สด ใหม่ ฉับไว ข่าวหมาทุกเช้า ทุกวัน Dailydog กับปังปอนด์แสนซน ... คนรักน้องหมาที่พร้อมเสิร์ฟข่าวสด ข่าวร้อน เกาะกระแสโลกทุกเช้าก่อนใครเลยจ้า><"

     สำหรับข่าวหม้าเช้านี้ ปังปอนด์ต้องขอบอกเพื่อน ๆ เลยค่ะ ว่าถ้าเพื่อน ๆ เห็นแล้วต้องบอกว่า น่ารักอ้ะ><" เพราะว่าเป็นเรื่องราวของเพื่อนซี้ต่างเผ่าพันธุ์ที่มีมิตรภาพ ความรัก ให้กันตลอดเวลาเลยค่ะ โอ๊ะโอ! จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยยย...
 

 
     เกิดเป็นภาพที่น่ารักและน่าเอ็นดูมาก ๆ สำหรับมิตรภาพต่างสายพันธุ์ของสัตว์คู่ซี้ระหว่าง เจ้า Roo สุนัขสายพันธุ์ชิวาวาขาหน้าทั้งสองข้าง กับ เจ้า Penny ไก่สายพันธุ์ซิลกี้ สีขาว ที่โชคชะตานำพามันทั้งสองตัวมาเป็นเพื่อนกัน โดยมันทั้งคู่ต่างก็ได้รับความช่วยเหลือจาก Alicia Williams หญิงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสัตว์ที่ได้ช่วยชีวิตพวกมันเอาไว้ โดยเจ้า Roo เป็นสุนัขที่พบถูกทิ้งอยู่ในคูน้ำของสวนสาธารณะ ส่วนเจ้า Penny ก็เป็นไก่ที่ถูกช่วยออกมาจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ ...
 

     Alicia Williams หญิงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสัตว์ Duluth Animal Hospital เล่าว่า เธอได้ช่วยชีวิตเจ้า Penny ออกมาจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ในช่วงที่เธอเป็นนักศึกษาสาขาสัตวศาสตร์ และช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เธอก็ได้ช่วยเจ้า Roo ที่มีอายุประมาณ 7 สัปดาห์ มาจากคูน้ำในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอคิดว่า มันน่าจะเป็นสุนัขที่โรงงานผลิตลูกสุนัขนำมาทิ้งเอาไว้เพราะมันเกิดมามีความผิดปกติทางร่างกาย

     “ในทุกวันพวกมันจะออกไปเดินเล่น เดินเคียงข้างกันเสมอ และพวกมันก็มักจะนอนหลับไปด้วยกันจนเราไม่สามารถแยกพวกมันทั้งคู่ออกจากกันได้” Alicia Williams หญิงผู้เป็นเจ้าของ กล่าว

 

     “เจ้า Roo และเจ้า Penny เป็นที่รู้จักและเป็นขวัญใจของลูกค้าที่พาสัตว์เลี้ยงมารักษาในโรงพยาบาลสัตว์ และในตอนนี้พวกมันก็ยิ่งกลายเป็นที่รักของประชาชนชาวอเมริกันและคนรักสัตว์ไปทั่วโลกมากขึ้นไปอีกหลักจากที่ภาพถ่ายของมันถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วเพราะมันทั้งคู่แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่ดีต่อกันอย่างที่ไม่มีอะไรมาขวางกันพวกมันได้” Alicia Williams หญิงผู้เป็นเจ้าของ กล่าว

     ไม่น่าเชื่อว่าสัตว์ทั้งสองสายพันธุ์ที่แตกต่างกันจะมาเป็นเพื่อนกันได้นะคะ แบบนี้แหละที่เรียกว่า มิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา น่ารักมากๆ เลย เพื่อนๆ ว่ามั้ยคะ ^^”

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/

ที่มา:
http://www.dailymail.co.uk/
ภาพประกอบ:
http://www.dailymail.co.uk/