อย่างที่เรารู้จักกันว่า “น้องหมาช่วยเหลือคนพิการ” ซึ่งมีหลายประเภทแต่เราเรียกรวม ๆ กันว่า Guide Dog เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ ส่วนในไทยนั้นพบเห็นได้น้อย ฉะนั้นเมื่อใครได้เจอน้องหมาเหล่านี้ย่อมตื่นเต้นและเอ็นดูในความเฉลียวฉลาดรู้หน้าที่ของน้องหมาเป็นธรรมดา จนอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายหรือว่าเข้าไปเล่นกับน้องหมา แต่รู้ไหมคะว่าความจริงแล้วมีข้อควรรู้อยู่เล็กน้อยเมื่อพบน้องหมาเหล่านี้ มีอะไรบ้างไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
 

     ข้อแรกถือเป็นข้อที่สำคัญมาก ๆ เลย เพราะว่าการสัมผัสน้องหมาแค่การลูบหัวอาจทำให้น้องหมาเสียสมาธิไปได้ ซึ่งเวลาออกมาข้างนอกอย่างนี้ที่จริงแล้วถือว่าน้องหมากำลังปฏิบัติหน้าที่สำคัญมาก พวกเขาเสมือนเป็นอวัยวะทดแทนของผู้พิการคนนั้น เป็นตาที่คอยมองทางแทน การลูบหัวจึงไม่ใช่แค่การลูบหัว แต่เป็นการสร้าง Eye contact และทำให้น้องหมาหันมารับเสียงจากฝั่งเราแทน โดยสื่อของ ABC News เคยกล่าวว่าการลูบหัวแค่ครั้งเดียวสามารถทำให้เสียการฝึกตลอดทั้งเดือนได้เลย เมื่อถูกรบกวนจึงทำให้เขาทำหน้าที่นั้นได้อย่างไม่เต็มที่ นั่นรวมถึงห้ามให้อาหาร ผิวปาก โบกไม้โบกมือ หรือทำสิ่งใด ๆ ที่เรียกความสนใจจากน้องหมาด้วยค่ะ
 

     การนำน้องหมาของเราเข้าไปดมหรือทำความรู้จักกับน้องหมาไกด์ถือเป็นเรื่องที่ใหญ่หลวงมาก เพราะนั่นจะทำให้น้องหมาเสียสมาธิมากกว่าสิ่งอื่นใด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าน้องหมาไกด์เนี่ยจะไม่มีสิทธิ์ผูกมิตรหรือเล่นสนุกแบบน้องหมาตัวอื่น เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้าน น้องหมาเหล่านี้ก็แค่น้องหมาธรรมดาทั่วไปค่ะ

     นี่ก็เป็นข้อห้ามเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับน้องหมาช่วยเหลือคนพิการที่น้อยคนจะรู้ หรือสรุปง่าย ๆ ก็เหมือนกับวลีที่ว่า “ดูแต่ตา มืออย่าต้อง” ซึ่งความจริงแล้วแม้แต่ในต่างประเทศก็ไม่ค่อยมีคนรู้ ทำให้เจ้าของหมา(ซึ่งเป็นผู้พิการ)ต้องคอยบอกคนที่เข้ามาเล่นกับน้องหมาตลอดเวลาว่าอย่าสัมผัสน้อง เพราะการที่น้องหมาถูกรบกวนสมาธิจะทำให้เขาใช้ชีวิตข้างนอกในวันนั้นลำบากขึ้นได้เลยล่ะค่ะ
 

ข้อมูลอ้างอิง :
http://www.dogster.com/lifestyle/guide-dogs-for-the-blind-misconceptions
https://www.facebook.com/abcnews.au/videos/10155042987449988/
http://www.lighthouseguild.org/vision-health-blog/how-to-behave-with-a-guide-dog