โดย: Candyx
6 สาเหตุใกล้ตัวที่มักทำให้น้องหมาพิการ
เรียนรู้ ป้องกันกับเรื่องใกล้ตัวที่เจ้าของมักมองข้าม
12 มีนาคม 2556 · · อ่าน (25,582)
คงไม่มีเพื่อนๆ คนไหนที่อยากให้น้องหมาแสนรักของเราต้องพิการ แขนหัก ขาหัก หรือเป็นอัมพาตใช่ไหมคะ? แล้ววันนี้เพื่อนๆ ลองถามตัวเองกันดูหรือยังคะว่า เพื่อนๆ ใส่ใจเลี้ยงดูน้องหมาอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง เพราะความพิการในน้องหมานั้นไม่ได้มีสาเหตุมาจากความผิดปกติโดยกำเนิดเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุหรือเรื่องที่เราคาดไม่ถึงต่างๆ ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้น้องหมาพิการได้เช่นกัน และในบางครั้งเราก็อาจจะกำลังเลี้ยงน้องหมาแบบผิดๆ หรืออาจจะเผลอละเลยสาเหตุใกล้ตัวที่อาจส่งผลให้น้องหมาพิการอยู่ก็ได้นะคะ
ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า จะมีสาเหตุใกล้ตัวอะไรบ้างที่อาจทำให้น้องหมาพิการ พร้อมกับเรียนรู้วิธีป้องกันไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ ...
เลี้ยงน้องหมาบนพื้นลื่น
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่า พื้นกระเบื้องวาววับ หรือหินอ่อนสวยๆ ที่อยู่ในบ้านของเรานั้นจะเป็นหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้น้องหมาเกิดความพิการได้ นั่นก็เพราะว่า เจ้าพื้นกระเบื้องสวยๆ มีความลื่นมาก ทำให้เวลาที่น้องหมาก้าวเดินจึงต้องออกแรงเกร็งกล้ามเนื้อเพื่อยึดเกาะกับพื้น ซึ่งจะทำให้การถ่ายน้ำหนักบริเวณข้อต่อผิดปกติ ส่งผลให้กระดูกทำงานผิดรูปผิดร่าง ทำให้น้องหมาเจ็บปวดเวลาเดิน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้น้องหมาเป็น โรคข้อสะโพกเสื่อมในน้องหมาพันธุ์ใหญ่อย่าง โกลเด้นรีทรีฟเวอร์, ลาบราดอร์, เยอรมัน เชพเพิร์ด, ไซบีเรี้ยน ฮัสกี้, ร๊อตไวเลอร์ ฯลฯ และโรคสะบ้าเคลื่อนในน้องหมาพันธุ์เล็กอย่าง ชิวาวา, ปอมเมอเรเนียน, พูเดิ้ล, ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย ในที่สุด คลิกอ่านบทความ เลี้ยงสุนัขในบ้าน เสี่ยงสุนัขขาเสีย..
