ถ้าหากจะพูดถึงน้องหมาสายพันธุ์ใหญ่ไซส์จัมโบ้ที่มีความโดดเด่นในด้านของรูปร่างลักษณะอันใหญ่โต แต่แฝงไปด้วยความเป็นมิตรและความน่ารักน่าเอ็นดูแล้วล่ะก็ เชื่อว่าจะต้องมีชื่อของน้องหมาสายพันธุ์ "อลาสกัน มาลามิวท์" ติดอันดับเป็นหนึ่งอยู่ในนั้นแน่ๆ เพราะถึงแม้รูปร่างลักษณะจะดูใหญ่โตน่าเกรงขาม แต่เมื่อมองลึกเข้าไปในแววตาของพวกเขาแล้วจะพบว่า แท้จริงแล้วพวกเขาก็เปรียบเหมือนเด็กน้อยน่ารัก ขี้อ้อนคนหนึ่ง ที่พร้อมจะหยิบยื่นมิตรภาพให้กับทุกคน

     และด้วยความโดดเด่นมีเอกลักษณ์ในด้านของรูปร่างลักษณะ บวกกับมีนิสัยที่เป็นมิตร เหมาะกับผู้เลี้ยงทุกเพศทุกวัย ทำให้น้องหมาอลาสกัน มาลามิวท์ กลายเป็นน้องหมาในดวงใจของใครหลายๆ คน

     ... สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังคิดว่าอยากจะเลี้ยงน้องหมาสายพันธุ์นี้อยู่และอยากจะได้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับน้องหมาสายพันธุ์นี้แบบลึกซึ้งล่ะก็ วันนี้มะเหมี่ยวมีข้อมูล ข้อคิด และคำแนะนำดีๆ จาก "คุณอั๋น - วริทธิ์ โสตถิวิรัช" จาก Alaskan Club Thailand เกี่ยวกับการเลี้ยงน้องหมาอลาสกัน มาลามิวท์ มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ

 

มาทำความรู้จักกับน้องหมาอลาสกัน มาลามิวท์ กันก่อนเลย

     อย่างที่เราทราบกันดีครับว่า น้องหมาสายพันธุ์อลาสกัน มาลามิวท์ เป็นน้องหมาสายพันธุ์ใหญ่ โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น Alaskan Standard คือไซส์ปกติ กับ Giant Alaskan ซึ่งจะมีขนาดสูงใหญ่อย่างโตเต็มวัยหนักถึง 70 กิโลกรัม หรือมากกว่าก็มีครับ บางทีเราก็จะเรียกอลาสกันไซส์นี้ว่า Giant Panda กับตัวที่ขนจะยาว โครงสร้างใหญ่ แต่ความสูงจะสูงไม่มาก

     สำหรับจุดเด่นของน้องหมาอลาสกันที่สามารถสังเกตได้ชัดก็คือ หางของเขาจะม้วนขึ้นครับ สีตาทั้งสองข้างจะเป็นสีเดียวกัน โครงสร้างใหญ่ กระบอกปากอูม ไม่แหลมเหมือนกับไซบีเรียน ... ส่วนในด้านนิสัยใจคอของอลาสกัน พวกเขาเป็นหมาที่ฉลาดมากครับ บางตัวก็ฉลาดแกมโกง ขี้อ้อน และเป็นน้องหมาตัวใหญ่ที่คิดว่าตัวเองตัวเล็ก
 

จุดเริ่มต้นในการมารวมตัวกันเป็น Alaskan Club Thailand เริ่มต้นจากอะไร

     โดยปกติเดิมทีก็จะมีแฟนเพจสำหรับคนเลี้ยงอลาสกันอยู่แล้วครับ แต่ยังอยู่กระจัดกระจาย ผมและน้องๆ ที่เลี้ยงสายพันธ์นี้ก็เลยตกลงว่าจะรวมเป็นแฟนเพจเดียวเลยจะได้ติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ง่ายๆ ก็เลย ตั้งชื่อเป็น Alaskan Club Thailand ซึ่งในแฟนเพจก็จะมีการให้สอบถามปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับน้องหมาอลาสกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงดู การให้อาหาร เป็นต้น รวมไปถึงเราก็จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ด้วย อย่างที่ผ่านมาก็เพิ่งจัดมีทติ้งไปครับ สนุกมาก เพราะได้เจอคนที่เลี้ยงน้องหมาสายพันธ์อลาสกันเยอะแยะเลย หลากสี หลากไซส์ครับ โดยวัตถุประสงค์คืออยากจะให้คนที่เลี้ยงได้พบปะพูดคุยกันและมีผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ในงานมีทติ้งสำหรับสายพันธ์อลาสกันโดยเฉพาะครับ

