"เอ๊ะ อาหารแบบไหนจะเหมาะกับน้องหมาของเรานะ?" ... คำถามนี้ฟังดูเผินๆ แล้วอาจจะรู้สึกว่าเป็นคำถามของผู้เลี้ยงสุนัขมือใหม่ที่ยังไม่ค่อยรู้จักวิธีการเลี้ยงสุนัขที่ถูกต้อง แต่จริงๆ แล้วเพื่อนๆ เชื่อไหมคะว่า ถึงแม้จะเป็นผู้ที่เลี้ยงสุนัขมานานแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีผู้เลี้ยงบางคนที่ไม่ยังไม่สามารถหาอาหารสุนัขที่เหมาะกับสุนัขของตัวเองได้ ด้วยสาเหตุนี้เองทำให้หลายๆ ครั้งเราพบว่าสุนัขมักจะมีอาการผิดปกติทางร่างกายหรืออาการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ที่มีสาเหตุมากจาก โภชนาการอาหารที่ไม่เหมาะกับร่างกายของเขา

     เรื่องของโภชนาการอาหารสำหรับสุนัขนั้น เป็นเรื่องที่ผู้เลี้ยงอย่างเราๆ จำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพราะเรื่องของโภชนาการอาหารมีผลโดยตรงต่อร่างกายของสุนัข และจากความสำคัญนี้เองทำให้ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัขหลายๆ ยี่ห้อ จึงได้ทำการคิดค้นอาหารสุนัขสูตรใหม่ๆ ออกมามากมาย จากเดิมที่มีแค่อาหารสุนัขสำเร็จรูปสูตรมาตรฐานทั่วไป (เช่น สูตรสำหรับลูกสุนัข , สูตรสำหรับสุนัขโตเต็มวัย , สูตรสำหรับสุนัขพันธุ์เล็ก , สูตรสำหรับสุนัขพันธุ์ใหญ่ , สูตรสำหรับสุนัขขนยาว , สูตรสำหรับสุนัขขนสั้น ฯลฯ) โดยได้มีการพัฒนาสูตรอาหารสุนัขสำหรับสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ ขึ้นมา

     และเมื่อมีการผลิตอาหารสูตรเฉพาะสำหรับสุนัขแต่ละสายพันธุ์ออกมา ผู้เลี้ยงสุนัขที่เคยให้สุนัขกินอาหารสุนัขสูตรมาตรฐานอยู่จึงเกิดความสับสนว่า จริงๆ แล้วอาหารที่ให้สุนัขของเรากินอยู่ทุกวันนี้เป็นอาหารที่เหมาะสมหรือไม่ แล้วถ้าหากกินอาหารสูตรมาตรฐานอยู่แล้วจำเป็นจะต้องเปลี่ยนไปกินอาหารสูตรเฉพาะสายพันธุ์หรือเปล่า? ... ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ล่ะก็ วันนี้มะเหมี่ยวจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ

 

การเลือกอาหารให้สุนัขต้องพิจารณาจาก ...

     จริงๆ แล้ว ในการเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูปให้กับสุนัขนั้น ควรพิจารณาจากปัจจัยที่สำคัญ 2 ประการหลักๆ คือ "ขนาด" และ "ช่วงวัย"

     ปัจจัยด้านขนาด - สิ่งที่จะต้องพิจารณาคือ เรื่องของขนาดของสุนัขที่เลี้ยงว่าอยู่ในกลุ่มใด เช่น สุนัขกลุ่มที่มีขนาดเล็ก , สุนัขกลุ่มที่มีขนาดกลาง , สุนัขกลุ่มที่มีขนาดใหญ่  

     ปัจจัยด้านช่วงวัย (อายุ) - สิ่งที่จะต้องพิจารณาคือ สุนัขที่เลี้ยงอยู่ในช่วยวัยใด เช่น วัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ หรือวัยชรา

     ที่เราจำเป็นจำต้องพิจารณาจากปัจจัย 2 ประการนี้ ก็เพราะว่าสุนัขแต่ละสายพันธุ์ที่มีขนาดแตกต่างกัน ก็จะมีความต้องการอาหารและสารอาหารแตกต่างกันไปตามโครงสร้างของร่างกายโดยธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ...