แต่ถ้าหากผู้เลี้ยงบางบ้านมีความจำเป็นที่จะต้องเลี้ยงน้องหมาในคอนโด หรือบ้านที่มีพื้นลื่นจริงๆ ผู้เลี้ยงอาจจะลองใช้วิธีหาแผ่นยางกันลื่นที่เหล่าคนรักสุนัขมักนิยมซื้อมาปูให้น้องหมาเพื่อให้น้องหมาเดินได้สะดวกมากขึ้นไม่ต้องเดินแบบลื่นๆ หรือจะซื้อถุงเท้ากันลื่นที่มีขายทั่วไปตามร้านเพ็ทช้อปก็ได้ค่ะ หรือคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของถุงเท้ากันลื่นได้ที่ REVIEW : ถุงเท้ากันลื่นสำหรับน้องหมาพันธุ์เล็ก
และที่สำคัญผู้เลี้ยงต้องพาน้องหมาไปออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ เพราะการพาน้องหมาไปออกกำลังกายเป็นวิธีที่น้องหมาจะไม่ต้องรับน้ำหนักมาก อีกทั้งยังช่วยลดความตึงของข้อสะโพก และช่วยให้กล้ามเนื้อจะแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ
ขุนน้องหมาจนเป็นหมู
หลายๆ คนอาจจะชอบเลี้ยงให้น้องหมาของตัวเองมีรูปร่างอ้วนกลม น่ารัก แต่รู้ไหมคะว่า การขุน การเลี้ยงน้องหมาให้อ้วนเกินไป จนมองยังไงๆ ก็แทบไม่ต่างอะไรจากหมูนั้น มีแต่จะเกิดผลเสียกับน้องหมา เพราะว่า การเลี้ยงน้องหมาจนน้ำหนักเกินกว่ามาตราฐานสายพันธุ์ จะส่งผลต่อข้อต่อ การรับน้ำหนัก ซึ่งจะยิ่งเร่งให้น้องหมาเกิดโรคกระดูกและข้อ ทำให้เมื่อเวลาน้องหมาได้รับการกระแทกจากของแข็ง หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว ก็อาจทำให้ขา กระดูก ของน้องหมาหักได้ง่ายๆ และสุดท้ายแล้วอาจจะทำให้น้องหมาพิการได้ค่ะ
นอกจากโรคข้อและกระดูกที่อาจเกิดขึ้นกับน้องหมาอ้วนแล้ว ยังเสี่ยงต่อโรคอื่นๆ อีกมากมาย เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคระบบทางเดินปัสสาวะฯลฯ ซึ่งโรคต่างๆ เหล่านี้มักจะส่งผลทำให้น้องมีอายุที่สั้นลงอีกด้วยค่ะ
และถ้าหากผู้เลี้ยงอยากให้น้องหมามีอายุยืนยาว ห่างไกลโรคต่างๆ ที่กล่าวมา ผู้เลี้ยงก็ควรจำกัดปริมาณอาหารให้เหมาะสมกับน้องหมาแต่ละตัวอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งมอบอาหารที่มีคุณค่าตามหลักโภชนาการสุนัข และควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารของคนซึ่งควบคุมปริมาณได้ยาก รวมถึงผู้เลี้ยงควรหมั่นพาน้องหมาไปออกกำลังกายเพื่อปลดปล่อยพลังงาน น้องหมาจะได้มีร่างกายที่แข็งแรง หุ่นดี ปราศจากโรคภัยยังไงล่ะคะ ^^
เพื่อนๆ สามารถติดตามอ่านบทความเกี่ยวกับความอ้วนของน้องหมาได้ที่ หยุด !! โรคอ้วนในสุนัข ด้วยหลักโภชนาการอาหารที่ถูกต้อง 7 สิ่งน่ากลัว เมื่อสุนัขอ้วน (1) 7 สิ่งน่ากลัว เมื่อสุนัขอ้วน (2) 7 จุดสังเกต เป็นน้องหมาอ้วน ระวัง เสี่ยงโรคร้าย [Infographic]
อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด
ขึ้นชื่อว่า อุบัติเหตุ แล้วไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับคนหรือสัตว์ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้บาดเจ็บ หรือเกิดความพิการได้ทั้งนั้น ยิ่งกับน้องหมาที่ไม่รู้ว่าสิ่งไหนอันตราย สิ่งไหนที่ต้องระวังแล้วด้วย ผู้เลี้ยงก็ยิ่งต้องใส่ใจและดูแลให้มากขึ้น ...
