โดย: เว็บมาสเตอร์มะเหมี่ยว

ดาร์บี้ & ดีเดย์ พี่น้องชิวาวาตัวจิ๋วแต่ใจใหญ่

มาติดตามเรื่องราวสุดน่ารักน่าประทับใจระหว่างน้องหมาคู่หูชิวาวาและเจ้าของสุดน่ารักกันค่ะ

17 กรกฏาคม 2559 · · อ่าน (3,344)
289

SHARES


289 shares

Dog of the week มาแล้ว วันนี้มาเสิร์ฟความน่ารักของน้องหมากันเช่นเคยค่ะ วันนี้เป็นคิวของ "น้องดาบี้ กับ น้องดีเดย์" น้องหมาชิวาวาคู่หูพี่น้องสุดแสบค่ะ โดยทั้งคู่เป็นน้องหมาสุดเลิฟของ "คุณตาล ณัชชา พงษ์ภูริพัฒน์" สาวสวยที่หลายคนรู้จักเธอในฐานะของผู้ที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจนตอนนี้กลับมาหายเป็นปกติดีแล้ว และกำลังใจที่สำคัญอย่างมากที่ทำให้คุณตาลหายจากโรคร้ายก็มาจากน้องดาบี้ กับน้องดีเดย์ นี่ล่ะค่ะ

... ว่าแล้วก็ไปติดตามเรื่องราวความรักสุดประทับใจของคุณเจ้าของและน้องหมาบ้านนี้กันดีกว่าค่ะ

พี่บี้ : “แม่ได้พี่มา เพราะแม่เฟลกับการซื้อหมาตัวแรกมาเลี้ยง เลี้ยงไปได้คืนเดียวป่วยเลย ไม่กี่วันก็ตาย แม่คงอยากได้ลูกหมาขั้นสุด เลยดู ๆ ตามเว็บไซต์ ดูไปเรื่อย ๆ จนได้เรื่อง แม่ถูกชะตากะพี่ชัวร์ ๆ รีบปรี่ไปขอดูตัวถึงนครปฐม ตอนแรกจะไม่เอาพี่ล้าววว แต่ความคิ้วท์ของพี่มันตราตรึง สุดท้ายต้องกลับไปเอา อิอิ แถมแม่ยังหลอกคุณยายอีกนะว่า เพื่อนแม่สงสารเห็นแม่เซื่องซึมเลยซื้อพี่มาปลอบใจ...เฮ้ออออ ตัวเองซื้อเองแท้ๆ 55+ (ประเด็นคือกลัวโดนยายด่าอะดิ)



น้องเดย์ : “เข้าใจคำว่าครอบครัวขยายมั้ยฮะ เนี่ย ๆ ใช่เลย มีหนึ่งไม่พอ แม่เกิดอยากงอกน้องชายให้พี่บี้เค้าล่ะ ก็เหมือนเดิมเปิดดูตามเว็บไซต์จนได้เรื่อง หมาแม่บอกเห็นแล้วรักเลย ตัวอุย ๆ ดำ ๆ มีคิ้วด้วย ตามสเปคหมาแม่เลยล่ะ”


พี่บี้ : “แหมมม พี่ไม่อยากจะพูด พี่ล้ำมากเรื่องอึ!! แม่บอกว่าท่าอึพี่กวนโอ๊ยมาก ๆ ก็ไม่น้า ... แค่ชอบยกตูดอึเอง บางทีก็อึก็ติดกระจก ติดประตู ติดจักรยาน ความหรรษาเล็กๆของพี่อะ แม่ไม่เข้าใจเหรอ”



น้องเดย์ : “ส่วนพี่มาสายมุ้งมิ้ง พี่เห็นแม่ดราม่าไม่ได้ พี่เจ็บปวดแทน พี่ต้องรีบไปปลอบใจ พี่จะเก็บกินน้ำตาของแม่ให้เกลี้ยง ไม่ชอบให้แม่ร้องไห้ พี่รักของพี่อ่า...”

 


พี่บี้ : “วีรกรรมพี่ไม่มีไรมาก แค่เสี่ยงตายนิดโหน่ยยย 55+ วันนั้นพี่ซุกซนตามประสาเด็กๆ ก็กัดแทะไปเรื่อย พี่ไม่รู้ววว ว่าที่พี่กัดอยู่คือสายไฟพัดลม กัด ๆ อยู่ จู่ๆก็ระเบิด ปัง!! สายไฟคาปาก พร้อมควันที่พวยพุ่งออกจากปาก พี่เอ๋อไปชั่วขณะ เดินปวกเปียก เลื่อนลอย ลิ้นกับริมฝีปากไหม้เบาๆ แต่ซักพักก็หาย กลับมาซนได้เหมือนเดิม และนิสัยชอบกัดแทะของพี่หายก็เป็นปลิดทิ้งหลังจากเหตุการณ์นั้น แหะ ๆ ”

