ระวัง! 3 มลภาวะในเมืองเสี่ยงส่งผลต่อพฤติกรรมน้องหมา

วิถีชีวิตคนเมืองของคนเราส่งผลกระทบวิถีชีวิตน้องหมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!

7 สิงหาคม 2557 · ชอบ  (0) · แสดงความคิดเห็น (0) · อ่าน (10,361)
2,613

SHARES


2,613 shares
Dogilike.com :: ระวัง! 3 มลภาวะในเมืองเสี่ยงส่งผลต่อพฤติกรรมน้องหมา
 
 
     วิถีชีวิตของคนเมืองในขณะนี้ เต็มไปด้วยการถูกกระตุ้นจากสิ่งต่างๆ รอบตัวเพื่อชักจูงความสนใจ ไม่ว่าจะด้วยภาพ เสียง กลิ่น รส อยู่แทบตลอดเวลา บางคนใช้วิถีหนีความวุ่นวายของสังคมเมืองด้วยการใส่หูฟังเพลง อยู่กับหน้าจอมือถือ อ่านหนังสือ ปิดบ้าน ปิดหน้าต่าง หลีกเสี่ยงสิ่งที่จะก่อให้เกิดความเครียดจนเสียสุขภาพจิต สุขภาพร่างกาย.... ในทางกลับกัน น้องหมาสัตว์เลี้ยงในบ้าน หรือ แม้แต่น้องหมาตามข้างทาง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองให้หลุดพ้นจากมลพิษ หรือ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง นำไปสู่ปัญหาพฤติกรรม และสุขภาพ 

     .....มาดูกันค่ะว่า มีสิ่งใดที่กระทบประสาทการรับรู้ การสื่อสารของน้องหมา แล้วเราลืมนึกถึงไปบ้าง เพื่อจะได้ดูแลพวกเขาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีจิตใจแจ่มใส ท่ามกลาง...ชีวิตคนเมือง.... 
 


 

มลภาวะทางอากาศ 

 
 
Dogilike.com :: ระวัง! 3 มลภาวะในเมืองเสี่ยงส่งผลต่อพฤติกรรมน้องหมา

 
     จมูกเป็นอวัยวะแรกที่น้องหมาใช้ในการสื่อสาร ดมหาทิศทาง ทำความรู้จักคนและสิ่งต่างๆ ประสาทการดมกลิ่นของน้องหมารับรู้ได้มากกว่าคน พื้นที่การดมกลิ่นในจมูกของคนเรามีประมาณ 3 ตร. ซม. แต่ของสุนัข เฉลี่ยแล้วมีถึง 130 ตร. ซม. ทีเดียว โดยคนเรามีเส้นประสาทในจมูกอยู่ 5 ล้านเซล แต่สำหรับน้องหมามีถึง 125 – 225 ล้านเซลแล้วแต่ละสายพันธุ์  พวกเขาจึงมีความรวดเร็วและความแม่นยำในการดมกลิ่น แม้ประทั่งการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ฝนจะตกหรือไม่ พวกเขาก็สามารถรับได้จากการดมกลิ่น  ซึ่งอากาศที่เปลี่ยนไป ย่อมส่งผลให้ร่างกายและจิตใจของน้องหมาอย่างแน่นอน 
 
 
 
     ส่งผลกระทบต่อน้องหมาอย่างไร

     มลภาวะทางอากาศในที่นี้ไม่ได้หมายถึงควันพิษจากรถยนต์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวกับ กรด สารเคมีต่าง ๆ ที่ตกลงมาพร้อมสายฝน ควันบุหรี่ เสื่อพรมที่สะสมฝุ่นละออง สเปรย์ฉีดผม น้ำหอม ทั้งของคนและของน้องหมาเองที่อาจทำให้เกิดพิษร้ายได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบได้โดยตรงต่อร่างกายน้องหมา เช่น ไอ จาม เกิดปัญหาทางเดินหายใจ ผิวหนังขนสุขภาพไม่ดี อวัยวะภายในมีการสะสมของสารเคมีต่าง ๆ อาจทำให้เกิดโรคต่าง ๆ (อ่านเพิ่มเติมบทความ 5 พฤติกรรมของผู้เลี้ยงในเมืองที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพสุนัข แล้วการที่ประสาทการรับกลิ่นของน้องหมามีปัญหา ก็ยังจะส่งผลต่อสุขภาพจิตของพวกเขาจะย่ำแย่มากกว่าปัญหาประสาทสัมผัสการรับรู้อื่น ๆ อีกด้วย เพราะความสุขของพวกเขาจะลดลง หดหู่ ซึมเศร้า ไม่อยากอาหาร ซูบผอม บางรายถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด
 

