โซเชียลเดือด สุนัขพิตบูลโดนเจ้าของทำโทษทุ่มถุงดินใส่ ใช้รองเท้าตีปาก และจับกดน้ำ เหตุเกิดจากเจ้าของโมโหเพราะสุนัขซน

     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 มีคลิปของ "เจ้านมเย็น" สุนัขสายพันธุ์พิตบูลเทอร์เรียเพศผู้วัย 8 เดือน ถูกเจ้าของและเพื่อนทำร้ายปรากฏออกมาในโลกออนไลน์ โดยสาเหตุของการทำร้ายมาจากเจ้าของโกรธที่นมเย็นกัดถุงดินสำหรับปลูกต้นไม้ในสวนหน้าบ้านและกัดรองเท้า

     ในคลิปปรากฏภาพเจ้าของเอาถุงดินทุ่มใส่นมเย็น แล้วใช้รองเท้าตบตีบริเวณปากและจมูกหลายครั้ง ซึ่งนมเย็นก็ส่งเสียงร้องและวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน นอกจากนี้เพื่อนของเจ้าของยังจับนมเย็นกดหัวลงในกะละมังใส่น้ำแล้วพากันหัวเราะด้วย

     เมื่อคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไปทำให้กลายเป็นไวรัล ชาวโซเชียลที่ได้ดูคลิปต่างแสดงความเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าของนมเย็นว่ามีความโหดร้าย และช่วยกันร้องเรียนไปยังองค์กรคุ้มครองสัตว์ต่าง ๆ รวมไปถึงเข้าไปตำหนิที่เฟซบุ๊กของเจ้าของสุนัขและเพื่อนที่แชร์คลิปดังกล่าวเป็นจำนวนมากจนต้องปิดเฟซบุ๊ก

     ต่อจากนั้นไม่นานองค์กรเกี่ยวกับสัตว์หลายองค์กร เช่น  มูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์, The Voice (เสียงจากเรา) ของเก๋ ชลลดา, องค์กรทำดี ของบุ๋ม ปนัดดา และกู้ภัยชลบุรี ได้เข้ามาดูแลเรื่องนี้ และเดินทางไปพบกับเจ้าของนมเย็นที่ชลบุรี ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าพบเจ้าของสุนัข เจ้าของก็ยอมรับว่าภาพที่ออกมาอาจดูโหดร้ายเพราะเธอกำลังบันดาลโทสะ แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยตีนมเย็นมาก่อน และการที่ใช้ถุงดินโยนใส่นั้นทราบดีว่าโยนใส่จุดไหนแล้วสุนัขจะไม่เจ็บ ส่วนรองเท้าที่ใช้ตีปากก็เป็นรองเท้ายางนิ่ม รู้ดีว่าต้องลงน้ำหนักแค่ไหน ตีจุดไหนที่ไม่อันตราย และการที่เพื่อนจับนมเย็นกดน้ำนั้น กดเพื่อสอนให้รู้ว่าทำผิด ไม่ได้กดเอาเป็นเอาตาย ไม่ได้ทรมาน ยืนยันว่าทุกคนรักนมเย็น

     ทั้งนี้ เจ้าของยังได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการไลฟ์ตีสุนัขว่าที่มีคลิปหลุดไปในโลกออนไลน์นั้น ไม่ใช่การตีโชว์ในไลฟ์ แต่เพื่อนอีกคนเป็นคนถ่ายแล้วเอาไปโพสต์โดยไม่เจตนา ซึ่งตนได้ว่ากล่าวตักเตือนเพื่อนไปแล้ว และจะไปแจ้งความดำเนินคดี พ.ร.บ.คอมฯ ด้วย เพราะตนไม่ได้ยินยอมให้นำเข้าข้อมูลเหล่านี้ในอินเตอร์เน็ต

     ล่าสุดตอนนี้นางหน่วยงานที่เข้าช่วยเหลือและเจ้าของได้พาเจ้านมเย็นไปตรวจสุขภาพเบื้องต้นแล้วพบว่าไม่บาดเจ็บใด ๆ และจากการตรวจสุขภาพจิตเบื้องต้นพบว่านมเย็นไม่มีอาการหวาดกลัวเจ้าของแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทางมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าดำเนินคดีทารุณกรรมสัตว์ต่อไป
 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/

ข้อมูลและภาพประกอบ :
www.facebook.com/WDT.foundation/