โดย: Candyx
ขำทั้งโรงพยาบาล!! เด็กชายมีเสียงปี๊บ ๆ ในลำคอ หลังเล่นตัวบีบเสียงที่อยู่ในของเล่นสุนัข (มีคลิป)
อุทาหรณ์สำหรับคนที่เลี้ยงเด็กและสุนัขในบ้านเดียวกัน ...
19 สิงหาคม 2559 · · อ่าน (5,747)
สด ใหม่ ฉับไว ข่าวหมาทุกเช้า ทุกวัน Dailydog กับปังปอนด์แสนซน ... คนรักน้องหมาที่พร้อมเสิร์ฟข่าวสด ข่าวร้อน เกาะกระแสโลกทุกเช้าก่อนใครเลยจ้า><"
ข่าวน้องหมาเช้านี้เป็นเรื่องราวที่บอกเลยว่า ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน เพราะเด็กชายคนหนึ่งได้เล่นซนจนตัวบีบเสียงที่อยู่ในของเล่นสุนัขหลุดเข้าลงคอไป เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เราไปดูกันค่ะ ...
ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือจะขำดี สำหรับเหตุการณ์น่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นกับ Anthony เด็กชายชาวอเมริกันที่ถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน หลังจากที่เด็กชายได้เล่นและพยายามเป่าตัวบีบเสียง ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่อยู่ในของเล่นสุนัขจนหลุดลงไปในคอ ทำให้เวลาที่เด็กชายหายใจ หรือพูดก็จะมีเสียงที่ดัง ปี๊บ ๆ ดังออกมาด้วยทุกครั้ง ซึ่งทำให้ทั้งแพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาลต่างทั้งสงสารและหลุดขำออกมาในคราวเดียวกัน ...
Dr. Alfred Sacchetti แพทย์ผู้รักษาบอกว่า ตลอดเวลาที่เขารักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลมาเป็นเวลา 37 ปี เขาไม่เคยเจอเหตุการณ์ตัวบีบเสียงในของเล่นสุนัขหลุดลงคอของใครมาก่อน และเคสของ Anthony เด็กชายแสนซนคนนี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่เขาได้เจอเป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก
และก่อนเข้ารับการรักษา แม่ของเด็กชาย Anthony ก็ได้ถ่ายวิดีโอคลิปความยาว 20 วินาทีเอาไว้ โดยได้ถามลูกชายผู้เป็นที่รักว่า ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน เด็กชายก็ตอบว่า ห้องฉุกของโรงพยาบาล และแม่ถามต่อว่า ทำไมลูกถึงเข้ามาอยู่ในห้องฉุกเฉิน เด็กชายตอบว่า ก็เพราะเขาเล่นตัวบีบเสียงและหลุดลงไปในคอ ก่อนผู้เป็นแม่จะถามเป็นคำถามสุดท้ายว่า ตัวบีบเสียงหลุดลงไปในคอลูกจริงเหรอ และคำตอบสุดท้ายของเด็กชายก็คือ การทำหน้าทะเล้นและหายใจแรงเพื่อโชว์ว่า ตัวบีบเสียงอยู่ในคอของเด็กชายจริง ๆ
สำหรับคลิปวิดีโอนี้ก็ได้ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ และถูกแชร์ต่อ ๆ กันเป็นจำนวนมาก โดยชาวออนไลน์หลายคนต่างก็สงสาร บ้างก็ขำ แต่ที่เห็นได้ชัดคือ เด็กชาย Anthony ดูจะไม่เจ็บปวด แถมยังชอบที่มีเสียงปี๊บ ๆ ออกมาจากลำคอของเขาอีกด้วย
ชมคลิป
เป็นเหตุการณ์ที่เป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ใหญ่และผู้ปกครองของเด็ก ๆหลาย ๆ คนได้เลยค่ะ ยังโชคดีนะคะที่เด็กชายไม่เป็นอะไรมาก ถ้าตัวบีบเสียงหลุดลงคอแล้วไปติดที่หลอดลมก็อาจจะไม่โชคดีแบบนี้ ยังไงเพื่อน ๆ ที่มีลูกหลานก็อย่าลืมดูแลเด็ก ๆ กันอย่างใกล้ชิดด้วยนะคะ ^_^
ที่มาและภาพประกอบจาก :
http://www.huffingtonpost.co.uk
http://www.lifewithdogs.tv
แปลและเรียบเรียงโดย : http://www.dogilike.com/
SHARES