ส่วนปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเครียดในน้องหมานั้นก็มาจากหลายสาเหตุ เช่น ...

>> ถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวเป็นประจำ
>> ย้ายที่อยู่อาศัย แยกออกจากพี่น้อง หรือถูกแยกจากแม่
>> เปลี่ยนเจ้าของ/ผู้เลี้ยงใหม่
>> อากาศเปลี่ยน (ร้อนจัด หนาวจัด)
>> สิ่งแวดล้อมรอบข้างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า
>> อยู่กับผู้เลี้ยงที่ชอบกดดัน เช่น ชอบดุ ชอบตี ชอบจับขังกรง
>> การกินอยู่ไม่สมบูรณ์ ขาดอาหาร
>> ไม่ได้ออกกำลังกายเท่าที่ควร
>> มีสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้ามาในฝูง หรือในบ้าน

     ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นมีส่วนช่วยกระตุ้นให้น้องหมาเกิดความเครียดได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วปัญหาเรื่องความเครียดนั้น มักจะเป็นปัญหาที่ผู้เลี้ยงมักมองข้ามไป ส่วนใหญ่เมื่อเห็นน้องหมาของตัวเองมีอาการหรือพฤติกรรมผิดปกติก็มักจะคิดว่า สุนัขป่วย จึงทำไปพบคุณหมอ

     ในหลายรายไปพบคุณหมอแล้ว แต่คุณหมอไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ เพราะผลจากการตรวจร่างกายนั้นแข็งแรงดีตามปกติ เมื่อร่างกายปกติดีนั้นแสดงว่าพฤติกรรมหรืออาการผิดปกตินั้นไม่ได้เกิดจากการเจ็บป่วยทางร่างกาย แต่เกิดจาก "การเจ็บป่วยทางใจ" ซึ่งเป็นที่มาของความเครียดนั่นเอง

     ... ลองสังเกตง่ายๆ นะคะ เวลาที่เราพาน้องหมาไปหาคุณหมอ ถ้าเขามีอาการสั่น หอบ หายใจถี่ๆ น้ำลายไหล หรือกระวนกระวายอยู่ไม่นิ่ง ไม่ทำตามคำสั่ง หรืออาจมีอาการก้าวร้าว ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็น นั่นแสดงว่าน้องหมากำลังตกอยู่ในสภาวะเครียดขั้นรุนแรง

     ส่วนน้องหมาที่เจ้าของมักจะไม่ค่อยอยู่บ้าน ต้องถูกทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียวบ่อยๆ หรืออาจถูกนำไปฝากไว้ที่อื่นเป็นเวลานานๆ อาการเครียดจะแสดงออกมาโดย น้องหมาก็จะมีอาการเซื่องซืม ไม่ร่าเริง เบื่ออาหาร บางตัวก็จะมีอาหารหอนหรือคราง หงิงๆ ตลอดเวลา หรืออาจจะแสดงออกอีกอย่างหนึ่งคือ กัดทำลายข้าวของ รื้อค้นสิ่งทีอยู่รอบตัว ตะกุยตามประตูบ้าน

     สำหรับปัญหาความเครียดในน้องหมานั้น วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือ เจ้าของจะต้องรีบหาสาเหตุของความเครียดให้ได้ก่อนว่าเกิดจากอะไร เกิดจากมีอาการเจ็บป่วยทางกาย หรือเกิดจากปัจจัยภายนอกที่กระทบต่อจิตใจของน้องหมา (อย่างที่บอกไว้ในข้างต้นของบทความ)

     ถ้าหากเจ้าของปล่อยให้น้องหมาตกอยู่ในสภาวะเครียดนานๆ แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อสุขภาพของน้องหมา โดยจะมีผลต่อระบบการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายสุนัข เพราะเมื่อ น้องหมาเครียด ร่างกายของเขาจะหลั่งสารเสตียรอยด์ออกมา และสารดังกล่าวจะส่งผลต่อการกดการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายของน้องหมา ซึ่งจะทำให้ร่างกายของน้องหมาในช่วงนั้นสามารถติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายกว่าปกติ ในช่วงนี้อาจมีโรคแทรกซ้อนต่างๆ เกิดขึ้นกับน้องหมาได้

     ... สำหรับเจ้าของที่เริ่มสังเกตเห็นแล้วว่าน้องหมากำลังมีอยู่ในสภาวะเครียด คุณสามารถช่วยให้ความเครียดลดลงได้โดยการ ค่อยๆ เบี่ยงเบนความสนใจจากน้องหมาให้ออกจาสภาวะเดิมที่เป็นอยู่ เช่น ถ้าเราเพิ่งได้น้องหมาตัวใหม่มาเลี้ยง แน่นอนว่าน้องหมาจะต้องตื่นที่ ไม่คุ้นกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ทำให้เกิดความเครียด เจ้าของจะต้องให้เวลาน้องหมาในการสำรวจพื้นที่ สร้างความคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อม โดยสิ่งที่สำคัญคือจะต้องไม่ทิ้งให้เขาอยู่ตัวเดียว เจ้าของควรดูแลอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้น้องหมาอุ่นใจ อาจจะต้องเล่นกับน้องหมาบ่อยๆ เพื่อให้เขาคุ้นเคยกับเราซึ่งเป็นเจ้าของคนใหม่

     ส่วนน้องหมาที่เกิดสภาวะเครียดเนื่องจากอาการเจ็บป่วยนั้น เจ้าของควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา และบำบัดอาการดังกล่าวอย่างเหมาะสมและถูกต้องค่ะ

     สภาวะ เครียดในน้องหมาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะมีปัจจัยต่างๆ คอยกระตุ้นมากมาย ดังนั้นสิ่งที่ผู้เลี้ยงอย่างเราจะสามารถทำให้เขาเสี่ยงต่อสภาวะความเครียดได้น้อยที่สุดคือการเอาใจใส่อย่างใกล้คิด คอยสังเกตพฤติกรรมของน้องหมาอย่างสม่ำเสมอ การดูแลอย่างใส่ใจใกล้ชิด จะทำให้เราเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับน้องหมาได้เร็ว ซึ๋งเป็นผลดีก็การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นค่ะ

บทความโดย:  Dogilike.com

ภาพประกอบ:
http://www.petinfoclub.com/Dogs/FAQs/Depressed_dogs.aspx
http://pets.webmd.com/ss/slideshow-surprising-things-about-dogs-and-cats
http://www.123rf.com/photo_8841932_portrait-of-serious-dog-of-dogue-de-bordeaux-breed-looking-aside-isolated-on-white-background.html
http://intellidogs.com/blog/dog-separation-anxiety-and-how-to-treat-it/
http://dogs.lovetoknow.com/wiki/Canine_Anti_Anxiety_Medication
http://www.infobarrel.com/How_can_I_Get_Rid_of_Dog_Sneezing_Fairly
_Quickly:_Effective_Cures_for_Your_Sneezing_Dog