ปัญหาน้องหมาถูกรถชน รถทับ ตกจากที่สูง โดนของหล่นทับ หรือโดนหมาตัวใหญ่กว่ากัดจนพิการ ฯลฯ เป็นปัญหาที่ยังคงเกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งโดยส่วนมากแล้วอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับน้องหมามักจะเกิดขึ้นจากการที่เจ้าของน้องหมาปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่ หรือผู้เลี้ยงชะล่าใจว่าคงไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น เช่นว่า เจ้าของน้องหมาวางน้องหมาไว้บนโต๊ะเพราะคิกว่าน้องหมาคงไม่กระโดดลงมา เปิดประตูบ้านทิ้งไว้เพราะคิดว่าน้องหมาจะไม่วิ่งออกไปไหน หรือพาน้องหมาไปสวนสาธารณะโดยไม่ใส่สายจูงเพราะคิดว่าไม่น่าจะเป็นอันตรายอะไร โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำ และการละเลยนี้กำลังจะทำให้น้องหมาพิการไปตลอดชีวิต
หรือรวมไปถึงการที่ผู้เลี้ยงเล่นกับลูกหมาด้วยวิธีแผลงๆ อย่างเช่น การจับน้องหมาโยน หรือเหวี่ยงไปมา จนพลาดทำน้องหมาตก ก็อาจทำให้น้องหมาน็อค ชัก และเกิดความพิการได้
ไม่มีใครทราบล่วงหน้าว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหน วันไหน แต่เราผู้เป็นเจ้าของสุนัขก็สามารถที่จะป้องกันอุบัติเหตุเหล่านี้ได้ โดยการเพิ่มความใส่ใจ ดูแลน้องหมาให้อยู่ในสายตา หรือหากมีความจำเป็นที่ต้องปล่อยน้องหมาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง ผู้เลี้ยงก็อย่าลืมตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพื่อลดอัตราเสี่ยงที่อาจทำให้น้องหมาประสบอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นวันไหน เวลาไหนก็ได้ ... ป้องกันไว้ดีกว่ามานั่งโทษตัวเองว่าทำไมวันนั้นเราพลาดที่ไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ทีหลังนะคะ
อาหารอันตรายใกล้ตัว
อาหาร นับเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกายของน้องหมาแสนรัก ซึ่งอาหารนั้นมีทั้งชนิดที่ให้ประโยชน์ และชนิดที่ให้โทษที่ถือว่าเป็นอาหารต้องห้ามสำหรับน้องหมา เช่น องุ่น กระเทียม ไซลิทอล(สารให้ความหวาน) ช็อกโกแล็ต อาหารแมว เห็ดป่าบางชนิด ฯลฯ ซึ่งถ้าหากน้องหมากินอาหารต้องห้ามเหล่านี้เข้าไปบ่อยๆ ก็จะเกิดการสะสม และก่อให้เกิดโรคต่างๆ ในอนาคต และอาจจะรุนแรงถึงขั้นส่งผลทำให้น้องหมาพิการ หรืออาจทำให้น้องหมาเสียชีวิตก็ได้ค่ะ
ตัวอย่างเช่น ช็อกโกแล็ต หากน้องหมากินเข้าไปในปริมาณมากอย่างต่อเนื่องก็จะส่งผลต่อระบบหัวใจ ปอด ไต และระบบประสาท หรือผลไม้ที่มีเมล็ดดิบ เช่น เมล็ดของแอปเปิ้ล ลูกแพร์ ลูกพืช ที่มีสารไซยาไนด์ที่จะส่งผลทำลายต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ซึ่งถือว่าเป็นอันตราย และอาจทำให้น้องหมาพิการได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิด และปริมาณที่ได้รับเข้าไปในร่างกายด้วยค่ะ ... ยิ่งได้รับมากโอกาสเสี่ยงเกิดโรค หรือพิการก็ย่อมมีมากนะคะ