     สุนัขพันธุ์ปอมเมเรเนียน เป็นสุนัขที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มสุนัขที่มีขนาดเล็ก มีนิสัยร่าเริง ตื่นตัวอยู่เสมอ โดยปกติแล้วคนนิยมเลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อนเล่นอยู่ในบ้าน ดังนั้นปอมเมเรเนียนจึงเป็นสุนัขที่มีกิจกรรมค่อนข้างน้อยอาหารที่เหมาะกับเขาถ้าเป็นอาหารเม็ดก็ควรเป็นอาหารเม็ดที่มีขนาดเล็กและเป็นอาหารที่ไม่ควรมีปริมาณโปรตีน หรือไขมันสูงจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการสะสม (เนื่องจากเป็นสุนัขที่ใช้พลังงานน้อย) จนทำให้มีน้ำหนักมากเกินไปได้ ควรเน้นอาหารที่มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงขน หรือผิวหนังมากกว่า  

     ในขณะที่ สุนัขพันธุ์ลาบาดอร์รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขที่ถูกจัดให้อยู่ใสกลุ่มสุนัขที่มีขนาดใหญ่ ถึงแม้จะเป็นสุนัขที่มีนิสัยชอบออกกำลังกาย ชอบวิ่ง และมีความตื่นตัวอยู่เสมอ แต่ก็พบว่าเกิดปัญหาเรื่องน้ำหนักส่วนเกินได้ง่าย อาหารที่เหมาะกับเขาควรเป็นอาหารเม็ดใหญ่ และมีสารอาหารที่ให้พลังงานได้ดี เช่น โปรตีน ไขมัน แคลเซียม ฯลฯ โดยปริมาณการให้อาหารก็ควรจะเหมาะสมกับกิจกรรมที่สุนัขทำในแต่ละวันด้วย

     นอกจากปัจจัยด้านขนาดของสุนัขแล้ว เรื่องของช่วงวัยก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ใช้ในเลือกอาหารให้สุนัขเหมือนกัน ... สุนัขที่อยู่ในวัยเด็กอาจต้องการอาหารต่างๆ ที่มีโปรตีน พลังงานสูง หรืออาหารที่เพิ่มนมน้ำเหลืองเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต รวมไปถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาการของร่างกาย แต่ถ้าหากเป็นสุนัขที่เริ่มมีอายุมาก อาจต้องดูปริมาณสารอาหารจำพวกโปรตีน พลังงาน เพราะเขาจะมีความต้องการไม่เท่าสุนัขเด็ก และควรเลือกอาหารสำหรับสุนัขที่มีอายุเยอะโดยเฉพาะ เช่น มีระดับโปรตีนสูงที่ช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน จำกัดปริมาณไขมันเพราะสุนัขที่มีอายุมากมักไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย มีกิจกรรมต่างๆ ลดลงกว่าช่วงโตเต็มวัย ดังนั้นอาหารจึงควรมี DHA เพื่อช่วยทำให้การตอบสนองที่เร็วขึ้น รวมทั้งต้องทำจากวัตถุย่อยง่ายไม่ทำให้ท้องอืด หรือมีสารตกค้าง

 

แล้วสุนัขที่มีขนาดเท่ากัน แต่ต่างสายพันธุ์กันล่ะ พวกเขาต้องการอาหารที่แตกต่างกันไหม? ...

     สุนัขที่มีขนาดเท่ากัน อยู่ในช่วงวัยเดียวกัน แต่ต่างสายพันธุ์กันนั้น ถ้าหากเป็นสุนัขที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงปกติดี ความต้องการในการได้รับสารอาหารก็จะใกล้เคียงกัน ดังนั้นการเลือกอาหารให้กับสุนัขขนาดเล็กก็เลือกอาหารที่ระบุว่าเป็นอาหารสำหรับสุนัขพันธุ์เล็ก ก็ถือว่าเป็นอาหารที่มีสารอาหารเพียงพอต่อความต้องการของสุนัขแล้ว

