการสูญเสียอธิปไตย และ ศักดิ์ศรี เวลาน้องหมาบางแก้วกัดกันจะไม่มีตัวไหนยอมปล่อยถึงแม้จะเลือดอาบตัว แม้ว่าเราจะเอาไม้คานไว้เพื่อแยกออก หรือจะสาดน้ำให้ตกใจ ก็ไม่ยอมปล่อยออกจากกันง่ายๆ นั่นเพราะศึกที่พวกเขาสู้อยู่ เป็นศึกของศักดิ์ศรี ฆ่าได้ ตายได้ แต่หยามกันไม่ได้เด็ดขาด! 

 

 

 

 

 

     หลายคนฟันธงไปว่าบางแก้วเป็นน้องหมาก้าวร้าวโดยพันธุกรรม แต่แท้จริงแล้วเป็นพฤติกรรมของน้องหมาบางแก้วที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง มีความเป็นผู้นำ แบกรับศักดิ์ศรีของผู้พิทักษ์ปกป้องถิ่น และทรัพย์สิน ซึ่งเป็นนิสัยโดยธรรมชาติของน้องหมาที่มีไว้เฝ้าบ้าน (Watch Dog) และ น้องหมาอารักขา (Guard Dog) เกือบทุกสายพันธุ์ เพียงแต่บางแก้วมีความดื้อรั้น รักศักดิ์ศรี ไม่ยอมรับใครง่ายๆ ประกอบกับการได้รับการส่งเสริมความมั่นใจแบบผิดๆ ไม่ได้รับการฝึก และ ไม่มีเจ้าของที่มีความสุขุม มั่นคงทางอารมณ์ เป็นจ่าฝูงที่พวกเขายอมรับ ควบคุมพวกเขาได้ จึงเกิดการหล่อหลอม สั่งสมเป็นพฤติกรรมก้าวร้าว แสดงตัวเป็นนายของบ้าน ไม่ยอมใครนั่นเองค่ะ
 

     หากผู้ใดคิดจะเลี้ยงน้องหมาบางแก้ว ควรเรียนรู้พฤติกรรมของสายพันธุ์เสียก่อน จากนั้นกลับมามองย้อนตัวเองว่าจะรับมือกับความมั่นใจเกิดของพวกเขาได้ไหม เราต้องเตรียมตัวความเป็นจ่าฝูงอย่างไร เพื่อคงความมั่นใจควบคู่ไปกับความมั่นคงทางอารมณ์ให้แก่พวกเขา เพื่อวันหนึ่งเมื่อเขาเกิดก้าวร้าวขึ้นมาจะได้ไม่โยนความผิดบอกว่ามันเป็นนิสัยก้าวร้าวของพวกเขา นำมาเป็นข้ออ้างในการขัง ล่าม หรือนำไปปล่อยข้างถนนให้กลายเป็นปัญหาสังคมต่อไป  

 

 

 

     เรื่องดื้อรั้น ไม่เชื่อฟังคำสั่ง เป็นเรื่องสามัญทั่วไปของคนเลี้ยงบางแก้วต้องเจอ เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว การจะยอมรับใครเป็นเจ้าของ หรือเป็นนาย ไม่ใช่เรื่องที่จะมาโอนอ่อนยอมกันง่ายๆ พวกเขาเป็นน้องหมาที่มีความเป็นจ่าฝูง มีการแสดงอำนาจเหนืออยู่ในตัว แต่เมื่อใดที่พวกเขายอมสยบให้แก่ใคร นั่นหมายถึงว่า พวกเขายอมรับว่าผู้นั้นเป็นจ่าฝูง มีความสุขุมมั่นคงทางอารมณ์ ซึ่งพวกเขาก็พร้อมจะจงรักภักดีต่อคนคนนั้น และจะปกป้อง จงรักภักดีไปจนวันตายเลยล่ะค่ะ  (อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ จิตวิทยาง่ายๆ ในการฝึกตนเองให้เป็น "จ่าฝูง" ของสุนัข ค่ะ) 

 

 

 

 

