HIGHLIGHTS :
 

• สุนัขจรจัดสีขาวดำจากเมืองทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย ได้รับการระลึกถึงโดยการสร้างรูปปั้นหลังจากที่มันถูกผู้ใจบุญพาไปเลี้ยงนอกเมือง
   
• Heiki Valner อาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ผู้อยู่เบื้องหลังความคิดการสร้างรูปปั้น Zorik บอกว่า ทุก ๆ คนทำเพื่อ Zorik พวกเขายังคงติดตามเกี่ยวกับข่าวสารต่าง ๆ ของมันอยู่ตลอด

     สุนัขจรจัดสีขาวดำจากเมืองทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย ได้รับการระลึกถึงโดยการสร้างรูปปั้นหลังจากที่มันถูกผู้ใจบุญพาไปเลี้ยงนอกเมือง

     สุนัขตัวนี้มีชื่อว่า Zorik มันอาศัยอยู่ในเมืองทาลลินน์มานานแล้ว เมื่อมันอายุได้ประมาณ 12 ปี Zorik ก็ถูกครอบครัวหนึ่งพาไปเลี้ยงในชนบท ซึ่งห่างไกลจากที่ ๆ มันเคยอยู่มาก ผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกที่ผ่านไปผ่านมาคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดีจึงรู้สึกผูกพันกับเจ้า Zorik ด้วยความคิดถึงพวกเขาจึงสร้างรูปปั้นให้กับถึงเจ้า Zorik เพื่อทำให้รู้สึกมันไม่ได้ไปจากที่ตรงนี้ ซึ่งรูปปั้นสุนัขจรจัดตัวนี้ได้รับทุนจากเงินบริจาคโดยศิลปินท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น

     Heiki Valner อาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ผู้อยู่เบื้องหลังความคิดการสร้างรูปปั้น Zorik บอกว่า ทุกๆ คนทำเพื่อ Zorik พวกเขายังคงติดตามเกี่ยวกับข่าวสารต่างๆ ของมันอยู่ตลอด

     รูปปั้นนี้ตั้งอยู่หน้าศูนย์การค้าของเมืองทาลลินน์ นอกจากรูปปั้นของ Zorik แล้วระหว่างขาของมันยังมีแมวหนึ่งตัวนั่งอยู่กับมันด้วยเพราะพวกมันสองตัวเคยอยู่ด้วยกันก่อนที่ Zorik จะจากเมืองนี้ไป

     Valner เรียกสุนัขจรจัดตัวนี้ว่า  "จุดรวมของสังคม" เธอสามารถสัมผัสได้ว่าทุกคน ไม่ว่าเด็ก หรือผู้ใหญ่ ชาวเอสโตเนีย หรือรัสเซีย ต่างเคยให้อาหารมันด้วยกันทั้งนั้น ในสังคมที่แตกแยกระหว่างชาวเอสโตเนียและชาวรัสเซียนั้น เจ้า Zorik สามารถรวมให้ทั้งสองกลายเป็นหนึ่งเดียวกันได้

     ด้วยความที่มันแก่มากจนคนแถวนั้นกลัวว่า มันอาจจะเผลอหลับบนรางรถไฟ หรือบนถนน เธอจึงหาบ้านใหม่ให้มันซึ่งเป็นพื้นที่ในชนบทที่ดูจะปลอดภัยกับมันมากกว่าในเมือง แต่ดูเหมือนว่า เจ้าสุนัขจรจัดตัวนนี้จะไม่ชอบใช้ชีวิตแบบนี้ของมันสักเท่าไหร่ เห็นได้จากที่มันพยายามหนีกลับมาที่ย่านเก่าอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จด้วยความที่มันอ่อนแอเกินไป

     Viktoria Ger เจ้าของคนใหม่บอกว่า มันเป็นสุนัขที่ประหลาด ไม่ชอบอยู่ใกล้คน หรือยอมให้จับ อาจจะเป็นเพราะมันเคยถูกคนทำร้ายมาก่อนตอนอยู่ในเมือง เลยอาจจะไม่ค่อยเชื่อใจเธอเท่าไหร่นัก Valner จึงแนะนำให้เธอใช้ความเมตตาในการสู้ และสักวันเจ้าสุนัขจรจัดตัวนี้ก็จะเปิดใจและเชื่อใจเธอในที่สุด