สด ใหม่ ฉับไว ข่าวหมาทุกเช้า ทุกวัน Dailydog กับปังปอนด์แสนซน ... คนรักน้องหมาที่พร้อมเสิร์ฟข่าวสด ข่าวร้อน เกาะกระแสโลกทุกเช้าก่อนใครเลยจ้า ><"

     บางครั้งเสียงเห่าของน้องหมาที่เราว่าน่ารัก ก็อาจจะกลายเป็นเสียงที่น่ารำคาญสำหรับเพื่อนบ้านเหมือนกับข่าวน้องหมาเช้านี้ที่เพื่อนบ้านวางยาสุนัขเพราะว่ารำคาญเสียงเห่าค่ะ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรเราไปติดตามกันเลย ...
 

     ตำรวจเมืองเมืองฟอร์ตเวิร์ท รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังสืบสวนการตายของสุนัขสายพันธุ์บ็อกเซอร์ 2  ตัว ที่เสียชีวิตหลังจากที่พวกมันทั้งสองตัวกินสเต็กเนื้อที่มียาเบื่อเข้าไป โดยทางตำรวจและเจ้าของคาดการณ์ว่าเหตุดังกล่าวน่าจะเกิดจากเพื่อนบ้านที่รำคาญเสียงเห่าของสุนัขทั้งสองตัว

     นาร่า และบรูโน่ สุนัขสายพันธุ์บ็อกเซอร์แสนน่ารักกินเนื้อที่มียาเบื่อตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งพวกมันเริ่มแสดงอาการอาหารเป็นพิษ  และถูกส่งตัวไปรักษาในวันที่ 23 สิงหาคม แต่ในที่สุดหลังจากนั้นสามวัน พวกมันทั้งสองก็ตายลงเพราะอาการของพวกมันหนักเกินกว่าที่จะสามารถยื้อชีวิตให้อยู่ต่อไปได้
 

      ดาเนียล และเรียลนาโด เจ้าของสุนัขเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้สุนัขของเขาที่เคยเลี้ยงไว้ก็ตายในกรณีเดียวกับ นาร่า และบรูโน่ เช่นกัน ซึ่งพวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของเพื่อนบ้านคนเดิม
 

     ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็เร่งติดตาม และสืบสวนหาข้อเท็จจริงที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการตายของสุนัขทั้งสองตัว เช่นเดียวกับกลุ่ม The Legacy Boxer Rescue และกลุ่มพิทักษ์สัตว์อื่นๆ ต่างรวมตัวกันเพื่อต่อต้านการใช้ยาเบื่อกับสุนัข และตั้งเงินรางวัลนำจับ $7,650 หรือประมาณ 229,500 บาท สำหรับผู้ที่รู้เบาะแส และทราบข้อมูลที่จะสามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้

     “เราไม่สามารถอธิบายความรู้สึกกับการกระทำที่โหดร้ายในครั้งนี้ได้ เพราะมันมีแต่ความโกรธและความเศร้า เราจะนำความจริงและความยุติธรรมมาให้สุนัขทั้งสองตัว” ข้อความบางส่วนจากเฟสบุ้ค
 

     น่าสงสารน้องหมาทั้ง 2 ตัวนะคะ คนให้อะไรกิน มันก็กินโดยที่ไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นจะเป็น "อาหารมื้อสุดท้าย" ยังไงก็ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ไวๆ นะคะ เพราะว่าทั้งเจ้าบรูโน และนาร่า ไม่ใช่น้องหมา 2 ตัวแรกที่โดนวางยา ถ้าตามจับตัวได้ช้า เหตุการณ์ร้ายๆ แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นกับน้องหมาตัวอื่นๆ อีกก็เป็นได้


 

บทความโดย: Dogilike.com
 
ที่มา:
http://www.dailymail.co.uk

ภาพประกอบ:
http://www.dailymail.co.uk