โดย: Candyx
รักสุดใจ! สุนัขซื่อสัตย์นั่งรอเจ้าของผู้ล่วงลับที่โรงพยาบาลนานกว่า 2 ปี
เฝ้ารอเจ้าของทุกวันโดยที่ไม่รู้ว่า เจ้าของได้เสียชีวิตไปนานแล้ว
28 พฤศจิกายน 2557 · · อ่าน (8,239)
สด ใหม่ ฉับไว ข่าวหมาทุกเช้า ทุกวัน Dailydog กับปังปอนด์แสนซน ... คนรักน้องหมาที่พร้อมเสิร์ฟข่าวสด ข่าวร้อน เกาะกระแสโลกทุกเช้าก่อนใครเลยจ้า><"
เป็นข่าวที่ทำให้คนรักสุนัขทั่วโลกได้เห็นถึงความซื่อสัตย์ของเพื่อนแท้ของมนุษย์อย่างสุนัขได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เมื่อน้องหมาตัวหนึ่งที่ได้นั่งรอคอยเจ้าของที่โรงพยาบาล โดยที่มันไม่รู้เลยว่า เจ้าของได้ตายจากไปนานกว่า 2 ปีแล้ว จะเป็นอย่างไร เราไปติดตามกันค่ะ ...
เจ้า Masha สุนัขแสนซื่อสัตย์ตัวนี้เป็นสุนัขที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล Siberian hospital ในประเทศรัสเซียรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะทุกเช้ามันจะมานั่งรอชายสูงวัยผู้เป็นเจ้าของที่เข้ารับรักษาอาการป่วยที่หน้าแผนกต้อนรับของโรงพยาบาลเสมอ โดยที่มันไม่เคยรู้เลยว่า เจ้าของของมันได้เสียชีวิตไปนานกว่า 2 ปี แล้ว ...
พยาบาลสาวคนหนึ่งเล่าว่า เธอไม่รู้ว่า เจ้า Masha เป็นสุนัขสายพันธุ์อะไรกันแน่ แต่ที่เธอรู้คือ มันเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์และรักเจ้าของมากเพราะในทุกเช้ามันจะมานั่งเฝ้ารอเจ้าของของมันที่หน้าแผนกต้อนรับของโรงพยาบาล ก่อนที่จะกลับบ้านในช่วงตอนเย็นและก็กลับมานั่งรอเจ้าของของมันอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
“ตลอดเวลาที่เจ้าของของมันป่วย เจ้า Masha เป็นเพียงสุนัขตัวเดียวที่มาเยี่ยมและคอยเฝ้าเจ้าของที่หน้าแผนกต้อนรับทุกวัน” พยาบาลคนหนึ่งกล่าว
ก่อนหน้านี้ เจ้า Masha ได้รับการอุปการะโดยครอบครัวใจดีครอบครัวหนึ่ง โดยได้รับความช่วยเหลือจากพยาบาลและคนรักสัตว์คนอื่น ๆ ที่ได้ช่วยกันหาบ้านใหม่ให้ แต่มันก็ได้หนีออกจากบ้านอุปถัมภ์และวิ่งกลับมานั่งรอคอยชายเจ้าของของมันที่โรงพยาบาลเช่นเดิม
“ดวงตาของ เจ้า Masha ดูเศร้ามาก สำหรับมันคงไม่มียาชนิดใดที่รักษามันได้ แต่เราก็ยังมีความหวังว่า มันจะได้เจอเจ้าของคนใหม่ ซึ่งเราหวังว่า มันจะได้พบในเร็ว ๆ นี้” Dr Vladimir Bespalov แพทย์โรงพยาบาล Siberian hospital กล่าว
ชมคลิป
เจ้า Masha เป็นน้องหมาที่ซื่อสัตย์มาก ๆ และมันก็น่าสงสารมาก ๆ ที่ไม่รู้ว่า เจ้าของของมันได้จากมันไปแล้ว ยังไงหลังจากนี้ก็หวังว่า มันจะมีบ้านและเจ้าของใหม่ที่คอยดูแลและให้ความรักมันอย่างเต็มที่นะคะ ...
บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/
ที่มา:
http://www.telegraph.co.uk/
ภาพประกอบ:
http://www.telegraph.co.uk/
SHARES