สด ใหม่ ฉับไว ข่าวหมาทุกเช้า ทุกวัน Dailydog กับปังปอนด์แสนซน ... คนรักน้องหมาที่พร้อมเสิร์ฟข่าวสด ข่าวร้อน เกาะกระแสโลกทุกเช้าก่อนใครเลยจ้า ><"

     การให้โอกาส และให้ชีวิตใหม่ ถือเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ เหมือนกับข่าวของน้องหมาเช้านี้ที่ทีมสัตวแพทย์เร่งช่วยทำกายภาพบำบัดลูกสุนัขขาพิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เดินได้สะดวกมากขึ้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เราไปติดตามกันค่ะ ...
 

 
     Juliette ลูกสุนัขพันธุ์ผสมสแตฟฟอร์ดเชียร์เทอร์เรียร์ อายุ 12 สัปดาห์ ตัวนี้ เป็นลูกสุนัขพิการขาหน้าผิดรูป ที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่ข้างถนนเพียงลำพังในประเทศอังกฤษ ในสภาพร่างกายสกปรกมอมแมม แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีพบมัน และนำตัวมันมาส่งให้กับ Dogs Trust องค์กรช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่แสวงผลกำไร
 

 
     ขาหน้าของเจ้า Juliette ถือเป็นความผิดปกติที่มีมาแต่กำเนิด ซึ่งสาเหตุเกิดจากเอ็นที่ป้องกันการยืดข้อต่อเกิดการหดตัว จึงส่งผลให้ขาของมันผิดรูป และเดินอย่างลำบาก แต่หลังจากที่ Juliette ได้มาอยู่ที่ Dogs Trust ร่างกายของมันก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเพราะทางทีมสัตวแพทย์ได้ทำกายภาพบำบัดโดยการจับขาหน้าของมันยืดเหยียดตรง 30 ครั้ง สองเวลาต่อวัน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้มันสามารถเดินได้อย่างคล่องตัวขึ้น ซึ่งการทำกายภาพบำบัดนี้จะช่วยทำให้มันมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่ามันจะไม่หายขาดก็ตาม
 

 
      “มันมีอายุเพียง 9 สัปดาห์เท่านั้นตอนมันถูกแยกจากแม่ของมัน ซึ่งมันเป็นเวลาที่เร็วเกินไปที่จะใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังข้างถนน และเร็วเกินไปที่มันต้องดูแลตัวเอง”

     “เราไม่รู้ว่าอดีตมันเคยอยู่ที่ไหน และถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร แต่เรารู้เพียงว่ามันถูกแยกจากแม่ของมันเร็วเกินไป  และเราเชื่อว่ามันคงไม่ได้รับการดูแล และโภชนาการที่เหมาะสมจึงทำให้ขาหน้าของมันไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่แบบนี้”

     ในตอนนี้ Juliette กำลังต้องการบ้านใหม่ที่มีความรัก ความเมตตาและพร้อมรับเลี้ยงมัน และถึงแม้ว่ามันจะมันไม่ได้เป็นสุนัขที่มีรูปร่างสวย แต่มันมีความน่ารัก และเป็นสุนัขที่ดีตัวหนึ่งเลยทีเดียว
 

ชมคลิป

     หลังจากที่เจ้า Juliette ได้รับการบำบัดขาหน้าของมันแล้ว ก็ทำให้มันเดินได้สะดวกขึ้น ซึ่งปังปอนด์ก็หวังว่าชีวิตของเจ้า Juliette ต่อจากนี้จะมีสิ่งดีๆ เข้ามาเหมือนกับขาของมันที่กำลังจะดีขึ้นเรื่อยๆ นะคะ  ... สู้ๆ เจ้าตัวเล็ก ^^”
 

บทความโดย: Dogilike.com
ที่มา:
http://www.dailymail.co.uk

ภาพประกอบ:
http://www.dailymail.co.uk