สด ใหม่ ฉับไว ข่าวหมาทุกเช้า ทุกวัน Dailydog กับปังปอนด์แสนซน ... คนรักน้องหมาที่พร้อมเสิร์ฟข่าวสด ข่าวฮอต ติดหนึบกระแสโลกทุกเช้าก่อนใครเลยจ้า ><"

     สัตว์บางชนิดที่เราว่าน่ารัก ดูไม่มีพิษภัยอะไร ในบางทีก็อาจจะแผลงฤิทธิ์ร้ายกาจด้านมืดออกมาให้เราเห็นก็ได้นะคะ อย่างเช่น ข่าวเช้าวันนี้ที่ แรคคูน สัตว์น่ารักที่ใครๆ ก็ว่าน่ารักรุมทำร้ายหญิงชาวอเมริกัน เอาหละ อย่ารอช้าเราไปติดตามกันเลยจ้า!!
 

     มิเชล่า ลี จากรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เพิ่งฟื้นตัวจากการถูกจู่โจมโดยฝูงแรคคูน  5 ตัวที่ ทาโคมา พาร์ค เหตุเพียงแค่เธอพยายามที่จะไล่แรคคูนออกไปให้พ้นทางเดินเท่านั้น

     ลี เปิดเผยว่า เธอไม่คิดว่าสัตว์ที่มีหน้าตาน่ารัก ขนนุ่มนิ่มจะทำร้ายร่างกายของเธอได้ เธอไม่คิดว่ามันจะโจมตีเธอ เธอแค่พยายามที่จะไล่พวกมันออกไปเท่านั้นเอง
 

     ลี เล่าเหตุการณ์ว่า "ฉันไล่แรคคูน 2 ตัวออกไปจากทางที่ฉันเดิน ซึ่งมันก็วิ่งหนีขึ้นต้นไม้ไป ฉันคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่กลับกันแรคคูนกลับมาอีกครั้งในจำนวนที่มากกว่าเดิม พวกมันกระโดดใส่ฉัน เกาะขา และวิ่งไล่ฉันไปไกล 75 ฟุต ฉันล้มลง ต่อจากนั้นพวกมันก็เริ่มทำร้ายฉันด้วยการข่วน และกัดฉัน"

    แรคคูน 5 ตัวทำร้ายลี ทั่วลำตัวของเธอมีแผลถูกเจาะเป็นร่องลึก 16 จุด และรอยขีดข่วนอีกนับ 100 แห่ง

     เพื่อนบ้านของเธอกล่าวว่า "เมื่อฉันได้ยินเสียงกรีดร้องของลี ฉันจึงวิ่งมาดูและพบว่าเธอนอนอยู่บนพื้นกำลังโดนแรคคูนรุมทำร้าย และไม่มีท่าทีว่าฝูงแรคคูนจะหยุดทำร้ายเธอ ฉันจึงแจ้ง 911 เพื่อขอความช่วยเหลือ"
 

     การโจมตีของแหล่าแรคคูนสิ้นสุดลงเมื่อ แมดดี้ สุนัขที่เธอเลี้ยงไว้วิ่งออกมากัดแรคคูนที่กำลังทำร้ายเจ้านายผู้เป็นที่รัก

     ลี กล่าวว่า "แมดดี้เป็นฮีโร่ของฉัน มันช่วยชีวิตฉันไว้ ถ้าแมดดี้ไม่เข้ามาช่วยฉัน พวกแรคคูนก็คงทำร้ายฉันต่อไป และต้องบาดเจ็บมากกว่านี้อย่างแน่นอน "

     ลีเป็นห่วงคนอื่นๆ ที่ต้องใช้เส้นทางเดียวกับเธอซึ่งมีประมาณ 50 กว่าคน

     "ถึงแม้ว่าเส้นทางนี้จะเป็นอันตรายแต่ฉันก็ยังต้องใช้เส้นทางนี้ต่อไป ที่ทำได้คือพกสเปรย์พริกไทยที่แฟนของฉันให้มาติดตัวไว้เผื่อมีอันตรายแบบนี้เกิดขึ้นอีก" ลี กล่าวทิ้งท้าย

 

ชมคลิปข่าว

     อีกไม่นานแผลตามตัวของลีก็น่าจะหาย โชคดีมากๆ ค่ะที่เจ้าแมดดี้เข้ามาช่วยลีได้ทัน ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนทำร้ายอาการสาหัสมากกว่านี้แน่นอนค่ะ มีเพื่อนที่ซื่อสัตย์ก็ดีแบบนี้นี่เอง ^0^"


 

บทความโดย: Dogilike.com

ที่มา:
http://www.lifewithdogs.tv,
http://www.seattlepi.com

ภาพประกอบ:
http://www.lifewithdogs.tv,
http://www.seattlepi.com,
http://now.msn.com