เพราะฉะนั้นแล้วก่อนที่ผู้เลี้ยงจะให้น้องหมากินอะไร หรือหากไม่แน่ใจว่าน้องหมากินเข้าไปแล้วจะให้ประโยชน์หรือให้โทษ ผู้เลี้ยงก็ควรศึกษาหาข้อมูลให้แน่ชัดจริงๆ ก่อนมอบอาหารให้น้องหมา เพื่อน้องหมาจะได้มีสุขภาพที่ดี และอยู่กับเราไปนานๆ นะคะ โดยเพื่อนๆ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความ อาหารต้องห้ามสำหรับสุนัข [Infographic] ผักและผลไม้ ที่มีคุณและโทษต่อสุนัข
กินยาอันตราย ได้รับสารเคมี
เชื่อว่า ผู้เลี้ยงหลายๆ บ้านคงต้องใช้ยากำจัดเห็บหมัดกับน้องหมาแสนรักกันเป็นประจำอยู่แล้วใช่ไหมคะ แล้วเพื่อนๆ รู้มั้ยคะว่า นอกจากยากำจัดเห็บหมัดจะมีประโยชน์ช่วยกำจัดเห็บหมัดศัตรูตัวฉกาจให้กับน้องหมาแล้ว ยากำจัดเห็บหมัดนั้นก็อาจมีโทษกับตัวน้องหมาและผู้เลี้ยงเองได้หากใช้อย่างไม่ถูกต้องอีกด้วยค่ะ อย่างยากำจัดเห็บหมัดที่อยู่ในรูปของสเปรย์ แชมพู ยาพ่นตัว และปลอกคอกันเห็บหมัด ที่มีสารกลุ่มออกาโนฟอสเฟตและคาร์บาเมตที่ถูกใช้เป็นสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและแมลงต่างๆ ในทางการเกษตรเป็นส่วนผสมอยู่นั้น จะมีโอกาสตกค้างอยู่บนผิวหนังของน้องหมาได้ ซึ่งหากน้องหมาได้รับสารอันตรายเหล่านี้นานๆ เข้าก็จะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจ ทำให้น้องหมาเป็นอัมพาต และอาจเสียชีวิตได้ในที่สุด
แนะนำว่าก่อนที่ผู้เลี้ยงจะซื้อจะหายาอะไรมาใช้กับน้องหมาก็ตาม ผู้เลี้ยงควรศึกษาถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดกับน้องหมาให้ละเอียดถี่ถ้วน เพราะขึ้นชื่อว่ามีส่วนผสมของสารเคมีแล้ว ก็ต้องมีข้อเสียต่อน้องหมาอย่างแน่นอนค่ะ โดยเพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านบทความเกี่ยวกับอันตรายของยากำจัดเห็บหมัดได้ที่ พิษภัยของยาฆ่าเห็บหมัด ที่คนรักสุนัขต้องอ่าน
และอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ปังปอนด์ไม่พลาดที่จะนำมาเตือนเพื่อนๆ และเป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงมักมองข้ามไปก็คือ ยาที่คนทำหล่น ... ยาที่ปังปอนด์พูดถึงนี้ก็คือ ยารักษาโรคต่างๆ ของมนุษย์อย่างเราๆ นี่ล่ะค่ะ ซึ่งถ้าหากเราทำยารักษาโรคเหล่านี้ตกแล้วไม่เก็บ น้องหมาเค้าก็อาจจะมากินเข้าไปได้ อย่างกลุ่มยา Antidepressants, ADD/ADHD medications, Benzodiazepines and sleep aids, Isoniazid ยากลุ่มนี้หากน้องหมากินเข้าไปก็จะส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินเซ จังหวะก้างย่างไม่สัมพันธ์กัน เกิดความพิการ หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงควรมีความระมัดระวัง หากผู้เลี้ยงทำยาหล่น ต้องตามหา และเก็บไปทิ้งให้เรียบร้อย เพื่อจะได้ไม่เป็นอันตรายกับน้องหมาได้ค่ะ
การผสมเลือดชิด