น้องเดย์ : “ส่วนพี่หรอ พี่คิดว่าพี่เจ๋ง ตัวใหญ่คับฟ้า ใครไม่เกี่ยวอย่ามาแหยมเดินผ่านหน้าบ้าน วันนั้นไอ้ดำหมาคู่อริพี่ มันมาหยามพี่ มันคุ้ยขยะหน้าบ้านพี่ แม่เปิดประตูปุ๊ป พี่พุ่งปั๊ป พี่กวดไอ้ดำไปติดๆ พี่เกือบจะจับมันได้แล้วเชียว ถ้าพี่ไม่ได้ยินเสียงแม่แหกปากไล่หลังมาติดๆ ว่า “ดีเดย์!!! หยุด!!! เดย์!! ไอ้เดย์!!!!!!!!” เสียงหอบของแม่ดังพอ ๆ กับเสียงที่ตะโกน จนพี่ต้องหยุด 555+”

"พวกพี่หวงสิ่งเดียวกันคือ “อุ้งเท้า” คือ แม่ชอบสำรวจอุ้งพี่ไง พี่ไม่ชอบเลย อุ้งพี่มีอะไรนักหนา แค่บางทีพี่พกเพื่อนกลับมาด้วยตัวสองตัว ทำเรื่องใหญ่ เพื่อนเค้าไม่มีบ้านที่อบอุ่นเหมือนพี่ พี่สงสารนี่นา ก็แม่ชอบพาพี่ไปเดินข้างนอกก็งี้ พี่ก็เลยเจอเพื่อนบ้างไรบ้าง อย่าซีเรียสนะแม่"

พี่บี้ : “เอาจริงๆพี่อะกินได้ทุกอย่างเลย โยนๆมาพี่กินได้หมด ไม่แบ่งพี่ พี่ก็จะแหกปากเรียกจนแม่ต้องใจอ่อน มีครั้งนึงไม่รู้พี่ไปกินไรมา ดึกๆปากบวมตุ่ย เป็นเรื่องให้หมาแม่ต้องพาไปหาหมอตอนตี 3 เลย 55+”

น้องเดย์ : “ส่วนพี่ก็ชอบทุกอย่างนะ ยกเว้นพวกตระกูลปลา พี่ว่าปลามันคาวอ่า ได้กลิ่นไม่ได้เลย พี่จะเอาคอถู ๆ ไถ ๆ พี่ไม่ช๊อบบบบ พี่ไม่กิน พี่เหม็นอ่า”

 

“แม่ไม่มีเทคนิคอะไรพิเศษหรอกฮะ แต่สิ่งที่แม่ทำตลอดคือ การกอด หอม สัมผัส และพูดคุยกับพี่ทุกวัน แม่ชอบสอน ชอบชวนเล่น ชวนคุย แม่บอกว่ามันจะทำให้เรารักกัน ทำให้พี่ผูกพันและเชื่อฟังแม่ ทำให้แม่ไม่อายใครเวลาอยากอวดลูกต่อหน้าสาธารณชน ทำให้พี่หยุดนิ่งให้แม่ถ่ายรูปได้ เพราะเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 55+ (เว่อร์ไปมั้ย ^^)"

“ลูกหมาจำได้มั้ย วันที่แม่อ่อนแอที่สุด วันที่แม่รู้ว่าแม่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองขั้นที่ 3 ลูกหมาใช่มั้ยที่เป็นคนปลอบใจหมาแม่ แม่กอดลูก ร้องไห้เป็นบ้า ลูกไม่ยอมให้แม่ร้อง ลูกคอยเลียน้ำตาแม่ ลูกจะบอกให้แม่สู้ ๆ ใช่มั้ย ลุกรู้มั้ยลูกทำสำเร็จ แม่หยุดร้องและสู้อยู่ทุกวัน วันไหนที่เหนื่อยสุด ๆ ได้กอดลูก ฟัดลูก พลังมาเต็ม ^^ พร้อมลุยกับทุกอย่าง จนวันนี้โรคมะเร็งของแม่สงบแล้ว แต่เราก็ยังจะอยู่เป็นพลังให้กันแบบนี้ไปอีกนานแสนนานเลยนะ แม่รู้ว่าลูกก็รักและอยากอยู่กับแม่เหมือนกัน รักนะค้าบบบบ”

น่ารักอบอุ่นที่สุดเลยล่ะค่ะ ... ดีใจกับคุณตาลด้วยที่สุขภาพกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมแล้ว เรียกได้ว่ากำลังใจจากน้องดาร์บี้กับดีเดย์เป็นกำลังใจเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ เลยล่ะค่ะ เห็นไหมล่ะคะว่าการมีน้องหมาในชีวิตน่ะดีขนาดไหน :)