Dogilike.com :: ระวัง! 3 มลภาวะในเมืองเสี่ยงส่งผลต่อพฤติกรรมน้องหมา

 
      ความเครียดที่เกิดจากการมีปัญหาในการรับรู้ดมกลิ่นของน้องหมา เนื่องจากน้องหมาสามารถรถรับรู้กลิ่นได้มากกว่าคนเรา 100 – 1,000 เท่าการรับกลิ่นสังเคราะห์ที่มากกว่าไปอย่างเช่น กลิ่นน้ำหอม หรือกลิ่นควันบุหรี่จะทำให้น้องหมาถูกกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ไม่ชอบใจ รบกวนอยู่เกือบตลอดเวลา สับสนในการแยกแยะกลิ่น ถูกกระตุ้นเร้าจิตใจให้กระวนกระวาย โดยเฉพาะกรณีเจ้าของใส่น้ำหอมกลิ่นสังเคราะห์ให้แก่น้องหมา หรือฉีดน้ำหอมภายในบ้าน พวกเขาจะได้กลิ่นนั้นติดตัวอยู่ตลอดเวลา รบกวนการรับรู้กลิ่นของสถานที่ อาหาร กลิ่นน้องหมาตัวอื่น ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ มีประสิทธิภาพลดลง สุนทรียในการรับรู้กลิ่นหดหาย เกิดความหงุดหงิด พยายามดมกลิ่นจนเกิดเป็นพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ บางตัวส่งผลถึงความอยากอาหารอีกด้วย เนื่องจากน้องหมาใช้ประสาทสัมผัสในการดมเพื่อกระตุ้นความอยากอาหารนั่นเอง 
 
     นอกจากนี้หมอกควันจากมลพิษที่ปกคลุมเมืองยังส่งผลให้แสงอาทิตย์ไม่สามารถส่งผ่านมายังพื้นโลกได้ ทำให้น้องหมารู้สึกเครียด ซึมเศร้า เบื่อหน่าย เนื่องจากแสงอาทิตย์ยังส่งผลต่อระดับเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสื่อประสาทที่ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นสุข ช่วยควบคุมอารมณ์ให้ผ่อนคลายความเครียด ทั้งยังควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย โดยแสงอาทิตย์จะช่วยให้เซโรโทนินอยู่ในระดับที่เหมาะสมนั่นเองค่ะ 

 
     การจัดการ 
 
     การอาบน้ำคงหลีกเลี่ยงแชมพูไม่ได้ แต่ก็ควรใช้แชมพูที่ไม่มีกลิ่นแรงฉุนจนเกินไป ไม่จำเป็นต้องหาน้ำหอมมาใส่ให้น้องหมา เพราะธรรมชาติของพวกเขาแล้ว น้ำหอมไม่ได้มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต หลีกเลี่ยงการให้น้องหมาต้องอยู่ใกล้ท่อไอเสียรถ เช่น ล่าม  วางกรง วางถาดอาหารไว้หลังรถ สูบบุหรี่ใกล้กับที่น้องหมาอยู่ เป็นต้นค่ะ แล้วลองหาเวลาพาน้องหมาไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่สวนสาธารณะก็จะดีมาก ๆ เลยค่ะ
 


 

มลภาวะทางเสียง 

 
 
Dogilike.com :: ระวัง! 3 มลภาวะในเมืองเสี่ยงส่งผลต่อพฤติกรรมน้องหมา

 
     ในหูของน้องหมามีกล้ามเนื้อมากกว่ากว่า 18 มัดที่ช่วยควบคุมการได้ยิน อีกทั้งลักษณะใบหูที่ตั้งขึ้น เป็นโค้ง จึงสามารถได้ยินเสียงความถี่ต่ำกว่า 20 Hz และมากกว่า 20,000 Hz แตกต่างกันไปแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งเป็นความถี่ที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยินได้ พวกเขาจึงมีความสามารถในการได้ยินที่ไว เฉียบคม ชัดเจนและแสบแก้วหูมากกว่าที่คนได้รับ การถูกกระตุ้นด้วยเสียงที่ดัง จึงง่ายที่น้องหมาจะตื่นตกใจ หากดังมากอาจส่งให้แก้วหูน้องหมาถูกทำลาย
 