 

คิดว่าคนทั่วไปเข้าใจอะไรผิดๆ เกี่ยวกับน้องหมาสายพันธุ์นี้บ้าง

     ส่วนใหญ่ที่คนเข้าใจผิดก็คือ จะคิดว่าน้องหมาอลาสกันคือน้องหมาไซบีเรียนที่โอเวอร์ไซส์ ... จริงๆ วิธีสังเกตอลาสกันง่ายๆ ก็คือ ถ้าแว๊บแรกเจอน้องหมาตัวใหญ่ โครงสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส แขนขาใหญ่ หางม้วนขึ้น ตาไม่ 2 สี หน้าเหมือนหมี นั่นล่ะครับ น้องหมาอลาสกัน

     และอีกเรื่องหนึ่งที่อยากทำความเข้าใจกับคนภายนอกก็คือ จากการที่ได้พูดคุยกับคนที่เลี้ยงอลาสกัน ทุกคนจะดูแลและรักเขาเหมือนลูก บางคนให้นอนห้องแอร์ บางคนนอนให้นอนพัดลมที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงเลย หรือบางคนถึงขั้นให้นอนบนเตียงเลยก็มี คือนอกจากความรักแล้วคนที่จะเลี้ยงน้องหมาอลาสกันได้ต้องมีความพร้อมในด้านอื่นๆ ด้วย เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าน้องหมาสายพันธุ์นี้ราคาสูง ดังนั้นคนที่อยากจะเลี้ยงก็จะต้องมีความพร้อมในการดูแลทั้งในด้านเวลาและค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วยครับ

 

คำที่ได้ยินบ่อยๆ เวลาพาเจ้าอลาสกัน ออกไปเจอผู้คน

     ส่วนใหญ่เวลาๆ เพื่อนๆ ในคลับพาไปเดินเล่นข้างนอก บางคนก็ทักว่า "ไซบีเรียนกี่เดือนแล้ว..." , "พันธุ์ผสมใช่มั้ยยย??" ล่าสุดผมพาไปเดินในหมู่บ้านมีคุณป้าทัก "อุ้ย บางแก้วตัวนี้น่ารักจัง...ตึ่งงง!!!!!!!!"

 

ถ้าอยากเลี้ยงน้องหมาอลาสกัน จะต้องระวังเรื่องอะไรเป็นพิเศษบ้าง

     สำหรับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่มีความประสงค์อยากเลี้ยงน้องหมาสายพันธุ์นี้ ต้องถามตัวเองก่อนครับว่าจะมีเวลาดูแลพวกเขาเต็มที่หรือเปล่า มีพื้นที่ที่บ้านให้เขาวิ่งเล่นหรือเปล่า เพราะถ้าจะเอามาเลี้ยงตามคอนโดก็อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่สำหรับน้องหมาสายพันธ์นี้ เพราะสายพันธ์นี้มีกำลังเยอะครับ ต้องให้วิ่งหรือออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงาน

     และสำหรับคนที่กำลังจะซื้อน้องหมาสายพันธุ์นี้มาเลี้ยง อยากให้ศึกษารายละเอียดของสายพันธุ์นี้ก่อน รวมไปถึงขอดูพ่อและแม่ของลูกน้องหมาที่เราจะซื้อ เพื่อที่จะได้เห็นแนวโน้มความน่าจะเป็นของน้องหมาที่เรากำลังจะซื้อ เพราะว่าเคยมีเคสที่คนขายบอกว่าเป็นอลาสกัน แต่พอเลี้ยงไปได้ซักพักลักษณะน้องหมาก็เริ่มเพี้ยนไปเป็นแบบอื่น ด้วยสาเหตุนี้ก็เลยอยากให้ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะน้องหมาอลาสกัน มาลามิวท์เป็นน้องหมาที่มีราคาสูง โดยจะมีหลายเกรดตามโครงสร้างครับ ถ้าหากเพื่อนๆ สนใจจะเลี้ยงจริงๆ ก็ลองเข้ามาปรึกษาหาข้อมูลได้ที่ Alaskan Club Thailand ก็ได้ครับว่าสมกับราคาไหม จะถูกหลอกไหม :)