"โรคสะบ้าเคลื่อน" อีกโรคต้องระกวังสำหรับน้องหมาชิวาวา ถ้าหากพูดถึงโรคประจำสายพันธุ์ของน้องหมาชิวาวา หลายคนอาจนึกถึงโรคสมองบวมน้ำ แต่จริง ๆ แล้วในน้องหมาชิวาวายังพบโรคประจำสายพันธุ์หรือโรคที่อาจพบได้บ่อยอื่น ๆ อีกที่หลายคนอาจยังไม่รู้ เช่น โรคสะบ้าเคลื่อน

ความผิดปกติของลูกสะบ้าที่เกิดขึ้นในสุนัขพันธุ์เล็ก ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นลักษณะของการเคลื่อนหลุดออกมาจากร่อง เรียกว่า โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar luxation) โดยพบว่าลูกสะบ้าจะเคลื่อนออกไปทางด้านใน (medial) มากกว่าเคลื่อนออกไปทางด้านนอก (lateral) ของร่องกระดูกต้นขาหลัง

ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นมาแต่กำเนิด โดยเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม พบในสุนัขอายุน้อยกว่า 1 ปี หรืออาจเกิดขึ้นมาภายหลังจากการกระทบกระเทือนก็ได้ สุนัขพันธุ์เล็กที่พบโรคสะบ้าเคลื่อนได้บ่อย ได้แก่ พันธุ์ปอมเมอเรเนียน (พบมากที่สุด) พันธุ์ชิวาวา พันธุ์ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย พันธุ์ออสเตรเลียนเทอร์เรีย พันธุ์ทิเบตันสเปเนียล พันธุ์เจเปนนิส-ชิน พันธุ์มิ-กิ พันธุ์บอสตันเทอร์เรีย พันธุ์นอร์ฟ็อกเทอร์เรีย พันธุ์ปักกิ่ง พันธุ์พูเดิ้ลทอย พันธุ์มอลตีส พันธุ์ชิสุ ฯลฯ

สำหรับแนวทางการป้องกันและชะลอความความรุนแรงของโรคสะบ้าเคลื่อนในสุนัขพันธุ์เล็ก สามารถทำได้ ดังนี้ค่ะ

1. หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวหรือเล่นที่อาจส่งผลต่อกระดูกข้อเข่า เช่น การกระโดดขึ้นๆ ลงๆ ที่สูง หรือวิ่งขึ้นลงบันไดเร็วๆ การเล่นแรงๆ ที่อาจไปกระทบกระแทกข้อเข่า
2. หลีกเลี่ยงการเลี้ยงหรือการเดินบนพื้นลื่นๆ เช่น พื้นกระเบื้อง พื้นปาร์เก้ พื้นหินอ่อน ฯลฯ
3. พยายามตัดขนที่ฝ่าเท้าให้เรียบ อย่าให้ยาวจนมาปกคุลมฝ่าเท้า เพราะจะทำให้ลื่นเวลาก้าวเดิน คล้ายกับการที่คนเราสวมถุงเท้าแล้วเดินบนพื้นลื่นๆ
4. ต้องควรคุมน้ำหนักอย่าให้มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน เพราะจะส่งผลให้ข้อรับน้ำหนักมากเกินไป
5. เลือกอาหารที่มีส่วนผสมของสารบำรุงข้อ เช่น กลูโคซามีน คอนดรอยตินซัลเฟต เพื่อช่วยซ่อมแซมและรักษาผิวข้อ และเพิ่มการสร้างน้ำไขข้อ ซึ่งเป็นสารหล่อลื่นช่วยลดแรงกระแทก ป้องกันโรคข้อเสื่อมที่จะตามมา สารเสริมอื่นๆ ได้แก่ พวกโอเมก้า 3 ช่วยลดการอักเสบของข้อ หรือสารต่อต้านอนุมูลอิสระต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี ฯลฯ ช่วยป้องการการเสื่อมของกระดูกและข้อได้ ทั้งนี้หากจะเสริมอะไรควรปรึกษาคุณหมอก่อนค่ะ
6. ให้ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น พาเดินหรือวิ่ง ว่ายน้ำ เป็นต้น เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ สร้างความแข็งแรงช่วยในการรองรับน้ำหนักและทำให้การเคลื่อนไหวมั่นคงยิ่งขึ้น เจ้าของที่เลี้ยงน้องหมาพันธุ์เล็ก อาจซื้อสระยางแบบเป่าลมของเด็ก มาให้น้องหมาหัดว่ายน้ำก็ได้ค่ะ
7. สำหรับสุนัขพันธุ์เสี่ยงควรพาไปตรวจกับคุณหมอตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่จำเป็นต้องรอให้แสดงอาการแล้วค่อยพาไป อย่างที่บอกว่าหากยังเป็นไม่รุนแรง การรักษาก็จะง่ายกว่า การฟื้นตัวภายหลังการรักษาก็จะง่ายกว่าค่ะ


  • ส่งต่อให้เพื่อน:
  • Categories : Dog Spotlight ·