 
     ส่งผลกระทบต่อน้องหมาอย่างไร
 
     ปัญหาของเสียงที่ส่งผลต่อน้องหมา ค่อนข้างเห็นเป็นรูปธรรม และส่งผลต่อพฤติกรรมน้องหมาอย่าชัดเจน ไม่ว่าจะเสียงรถยนต์ เสียงแตรรถ เสียงเครื่องดูดฝุ่น เสียงก่อสร้าง เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า ซึ่งโดยปกติของคนเราจะหลีกหนีเสียงเหล่านั้น ปิดบ้าน เปิดเพลงในรถ ใส่หูฟัง ใส่ที่ปิดหู แต่สำหรับน้องหมา พวกเขาไม่มีทางหนี นอกจากต้องรับฟังเสียงนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ยังไม่นับเสียงต่าง ๆ ที่เราไม่ได้ยินแต่น้องหมากลับได้ยิน ชีวิตของพวกเขาต้องอยู่กับความหวาดระแวง คอยตื่นตกใจ ตื่นตัวอยู่แทบตลอดเวลา บางคนเห็นเป็นเรื่องตลกขำขัน กับพฤติกรรมของพวกเขา  บางคนเห็นว่านี่คือคุณสมบัติเด่นของน้องหมาที่เราเลือกให้พวกเขาเฝ้าบ้าน....หากนั่นคือจุดกำเนิดของความเครียด หงุดหงิด วิตกกังวล ตื่นตกใจง่าย ตื่นกลัว  พังทำลายข้างของ ไม่ไว้ใจ  และ มีพฤติกรรมก้าวร้าวในที่สุด ในความดังที่รุนแรงบางตัวกระทบถึงสุขภาพสูญเสียการได้ยิน
 
 
Dogilike.com :: ระวัง! 3 มลภาวะในเมืองเสี่ยงส่งผลต่อพฤติกรรมน้องหมา

 
     การจัดการ 


     หากผู้เลี้ยงรู้ว่ามีเสียงที่ไม่น่าพึงประสงค์เกิดขึ้น ควรพาน้องหมาออกจากสิ่งแวดล้อมตรงนั้น ไม่แหย่ให้เกิดความกลัวมากขึ้น หรือ โอ๋จนน้องหมายิ่งอ่อนไหว อามรมณ์ไม่มั่นคง ควรพาน้องหมาเข้าบ้านปิดประตู ถ้ายังได้ยินเสียง ให้เปิดเพลงดนตรีบรรเลงเบาๆ ผ่อนคลายน้องหมา หรือถ้าต้องทิ้งให้น้องหมาอยู่ข้างนอกลำพัง ควรจัดหาโซนที่เงียบ หรือ มีผ้า มีช่องให้น้องหมาได้เข้าไปซุกนอนหลบภัยตามสัญชาตญาณของพวกเขาค่ะ นอกจากนี้ พยายามหลีกเลี่ยงการให้น้องหมาเดินเล่นตามข้างถนน  ไม่หยอกล้อน้องหมาด้วยเสียงที่ดังเช่น เครื่องดูดฝุ่น ไดร์เป่าผม แกล้งให้น้องหมาตกใจด้วยเสียงขณะนอนหลับอยู่ เป็นต้นค่ะ  
 
 

 

มลภาวะทางการมองเห็น 

 
 
Dogilike.com :: ระวัง! 3 มลภาวะในเมืองเสี่ยงส่งผลต่อพฤติกรรมน้องหมา

 
     น้องหมามีสายตาที่ไม่คมชัดเหมือนอย่างคนเราประสาทการรับรู้ทางสายตาจึงไม่ใช่ประสาทสัมผัส และการสื่อสารหลักของพวกเขาโดยน้องหมาจะเห็นวัตถุในระยะ 20 ฟุต ได้ในระยะเดียวกับที่คนเห็นในระยะ 75 ฟุต ถือว่าประสิทธิภาพในการมองเห็นวัตถุน้อยกว่าคนเกือบ 4 เท่าตัว น้องหมาจะมองเห็นได้เพียง 2 เฉดสีคือ สีน้ำเงินกับสีเหลืองเท่านั้น ไม่สามารถแยกสีเขียวกับสีแดงออกจากกัน แต่เมื่อใดก็ตามที่วัตถุมีการเคลื่อนไหวพวกเขาจะสามารถจะสามารถมองได้ไกลถึง 2,900 ฟุต จับความเร็วของวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ดีกว่าคนมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเวลากลางคืน  (อ่านเพิ่มเติมบทความ  เจาะทุกประเด็น! ภาพการมองเห็นจากดวงตาน้องหมา ค่ะ)
 
