เพื่อนๆ ทราบรึเปล่าคะว่า โรคพยาธิหัวใจ สามารถเกิดขึ้นได้กับสุนัขของเพื่อนๆ ทั้งที่เลี้ยงไว้บริเวณนอกบ้านและในบ้าน ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้สุนัข เกิดโรคพยาธิหัวใจนั่นก็คือ ยุง นั่นเองค่ะ

     หลายคนอาจจะยังไม่ทราบนะคะว่า "ยุง" เป็นพาหะของการเกิดโรคพยาธิหัวใจในสุนัข หรือสำหรับคนที่ทราบแล้วก็อาจจะคิดว่า การพาสุนัขไป ฉีดยาหรือกินยาป้องกันพยาธิหัวใจเป็นประจำ นั้นสามารถป้องกันการเกิดโรคพยาธิหัวใจได้ 100 % แล้ว

     แต่ในความเป็นจริง เพื่อนๆ ต้องทำความเข้าใจก่อนนะคะว่า การฉีดยาหรือกินยาป้องกันพยาธิหัวใจนั้นเป็นคนละระดับของการขจัดปัญหาเรื่องพยาธิหัวใจ  เพราะหน้าที่ของยาที่ฉีดนั้น ตัวยาจะเข้าไปฆ่าพยาธิตัวอ่อนซึ่งได้เข้าไปอยู่ในสายโลหิตแล้วให้ตายไม่ให้พยาธิเติบโตต่อไป และจะต้องได้รับยานั้นเป็นประจำตามที่แพทย์สั่ง ซึ่งถือว่าวิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น


     แต่ถ้าอยากจัดการกับต้นเหตุของปัญหาจริงๆ ล่ะก็ เราควรจะหาวิธีจัดการกับ ยุง ซึ่งเป็นพาหะตัวร้ายให้ไม่สามารถทำอันตรายกับสุนัขของเราได้ค่ะ ซึ่งวิธีนั้นก็คือ "การจุดยากันยุงให้สุนัข" นั่นเอง วิธีนี้จะเป็นการจัดการกับ "ยุง" ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาโรคพยาธิหัวใจในสุนัขได้ เพราะ ถ้ายุงไม่มากัดสุนัข โอกาสที่พยาธิจะแพร่เชื้อพยาธิตัวอ่อนเข้ามาในร่างกายสุนัขก็ไม่มี และที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ สุนัขแม้จะฉีดยาหรือกินยาแล้วก็ตาม ถ้าถูกยุงกัด ก็ต้องทนเจ็บทรมาน หรืออาจเกิดผื่นคันตามผิวหนัง ในบางรายที่แพ้ยุงก็อาจจะกลายเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงได้ และสุดท้ายสุนัขก็จะเสียสุขภาพจิต ไม่มีความสุข มีอาการหงุดหงิด เห่าหอนเสียงดังเป็นที่น่ารำคาญของเราและรวมไปถึงเพื่อนบ้านด้วยค่ะ

     เห็นไหมคะว่า ที่เราคิดว่าการที่เราปล่อยให้สุนัขถูกยุงกัดเพียงนิดเดียวก็อาจจะทำให้เกิดโรคร้ายแรงขึ้นกับสุนัขได้ และโรคนี้ก็อันตรายจนสามารถทำให้สุนัขถึงแก่ชีวิตได้เหมือนกัน ...


     ลองคิดดูง่ายๆ นะคะถ้าเปรียบเทียบกับคนเรา เวลาที่เราถูงยุงกัดเรายังรู้สึกเจ็บรู้สึกรำคาญ สุนัขก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกันกับเราเหมือนกัน แถมสุนัขบางตัวยังต้องอยู่นอกบ้านตลอดทั้งคืน ไม่มีมือที่จะตบยุงหรือไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตนเองจากยุงร้ายได้ ถ้าเราเป็นเขาเราจะรู้สึกอย่างไร

     เพราะฉะนั้นแล้วการป้องกัน โรคพยาธิหัวใจในสุนัขที่เกิดจากยุง นอกจากการฉีดยาหรือกินยาป้องกันพยาธิหัวใจเป็นประจำแล้ว การจุดยากันยุงให้กับสุนัข นั้นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ถึงได้ว่าเป็นการป้องกันที่ต้นเหตุได้อย่างดีที่เดียวเลยละค่ะ