     ส่วนในปัจจุบันที่เราเห็นว่ามีผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปสูตรเฉพาะสำหรับแต่ละสายพันธุ์นั้น ถือว่าเป็นตัวเลือกเสริมที่จะช่วยตอบสนองความต้องการทางโภชนาการของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ และทำให้สุนัขแต่ละสายพันธุ์ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด อาหารเฉพาะแต่ละสายพันธุ์จะมีสารอาหารต่างๆ ที่มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคประจำสายพันธุ์ได้

     เช่น อาหารสุนัขสำเร็จรูปแบบเม็ดสูตรสำหรับสุนัขพันธุ์ชิสุ โตเต็มวัย (สุนัขพันธุ์ชิสุ ที่มีอายุ 10 เดือนขึ้นไป) อาหารสูตรนี้จะมีโปรตีน 24% ไขมัน 20% มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงขนให้เงางาม และบำรุงผิวหนังให้มีสุขภาพแข็งแรงและระงับการคันในผิวหนังและหู (ชิสุเป็นสุนัขที่เป็นโรคผิวหนังได้ง่าย ส่วนใหญ่จะมีอาการเป็นโรคเชื้อราจำพวกยีสต์ที่ผิวหนังเป็นประจำ ซึ่งโรคนี้จะทำให้น้องหมาคัน มีรังแค ผิวหนังเยิ่ม และมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวด้วย) นอกจากนี้เม็ดอาหารออกแบบมาเฉพาะเหมาะกับสุนัขชิห์สุ สามารถคาบอาหาร เข้าปากได้อย่างสะดวก และส่งเสริมให้เกิดการเคี้ยว อาหารเพื่อการ ย่อยอาหารที่ดีขึ้น
 

เราสามารถเลือกอาหารโดยไม่พิจารณาถึง "ขนาด" และ "ช่วงวัย" ของสุนัขได้ไหม? ...

     การเลือกอาหารให้สุนัขโดยไม่พิจารณาถึงปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่พูดถึงไปในตอนต้นนั้น อาจจะไม่ได้ทำให้สุนัขมีอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิต แต่สุนัขอาจจะไม่ได้รับสารอาหารจากอาหารที่กินเข้าไปในปริมาณที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่างๆ ในระยะยาว

     เช่น การนำอาหารของลูกสุนัขไปให้สุนัขสูงอายุกิน อาหารสำหรับลูกสุนัขจะมีสารอาหารที่ให้พลังงานสูง เพราะสุนัขเด็กจะมีการทำกิจกรรมมากและมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว แต่ถ้าหากนำมาให้สุนัขสูงอายุซึ่งเป็นช่วงวัยที่ไม่ต้องการพลังงานมากกินเข้าไป ก็อาจทำให้สุนัขสูงวัยนั้นอ้วนง่าย ในทางกลับกัน ถ้าเอาอาหารสุนัขสำหรับสุนัขสูงวัยไปให้ลูกสุนัขกิน ก็อาจจะทำให้ลูกสุนัขโตได้ไม่เต็มที่ เพราะอาหารที่กินเข้าไปนั้นไม่มีสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย



     ... เพื่อนๆ จะต้องท่องจำให้ขึ้นใจนะคะว่า น้องหมาเขาไม่สามารถเดินไปเลือกซื้ออาหารที่เหมาะกับตัวเขาได้เอง ดังนั้น หน้าที่ในการเลือกอาหารที่เหมาะสมและให้ประโยชน์กับเขามากที่สุด ก็จะต้องขึ้นอยู่กับตัวของผู้เลี้ยงนั่นเองค่ะ ถ้าเพื่อนๆ อยากให้น้องหมาที่รักแข็งแรงและอยู่กับเราไปนานๆ การเลือกอาหารที่เหมาะสมกับเขานั้นจะเป็นวิธีแรกที่จะช่วยส่งเสริมให้สุขภาพของเขาแข็งแรงและห่างจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้ค่ะ


 

บทความโดย : Dogilike.com

ภาพประกอบ :
http://howmanyarethere.net/how-many-times-a-dog-must-be-feed-daily/
http://www.generationmix.org/
http://www.croftvets.co.uk/policies/healthy-pet-plan/2012/09/03/senior-dog-feeding
http://www.opulentpet.com/