 
Dogilike.com :: ระวัง! 3 มลภาวะในเมืองเสี่ยงส่งผลต่อพฤติกรรมน้องหมา

 
     ส่งผลกระทบต่อน้องหมาอย่างไร

     น้องหมาไม่ได้ใช้การมองเห็นในการสื่อสาร บอกความรู้สึก แต่จะใช้ในการไล่ล่าหาเหยื่อมากกว่า ดวงตาของพวกเขาจึงสามารถจับความเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อน้องหมาเห็นจอโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ แสงจากหน้าจะก็จะยิ่งกระตุ้นความสนใจ ไล่มองตามภาพ เป็นภาพที่น่ารัก น่าเอ็นดู แต่ทว่าแสงหน้าจอ และ ภาพที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจะส่งผลให้น้องหมาเกิดความเคร่งเครียด ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา สมาธิสั้น มีผลต่อประสิทธิภาพในการฝึกน้องหมา โดยเฉพาะการดูภาพหน้าจอในที่มืดแสง ก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อจอประสาทตาของน้องหมาได้เช่นเดียวกับคน แล้วถ้าน้องหมามีปัญหาดวงตาอยู่ก่อนแล้วอาจทำให้เกิดต้อหินหรือต้อกระจกได้อีกด้วย

 
    การจัดการ 
 
     ควรหาเวลาหยุดพักการใช้หน้าจอคอม หน้าจอโทรทัศน์  หลีกเลี่ยงการให้น้องหมาเล่นอยู่กับหน้าจอ ถ้านอนอยู่ห้องเดียวกันก็หาตุ๊กตาหรือกิจกรรมอื่นๆ ให้น้องหมาทำ ไม่เปิดโทรทัศน์ หรือ คอมพิวเตอร์เสียงดังเพื่อกระตุ้นให้น้องหมาหันมาสนใจ ไม่ควรปิดไฟเปิดหน้าจอคอม หรือ หน้าจอโทรทัศน์ค่ะ หรือถ้าอย่างในต่างประเทศ เขาจะมีโปรแกรมทีวีสำหรับน้องหมา ซึ่งความเร็วของภาพ แสง และเสียงค่อนข้างจะปลอดภัยต่อน้องหมา ไม่กระตุ้นให้ตื่นกลัว หรือตื่นตัวจนเกินไป ก็เหมาะกับการเปิดให้น้องหมาดูค่ะ แต่ในเมืองไทยเราอาจต้องรอไปก่อนนะคะ 
 
 
Dogilike.com :: ระวัง! 3 มลภาวะในเมืองเสี่ยงส่งผลต่อพฤติกรรมน้องหมา

 
     การดำรงชีวิตของคนเราส่งผลต่อน้องหมาไม่ทางตรงก็ทางอ้อม การห่วงใยสวัสดิภาพควรขยายกว้างจากตัวเราไปยังน้องหมา เพราะประสาทสัมผัส และการสื่อสารของพวกเขามีความแตกต่าง สามารถรับรู้มากกว่าสิ่งที่เรารับรู้ จึงมีโอกาสได้รับผลกระทบต่อระบบประสาท สภาพจิตใจและ สภาพร่างกายไม่น้อยไปกว่าเรา จึงจำเป็นที่ผู้เลี้ยงจะต้องหันมาใส่ใจคุณภาพชีวิตของน้องหมา รู้จัก เข้าใจประสาทสัมผัสต่างๆ ของพวกเขาอย่างที่พวกเขาเป็น ไม่เอาธรรมชาติ หรือความต้องการของคนเราไปตัดสิน ให้น้องหมาได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติตามวิถีชีวิตของตัวเองให้ได้มากที่สุด แล้วพวกเขาก็จะมีความสุข สุขภาพจิตดีค่ะ ^^ 


 
บทความโดย : Dogilike.com
http://www.dogilike.com/
 
ข้อมูลอ้างอิง :
http://www.vetstreet.com/our-pet-experts/sights-smells-and-sounds-that-can-stress-out-your-pet
http://www.care2.com/greenliving/does-noise-pollution-affect-our-pets.html#ixzz38utgl6dG
http://dogcare.dailypuppy.com/fireworks-hurt-dogs-ears-5547.html
http://www.peteducation.com/article.cfm?c=1+2174&aid=2545
http://www.canidae.com/blog/2012/05/how-sensory-overload-stresses-out-pets.html
http://www.ehow.com/info_8611297_effects-chlorine-pool-dogs.html
 
 
ภาพประกอบ :
www.voanews.com
dfw.cbslocal.com 
dogbadbreathdotorg.wordpress.com
www.bideawee.org
www.reddit.com
www.rayfowler.org
www.themagazine.ca
thebullybreeds.com