กลับมาพบกับปังปอนด์แสนซน ... คนรักน้องหมา กับข่าวสุนัขยามเช้า Daily Dog นะคะ วันนี้ท้องฟ้าสดใสมากๆ เลยค่ะ

     บางครั้งภาระการเลี้ยงน้องหมาหนึ่งถึงสองตัวก็ไม่ได้ลำบากมากมายสักเท่าไร แต่ถ้าเลี้ยงน้องหมากว่า 30 ตัวหละคะ เพื่อนๆ จะยังเลี้ยงไหวไหม­­­ อย่างเช่นข่าววันนี้ที่หญิงชราเมืองผู้ดีออกมายอมรับว่าเธอเลี้ยงหมามากเกินจนรับมือไม่ไหวแล้ว!! จะเป็นยังไงไปดูกันค่ะ
 

     เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงสัตว์โกรฟฮิลล์ได้นำสุนัขกว่า 30 ตัว ย้ายออกจากบ้านของหญิงชราในเมืองไทโรน ประเทศอังกฤษ  หลังจากที่หญิงชรายอมรับว่าเธอไม่สามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลสุนัขทั้งหมดได้

     สุนัขที่อยู่ภายในบ้านของหญิงชราคนดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ชิวาวา 29 ตัว สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ 1 ตัว และพันธุ์อื่นๆ ซึ่งสุนัขทั้งหมดไม่เคยเข้ารับการดูแลรักษาจากสัตวแพทย์เลย

     จากการซักถามหญิงชราเธอเปิดเผยว่า เธอนำสุนัขมาเลี้ยงตั้งแต่ปีที่แล้ว พวกมันกิน นอน เดินอย่างอิสระภายอยู่แต่ในบ้าน  เธอไม่เคยพาพวกมันออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านเลย
 

     "พวกมันไม่เคยถูกฝึก เล็บของพวกมันยาวมากเพราะไม่เคยได้วิ่งออกกำลังกายนอกบ้านเลย แถมขนของมันก็พันกันเป็นสังกะตัง พวกมันวิ่งวนภายในบ้านเพื่อหาอาหารแล้วก็กลับไปนั่งหลบอยู่หลังโซฟา มันดูเหมือสัตว์ดุร้ายที่อยู่ในบ้านของหญิงชรา และไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย " 

    "สุนัขหลายตัวมีฟันที่บิดเบี้ยวน่ากลัว บางตัวใส่เสื้อผ้าขาดหลุดรุ่ยส่งกลิ่นเหม็น บางตัวป่วย และตายในบ้านโดยที่หญิงชราไม่ทราบสาเหตุ นั่นก็เพราะสุนัขมีจำนวนมาก เธอจึงดูแลไม่ทั่วถึง" ลินดา ฮิลล์ ผู้ก่อตั้งศูนย์พักพิงสัตว์โกรฟฮิลล์ที่ช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้กล่าว

  

    
     สุนัข 6 ตัว อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มากๆ ได้ถูกส่งตัวไปรักษาอย่างเร่งด่วนที่ เดอะ ด็อก ทรัส ในเมืองกลาสโกว์ และต้องใช้เงินมากกว่า £4,000 หรือประมาณ 200,000 บาทไทย เพื่อดูแลรักษาให้สุนัขทุกตัวให้กลับมามีสุขภาพดี

"สุนัขบางตัวหวาดกลัวคนแปลกหน้า แต่ตอนนี้มันเริ่มมีอาการดีขึ้นแล้ว" ลินดา กล่าว

         สุนัขทั้งหมดได้รับการดูแลรักษา กำจัดเห็บหมัด ฉีดวัคซีน และจะทำหมันสุนัขทั้งหมดในขั้นตอนต่อไป ส่วนงานหนักของเจ้าหน้าที่คือการหาบ้านใหม่ให้กับพวกมัน
 

     โอ๊ะโอ! เป็นไปได้ยังไงเลี้ยงมาเป็นปีๆ แต่ไม่เคยพาน้องหมาออกไปวิ่งเล่น อยู่แต่ในบ้านที่อุดอู้ ไม่เคยออกมาสัมผัสแสงแดด หรือพบคุณหมอเลย แถมบางตัวตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ น่าสงสารน้องหมาจริงๆ เลยค่ะ  -o-

 

บทความโดย: Dogilike.com

ที่มา:
http://www.bbc.co.uk

ภาพประกอบ:
http://www.bbc.co.uk,
http://www.charity-charities.org