โดย: Tonvet

เคลียร์ให้ชัด!! พยาธิจากอึน้องหมาไชผิวหนังคนได้จริงหรือ

ปัสสาวะและอุจจาระสุนัขมีพยาธิปากขอ สามารถมาไชผิวหนังคนเราได้จริงหรือไม่

29 กรกฏาคม 2558 · · อ่าน (35,641)
1,844

SHARES


1,844 shares

 

Dogilike.com :: เคลียร์ให้ชัด!! พยาธิจากอึน้องหมาไชผิวหนังคนได้จริงหรือ



     สวัสดีครับเพื่อน ๆ พบกับผม หมอต้น ด็อกไอไลค์ เช่นเคยนะครับ บทความตอนนี้ ผมมีข้อสงสัยจากเพื่อนสมาชิกแฟนเพจเฟสบุ๊คด็อกไอไลค์ (Dogilike) ที่เข้ามาถามเรื่องข้องใจเกี่ยวกับรูปและเนื้อหาที่มีคนแชร์กันอยู่ ณ ตอนนี้ โดยมีสมาชิกเฟสบุ๊คท่านหนึ่ง ได้โพสรูปและข้อความไว้ใจความว่า "มีแพทย์ท่านหนึ่งบอกเป็น hookworm พยาธิปากขอ ชอบเที่ยวป่า เขา ทะเล เชื้อโรคมีปนอยู่เพราะเกิดจาก อึ ฉี่ หมาและแมว เส้นๆ ที่เราเห็นใต้ผิวหนังไม่ใช่ตัวพยาธิ แต่เป็นเส้นทางที่พยาธิชอนไชผ่าน ส่วนปื้น ๆ อักเสบที่ผิวหนังคือการที่ร่างกายเราสร้างภูมิมาสู้กับพยาธิ แต่สู้ไม่ได้ ต้องกินยา"  พอเห็นข้อความว่า เชื้อโรคมีปนอยู่ เพราะเกิดจาก อึ ฉี่ หมา อย่างนี้ผู้เลี้ยงสุนัขหลายคนคงจะเป็นกังวลใจไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ เพื่อให้หายข้อข้องใจ ผมขออธิบายตามนี้นะครับ

 

พยาธิปากขอ คืออะไร


Dogilike.com :: เคลียร์ให้ชัด!! พยาธิจากอึน้องหมาไชผิวหนังคนได้จริงหรือ


 
     พยาธิปากขอ หรือ hookworm เป็นพยาธิตัวกลมที่มีตัวเต็มวัยอาศัยอยู่ในทางเดินอาหาร เมื่อผสมพันธุ์กันแล้วจะออกลูกเป็นไข่ปะปนมากับอุจจาระ แล้วปนเปื้อนอยู่ตามดินและสิ่งแวดล้อม ไข่จะฟักออกมาเป็นตัวอ่อนใช้ระยะเวลา 14-20 วัน เมื่อตัวอ่อนเมื่อฟักออกจากไข่แล้วจะอาศัยตามพื้นดิน และมีการเจริญเติบโต (ลอกคราบ) จนเป็นตัวอ่อนระยะที่  3 ซึ่งตัวอ่อนระยะนี้จะสามารถชอนไชเข้าสู่ร่างกายคนผ่านทางผิวหนังได้ จึงสามารถพบเห็นรอยโรคตามลักษณะที่ผู้โพสรูปดังกล่าวไว้ได้ ซึ่งเกิดการจากที่พยาธิปล่อยเอนไซม์มาย่อยสลายโปรตีนในชั้นผิวหนัง จนเกิดเป็นช่องว่างที่พยาธิใช้เคลื่อนที่เข้าสู่ร่างกายต่อไป

 

สุนัขสามารถติดและแพร่พยาธิปากขอได้หรือไม่

 
     สุนัขสามารถติดพยาธิปากขอได้เช่นเดียวกับมนุษย์ครับ โดยอาจจะรับตัวอ่อนเข้าสู่ร่างกายผ่านทางการถูกชอนไชทางผิวหนัง หรือรับผ่านการกินเข้าไปโดยตรง หรือกินผ่านเหยื่ออย่างเช่น หนู ที่มีพยาธิชนิดนี้อยู่ในร่างกายอีกทีก็ได้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะไปเจริญเติบโตจนเข้าสู่ระยะโตเต็มวัย ผสมพันธุ์และออกไข่เพื่อเพิ่มจำนวนต่อไปตามภาพวงจรชีวิตข้างล่างนี้ 

