หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมอยู่ดีๆ ถึงหยิบเรื่องของน้องหมา
2 สายพันธุ์นี้มาพูดคุยกัน เพราะจริงๆ แล้วก็เป็นน้องหมา
สายพันธุ์ยอดนิยมที่คนเลี้ยงกันทั่วไป ใครๆ ก็รู้จักพวกเขาดี
ว่ามีหน้าตาและนิสัยใจคออย่างไร

แต่คุณแน่ใจหรือคะว่า คุณรู้จักพวกเขาดีแล้วจริงๆ ... เพราะ
ถึงแม้พวกเขาจะเป็นน้องหมาสายพันธุ์ที่เราต่างก็คุ้นเคยกันดี
แต่ถ้าหากได้ทำความรู้จักกับพวกเขาให้ลึกซึ้งจะทำให้เรารู้ว่า
นอกจากหน้าตาอันน่ารักน่าเอ็นดูของพวกเขาแล้ว ยังมีเรื่องราว
อีกมากมายหลายแง่มุมที่เราอาจจะยังไม่รู้ และยังไม่เข้าใจ
เขาดีพอ

อย่างน้องหมาไซบีเรียนฮัสกี้ที่หลายๆ หลายคนต่างก็หลงรักในเสน่ห์ของรูปลักษณ์ที่ดู เท่ คม
เฉี่ยว เหมือนหมาป่า ดูเป็นน้องหมาที่มีนิสัยสุขุมลุ่มลึก นั่นคือภาพที่ทุกคนมองเขา แต่ในความ
เป็นจริงแล้ว น้องหมาไซบีเรียนนั้นคือเจ้าตัวแสบประจำบ้าน!!! เพราะภายใต้ใบหน้าอันสงบนิ่ง
ของพวกเขา มันแฝงไปด้วยความแสบป่วนต่างๆ นาๆ ที่เราอาจคาดไม่ถึง

ถ้าหากไม่เชื่อ ลองไปถามเหล่า ไซบีเรียน เลิฟเวอร์ ทั้งหลาย
ดูก็ได้ค่ะว่า ถ้าหากคุณเผลอทิ้งบ้านเอาไว้โดยที่ไม่ได้เก็บ
ข้าวของให้ดีล่ะก็ เมื่อคุณกลับมาคุณจะพบว่าบ้านของคุณ
เหมือนโดนพายุเฮอริเคนถล่ม! สวนสวยของคุณอาจจะโดน
ขุดกระจุยกระจาย ต้นไม้ออกมาอยู่นอกกระถาง ปลาในอ่าง
อาจออกมานอนกองอยู่กับพื้น

และเจ้าไซบีเรียนตัวดีก็จะนอนทำหน้ามึนไม่รู้ไม่ชี้เหมือน
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีสมาชิก Dogilike เคยเล่าให้ฟังว่า...

นอกจากนี้ บางบ้านที่เลี้ยงไซบีเรียนยังประสบกับปัญหา "เสียงหอน" เนื่องจากโดยธรรมชาติของ
ไซบีเรียนแล้วเขาจะไม่ค่อยเห่า แต่จะสื่อสารผ่านการหอนแทน ทำให้บางครั้งเจ้าของ(ที่ไม่เข้าใจ
ธรรมชาติของน้องหมาไซบีเรียน)รู้สึกรำคาญ พยายามหาวิธีทำยังไงก็ได้ให้น้องหมาหยุดหอน
บางคนถึงกับเลือกที่จะพาน้องหมาไปตัดเส้นเสียงเพื่อให้น้องหมาหอนน้อยลง (บาปกรรมมากๆ
เลยทีเดียว!!!)

... ส่วนน้องหมาชิสุ เป็นน้องหมาที่คนนิยมเลี้ยงกันมานานแล้ว ดูจากภายนอก เจ้าชิสุ เป็นน้องหมา
ที่ดูเรียบร้อย นิ่งๆ เชิ่ดๆ ตามสไตล์น้องหมาไฮโซ ดูแล้วน่าจะไม่มีปัญหาทางด้านพฤติกรรมอะไรให้
ผู้เลี้ยงต้องหนักใจ

แต่ในด้านสุขภาพนั้น ชิสุเองเป็นน้องหมาที่ต้องการการดูแล
เป็นพิเศษ เพราะเขาค่อนข้างจะอ่อนไหวต่ออาการผิดปกติต่างๆ
ได้ง่าย อย่างเช่น อาการแพ้ต่างๆ โรคผิวหนังอักเสบ อาการ
เหล่านี้ถ้าเจ้าของไม่สังเกตก็จะไม่รู้ว่าน้องหมามีอาการผิดปกติ
ซึ่งในระยะยาวอาการผิดปกติดังกล่าวก็จะรุนแรงมากขึ้น

ไม่เพียงแค่นั้น สำหรับน้องหมาชิสุยังต้องระวังในเรื่องของ
ดวงตาเป็นพิเศษ เพราะว่าพวกเขามีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ ลูกตาทะลักได้ง่าย (ส่วนใหญ่ภาวะนี้เกิดขึ้นมากกับน้องหมา
หน้าสั้นตาโปน เช่น ปั๊ก ปักกิ่ง เป็นต้น) โดยภาวะดังกล่าวนี้
มักเป็นผลตามมาจากการได้รับการกระทบกระแทกที่รุนแรง
บริเวณเบ้าตา เช่น ภายหลังถูกรถชน หรือโดนกัด ดังนั้น
ผู้ที่เลี้ยงน้องหมาชิสุจะต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุต่างๆ
เป็นอย่างมาก

เห็นไหมคะว่าถึงแม้เจ้าชิสุจะไม่มีปัญหาในด้านพฤติกรรมให้ผู้เลี้ยงต้องกลุ้มใจ แต่ในด้านสุขภาพแล้ว
เจ้าของก็จะต้องดูแลพวกเขาเป็นพิเศษ หากละเลยไปแม้แต่เล็กน้อยก็อาจจะส่งผลที่ก่อให้เกิดอันตราย
ต่อสุขภาพของเขาได้

นี่เป็นเพียงแค่ข้อมูลที่น่าสนใจเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับน้องหมาไซบีเรียน ฮัสกี้ และน้องหมาชิสุนะคะ ... ตลอดทั้งเดือนนี้ Dogilike ยังมีเรื่องราวดีๆ ที่น่าสนใจ และมีประโยชน์สำหรับเหล่าคนเลี้ยง น้องหมาไซบีเรียนและน้องหมาชิสุ มาฝากกันอีกเพียบเลยล่ะค่ะ ใครที่กำลังเลี้ยงน้องหมาทั้ง 2 สายพันธุ์นี้อยู่ และกำลังต้องการวิธีแก้ปัญหา หรือเทคนิคในการเลี้ยงดูพวกเขาให้มีสุขภาพดี ต้องไม่พลาดค่ะ!!

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสุนัขจรจัดครั้งยิ่งใหญ่ จาก 3
หน่วยงาน (บ้านรักหมาศาลายา ม.มหิดล , โครงการหาบ้านใหม่
ให้สุนัขจรจัด ม.เกษตรศาสตร์ , ศูนย์รักสุนัขหัวหิน) ในโครงการ "Pedigree Find-a-home" โครงการหาบ้านใหม่ให้สุนัข
กับเพดดิกรี ® เพราะสุนัขทุกตัวต้องการมีบ้านที่อบอุ่น ..คุณก็ช่วยได้
https://www.dogilike.com/find-a-home/