การผสมเลือดชิด (Inbreeding) ถือเป็นสาเหตุใกล้ตัวลำดับต้นๆ ที่ทำให้น้องหมาพิการก็ว่าได้ค่ะ เพราะว่าการผสมเลือดชิดเป็นการจับคู่ผสมพันธุ์ระหว่างสุนัขที่มีความเกี่ยวพันธุ์ทางสายเลือดเดียวกัน หรือเรียกง่ายๆ ว่า มีความสัมพันธ์กันแบบเครือญาติ เช่น พ่อผสมกับลูก ลูกผสมกับแม่ พี่ผสมกับน้อง เป็นต้น ซึ่งปัญหาการผสมเลือดชิดนี้มักเกิดขึ้นในน้องหมาบ้าน ที่เจ้าของไม่ได้ทำการป้องกันจึงทำให้น้องหมาผสมพันธุ์กันเองอย่างอิสระ หรือในฟาร์มสุนัขที่เลือกวิธีการผสมแบบเลือดชิด เพื่อให้คงลักษณะพ่อพันธุ์หรือแม่พันธุ์น้องหมาไว้
ลูกสุนัขที่เกิดจากการผสมเลือดชิดมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะพิการในลักษณะต่างๆ เช่น มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ปากแหว่ง เพดานโหว่ โลหิตจาง แคระแกร็น เจริญเติบโตช้า หางกุด ขาแขนยาวไม่เท่ากัน หัวใจพิการแต่กำเนิด ฯลฯ และยังทำให้น้องหมามีปัญหาสุขภาพต่างๆ เพราะขาดความหลายหลายทางพันธุกรรม เช่น ไม่แข็งแรงสมบูรณ์ มีภูมิต้านทานโรคต่ำ ติดโรคง่าย และอาจเป็นโรคประจำพันธุ์ตั้งแต่เด็ก โดยโรคที่มักพบในน้องหมาที่เกิดจากการผสมเลือดชิด ได้แก่ โรคข้อสะโพกเสื่อม โรคหัวใจ โรคภูมิแพ้ โรคลมชัก โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง เป็นต้นค่ะ
ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆ ไม่อยากให้น้องหมาที่บ้านของเพื่อนๆ คลอดน้องหมาพิการออกมาแล้วล่ะก็ เพื่อนๆ ก็ควรป้องกัน และหลีกเลี่ยงการผสมเลือดชิดด้วยวิธีการจับน้องหมาเพศเมียที่เป็นสัดแยกออกจากน้องหมาตัวอื่นๆ เพื่อป้องกันการผสมเลือดชิด หรือหากจะซื้อน้องหมาตัวใหม่มาเลี้ยงสักตัวก็อย่าลืมที่จะศึกษาใบเพ็ดดีกรี ดูประวัติการผสมว่า น้องหมาที่เราจะซื้อเป็นลูกที่เกิดจากการผสมเลือดชิดในเครือญาติเดียวกันหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการได้สุนัขที่ไม่แข็งแรง ที่อาจเกิดปัญหาต่างๆ ภายหลังได้นะคะ คลิกอ่านข้อมูลบทความ อันตรายจากการผสมเลือดชิดในสุนัข
โอ้โห! ไม่น่าเชื่อเลยใช่มั้ยคะว่า สาเหตุใกล้ตัวต่างๆ ที่ผู้เลี้ยงมักมองข้ามไปเหล่านี้จะสามารถส่งผลให้น้องหมาพิการได้ ... ถ้าเพื่อนๆ รู้กันอย่างนี้แล้ว เพื่อนๆ ก็อย่าลืมใส่ใจน้องหมา พิถีพิถัน และไม่ประมาทนะคะ และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้คือเพื่อนๆ ต้องหมั่นพาน้องหมาไปออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง น้องหมาจะได้อยู่กับเราไปนานๆ ยังไงล่ะคะ ^^
ข้อมูลอ้างอิงบางส่วน:
http://www.petpoisonhelpline.com,
ภาพประกอบ:
http://pets.thenest.com/hardwood-floor-dogs-4275.html
http://www.pet-owners.co.uk/index.php/articles/detail/is_laminate_flooring_a_threat_to_our_pets,
http://www.pawnation.com/2009/11/10/obese-dog-confiscated-from-owner/
http://dog-milk.com/carli-davidsons-disabled-pets/,
http://www.ilovedogs.com/2012/07/green-tea-can-help-your-fat-dog-lose-weight/#.UT0wQBwvk4g
http://neartownvet.wordpress.com/2012/11/21/pet_poison/
SHARES