     น้องหมาทั่วไปปกติแล้วจะโตเต็มวัยเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุประมาณ 1 ปี แต่สำหรับน้องหมาบางแก้วตัวเมียจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์อย่างรวดเร็ว เป็นสัดครั้งแรกเมื่ออายุได้ 8 เตือน นั่นหมายถึงพวกเขาสามารถมีลูกได้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 1 ปี ในขณะที่โครงสร้างร่างกายยังเติบโตไม่เต็มที่ หากปล่อยให้น้องหมาผสมพันธุ์ ตั้งท้องในช่วงอายุนี้ จะทำให้แม่สุนัขแคระแกรน ตัวเล็ก ไม่สวยงาม อีกทั้งยังส่งผลถึงความสมบูรณ์ของร่างกายของลูกหมาให้ได้รับการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ที่ไม่ดี มีความบกพร่องของอวัยวะภายในร่างกายได้อีกด้วยค่ะ

 

     ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับน้องหมาบางแก้วตัวเมียที่จะผสมพันธุ์ก็เมื่ออายุได้ 1 ปีขึ้นไป ส่วนน้องหมาบางแก้วตัวผู้ควรให้ผสมพันธุ์ เมื่ออายุ 2 ปีขึ้นไป จึงจะได้ลูกที่ออกมามีลักษณะดี สุขภาพแข็งแรง เติบโตสง่างามค่ะ

 

 

 

     เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับการทำความรู้จักน้องหมาบางแก้วมากขึ้นบ้างไหมคะ แล้วถ้าเพื่อนๆ ติดตามข่าวของน้องหมาบางแก้วก็จะรู้ว่า เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาน้องหมาบางแก้วของไทยได้รับการรองรับโดยสมาพันธ์สุนัขโลก (F.C.I) เป็นการชั่วคราว แม้อาจจะต้องรอตรวจมาตรฐานสายพันธุ์บางแก้วจนกว่าจะได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการไปอีกเกือบ 10 ปีก็ตาม ซึ่งนักพัฒนาสายพันธุ์และผู้เลี้ยงบางแก้วในเมืองไทยก็ต่างพยายามที่จะรักษาเอกลักษณ์มาตรฐานของน้องหมาบางแก้วไว้อย่างสุดความสามารถ เพื่อให้พลักดันให้น้องหมาไทยบางแก้วยืนตระหง่านอยู่บนเวทีการประกวดสุนัขโลกอย่างสมภาคภูมิ ประกาศศักดาให้รู้ว่าพวกเขามีความสวยงาม ลักษณะดีไม่แพ้น้องหมาชาติใด ... แล้วอย่าลืมเอาใจช่วยกันนะคะ ... ไทยบางแก้วสู้ตายค่า ^___^ 

 

 บทความโดย : Dogilike.com

 

ข้อมูลอ้างอิง :

http://www.bangkaewkhonkaen.com/articles/484887/l

http://www.bangkaewhotspring.com/ae.html

http://www.bangkaewhotspring.com/am.html

https://www.youtube.com/watch?v=zX49vssRUJ8

http://pbbiogangblog.wordpress.com/

http://www.nupet.org/สุนัข/บางแก้ว/24

http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2007/08/J5727319/J5727319.html

http://family.dogilike.com/boonjdevildog/entry/view.php?type=G&id=8639&img=58363

เทปวัสดุโทรทัศน์สารคดี ภาพแรกในชีวิต ตอน สุนัขบางแก้ว

 

ภาพประกอบ :

http://family.dogilike.com/boonjdevildog/entry/view.php?type=G&id=8635&img=58338

http://family.dogilike.com/kaarangss/profile/?dog=6921

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000018280

http://family.dogilike.com/pink0639/profile/?dog=9020

http://bangkaew.com/elearning/mod/forum/user.php?id=15&course=1&mode=posts&perpage=5&page=13

http://www.bangkaew.com/elearning3/mod/forum/discuss.php?d=1792

suratthanicity.olxthailand.com

http://pitbullzone.com/community/discussion/

http://www.reocities.com/dogthai2000/dog4.htm