 

ปัญหาที่มักพบได้บ่อยๆ ในน้องหมาอลาสกัน

     ส่วนใหญ่น้องหมาอลาสกัน หรือไจแอ้นท์อลาสกัน จะมีผิวหนังที่บอบบางทำให้ผู้เลี้ยงต้องระวังมากเป็นพิเศษ เวลาอาบน้ำเสร็จแล้วจะต้องเป่าขนเขาให้แห้งทันที (ต้องอดทนเป่าจนกว่าจะแห้งสนิท) รวมถึงปัญหาเห็บหมัดที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ระวังยุงที่จะมาคอยกัดบริเวณจมูก และรอบๆ ดวงตา และปัญหาเรื่องข้อสะโพก ผู้เลี้ยงควรปรึกษากับสัตวแพทย์อย่างใกล้ชิด และผู้เลี้ยงต้องควบคุมน้ำหนักของน้องหมา ไม่ปล่อยให้อ้วน เพราะจะทำให้ขาของน้องหมารับน้ำหนักไม่ไหวครับ

 

สำหรับคนที่อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Alaskan Club Thailand มีช่องทางไหนบ้าง

     เพื่อนๆ สามารถเข้ามาพูดคุย หรือสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้นะครับ ลองเข้ามาที่ facebook แล้วพิมพ์คำว่า "Alaskan Club Thailand" แค่นี้ก็เข้ามาพูดคุยกับพวกเราได้แล้วครับ

 

อยากฝากอะไรถึงผู้ที่เลี้ยงน้องหมา ทั้งคนที่เลี้ยงอลาสกันเองและคนที่เลี้ยงน้องหมาทั่วๆ ไป

     อยากจะให้เพื่อนๆ หรือพี่ๆ ที่กำลังจะเลี้ยงน้องหมาใส่ใจและมีความรับผิดชอบ มีวินัยกับตัวเองในการที่จะต้องเลี้ยงดูน้องหมา ไม่อยากให้เอาน้องหมามาเลี้ยงเพราะเห็นว่าน่ารักก็เลยซื้อ เพราะถ้าซื้อมาแล้วก็ต้องเจอกับค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงค่าอาหาร ค่ายา ค่าใช้จ่ายเวลาน้องหมาไม่สบาย เป็นต้น อยากจะให้ถามตัวเองก่อนว่าจะเลี้ยงน้องหมาให้กิน อิ่ม นอนหลับอย่างมีความสุขได้ตลอดไปหรือเปล่า และอยากให้ศึกษาน้องหมาสายพันธ์นั้นๆ ให้ละเอียด ก่อนจะรับเลี้ยงพวกเขาด้วยครับ
 

     สำหรับใครที่อยากจะเลี้ยงน้องหมาสายพันธุ์อลาสกัน มาลามิวท์ ได้อ่านบทสัมภาษณ์ที่ให้ข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับน้องหมาสายพันธุ์นี้แล้วก็ลองกลับไปคิดทบทวนอีกทีนะคะว่า ตัวเองมีความพร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตเล็กๆ อีกหนึ่งชีวิตหรือยัง เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่กับคุณเพียงแค่ไม่กี่เดือนหรือไม่กี่ปี แต่พวกเขาอาจจะอยู่กับคุณไปอีกเป็นสิบปี ดังนั้น ถ้าหากคิดจะเลี้ยงน้องหมาอลาสกัน รวมไปถึงน้องหมาทุกๆ สายพันธุ์ เพื่อนๆ ก็ควรจะมั่นใจว่านอกจากความรักความเอ็นดูแล้ว คุณยังต้องมีความพร้อมที่จะดูแลพวกเขาทั้งยามสุขและทุกข์ไปตลอดชั่วชีวิตของเขาอีกด้วยค่ะ ^^
 

คำถามจากสมาชิก Dogilike
 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/