Dogilike.com :: เคลียร์ให้ชัด!! พยาธิจากอึน้องหมาไชผิวหนังคนได้จริงหรือ

     สุนัข (รวมถึงแมว) จึงสามารถเป็นแหล่งแพร่พยาธิผ่านอุจจาระที่มีไข่ของพยาธิปากขอได้ครับ แต่เดี๋ยวก่อน !! อย่าเพิ่งตกใจ เพราะการที่คนเราจะติดหรือรับพยาธิปากขอเข้าสู่ร่างกายนั้น เพื่อน ๆ อย่าลืมนะครับว่า ส่วนใหญ่เราจะติดในระยะตัวอ่อนที่ 3 ซึ่งมักอาศัยอยู่ในดินหรือสิ่งแวดล้อมที่มีความชื้นแฉะ 
 
     ดังนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงส่วนใหญ่จึงเป็นผู้ที่ไม่ได้ป้องกันตัวเองได้ดีพอ เช่น ไม่สวมรองเท้าป้องกันให้มิดชิด ชอบเดินเท้าเปล่าในดิน ในโคลน หรือตามพื้นที่ชื้นแฉะ หรือไม่ก็ติดจากการกินอาหารที่ปนเปื้อนตัวอ่อนระยะที่ 3  เข้าไป ซึ่งกว่าที่พยาธิจะโตมาถึงตัวอ่อนระยะที่  3 นี้ ต้องใช้ระยะเวลาฟักและเจริญเติบโต (ลอกคราบ) ไม่น้อยกว่า 14-20 วันเลยทีเดียว และหากอยู่ในที่แห้งแล้งตัวอ่อนก็จะตายได้ภายใน  1 วัน

 

ป้องกันตัวเองและน้องหมาจากพยาธิปากขออย่างไร

 
     พยาธิปากขอเป็นโรคที่ติดต่อทั้งในคนและสัตว์ได้ ดังนั้นการป้องกันที่ดี คือ การไม่พาตัวเองไปอยู่ในความเสี่ยง ไม่เดินเท้าเปล่าลุยโคลน กินอาหารปรุงสุกสะอาด เป็นคนรักสะอาดชำระล้างมือและร่างกายทุกครั้งที่สัมผัสสิ่งสกปรก โดยเฉพาะก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ คนและสุนัขสามารถอยู่ร่วมกันได้ ผู้เลี้ยงควรพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับยาถ่ายพยาธิเป็นประจำทุก 3 เดือนเพื่อป้องกัน รวมถึงหมั่นทำความสะอาดที่อยู่ของน้องหมาเป็นประจำ คนและสุนัขที่ป่วยมีพยาธิปากขอในร่างกาย สามารถรักษาให้หายขาดได้ครับ

Dogilike.com :: เคลียร์ให้ชัด!! พยาธิจากอึน้องหมาไชผิวหนังคนได้จริงหรือ


     
    จากเหตุการณ์นี้ ต้องขอขอบคุณผู้โพสต้นเรื่องมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ถือเป็นเรื่องดีที่ผู้โพสได้ออกมาเตือนให้เพื่อน ๆ สมาชิกเฟสบุ๊คคนอื่น ๆ ให้ได้ระวัง โดยเฉพาะกับผู้เลี้ยงสุนัข บางคนอาจละเลยที่จะพาสุนัขที่เลี้ยงไปรับการถ่ายพยาธิเพื่อป้องกัน การเลี้ยงสุนัขนั้น เราต้องรู้จักป้องกันทั้งตัวสุนัขและผู้เลี้ยงเองให้เป็นอย่างดี เพราะโรคบางอย่างสุนัขนำไปติดคนได้ ในทางตรงกันข้ามคนก็นำมาติดสุนัขได้เช่นกัน อย่างโรคจากพยาธิปากขอนี้ ถ้าเราป้องกันเป็นประจำก็ไม่ต้องกังวลอะไร อยากขอฝากไว้ด้วยนะครับ 





บทความโดย หมอต้น ด็อกไอไลค์
น.สพ.ธีรภาพ มุสิกานนท์
 

ที่มา :
https://www.facebook.com/papa.za.7/posts/869504389764339?hc_location=ufi

รูปภาพประกอบ :
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=869504013097710&set=pcb.869504389764339&type=1
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=869504006431044&set=pcb.869504389764339&type=1&theater
http://scienceline.org/wp-content/uploads/2010/12/hookworms3.jpg
http://www.ah.novartis.com/cs/groups/public/@nch_com_ah/documents/images/n_prod_937035.gif