โดย: เว็บมาสเตอร์มะเหมี่ยว
ปักหมุดคนรักน้องหมาห้ามพลาด "SNOOPY MUSEUM TOKYO"
ทาสหมาคนไหนจะไปญี่ปุ่นบอกเลยไม่ไปไม่ได้แล้ว
16 มิถุนายน 2560 · · อ่าน (3,627)
ถ้าพูดถึงตัวการ์ตูนน้องหมาสุดคลาสสิคร่วมสมัยในดวงใจ เชื่อว่าต้องมีชื่อของ "สนูปี้ (Snoopy)" อยู่ในนั้นแน่นอนค่ะ สำหรับหลาย ๆ คน สนูปี้ เป็นความทรงจำที่ดีในวัยเด็ก ทำให้เรานึกถึงการ์ตูนที่อ่าน ตุ๊กตาที่เล่น กล่องดินสอลายสนูปี้ ผ้าเช็ดหน้าลายสนูปี้ ... จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังได้เห็นเรื่องราวของสนูปี้อยู่รอบ ๆ ตัวเรา สนูปี้ปรากฎตัวครั้งแรกในปี 1950 ถ้านับมาจนถึงตอนนี้เขาก็มีอายุถึง 67 ปีแล้ว!!!
ประวัติคร่าว ๆ ของเจ้าสนูปี้ก็คือ เขาเป็นตัวละครในการ์ตูนสั้นที่มีมายาวนานมากเรื่อง พีนัท (Peanuts) ที่วาดโดย ชารล์ เอ็ม ชูลซ์ (Charles M. Schulz) สนูปี้เป็นสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล สัตว์เลี้ยงของตัวละครที่ชื่อว่า ชาร์ลี บราวน์ ตัวละครสนูปี้เริ่มบทบาทในการ์ตูนสั้นโดยเป็นเพียงน้องหมาธรรมดาทั่วไป แต่ก็ถือว่าเป็นตัวละครที่มีชีวิตชีวาที่สุด และถือเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่เป็นที่จดจำมากที่สุดในการ์ตูนเรื่องนี้ แบบวาดดั้งเดิมของสนูปี้ได้ลอกเลียนแบบเล็กน้อยจาก สไปก์ สุนัขในวัยเด็กของชูลซ์นั่นเอง สำหรับคาแรคเตอร์ของสนูปี้เขาเป็นน้องหมาช่างฝัน ชอบนอนอาบแดดบนหลังคาบ้านตัวเอง ชอบจินตนาการว่าตัวเองเป็นนักบินรบในสงครามโลกอีกด้วย
และด้วยความที่เป็นการ์ตูนน้องหมาคลาสสิคในใจของใครหลาย ๆ คนนี่เอง ทำให้ตอนนี้ได้มีการรวบรวมเอาเรื่องราวของ สนูปี้ และแก็งเด็กพีนัท มาเป็นพิพิธภัณฑ์แล้วล่ะค่ะ ... นี่เลย "Snoopy Museum Tokyo" พิธภัณฑ์สนูปี้ที่แรกในโลก!!!
>> ปักหมุดคนรักน้องหมาห้ามพลาด SNOOPY MUSEUM TOKYO
Snoopy Museum ตั้งอยู่ที่ย่านรปปงงิ โตเกียว เป็นพิพิธภัณฑ์สนูปี้แห่งแรกของโลกที่นำเอาของสะสมต่าง ๆ จากส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ Charles M. Schulz ผู้วาดการ์ตูนเรื่องนี้ จากที่เมืองซานตาโรซา รัฐแคลิฟอเนีย สหรัฐอเมริกา มาจัดแสดงเป็นนิทรรศการต่าง ๆ ซึ่งผู้ที่เข้ามาชมจะมีโอกาสชมการ์ตูนฉบับที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน หลาย ๆ ผลงานที่นำมาแสดงนั้น ก็เป็นต้นฉบับของการ์ตูนพีนัทยุคแรกเริ่ม ฝีมือคุณชารล์วาดเองกับมือ ซึ่งหาดูได้ยากมาก ๆ แล้วค่ะ นอกจากนั้นยังมีผลงานฝีมือคุณชารล์ที่ไม่เคยได้ตีพิมพ์อีกด้วย โดยตัวนิทรรศการจะเปลี่ยนหัวข้อจัดแสดงทุก ๆ 6 เดือน และยังเป็นสถานที่ที่ขายสินค้าจากการ์ตูนพีนัทที่ทำขึ้นมาขายเฉพาะที่นี่เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีส่วนของ Cafe Blanket เอาไว้ให้นั่งเล่นชิล ๆ อีกด้วยล่ะค่ะ
โดยในตอนนี้นิทรรศการที่กำลังจัดแสดงอยู่ก็คือ "PEANUTS GANG ALL STARS!" จัดกันยาว ๆ ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2017 - 24 กันยายน 2017 จะมีการจัดแสดงผลงานเกือบ 200 ชิ้น ได้แก่ โรงละครแบบ interactive (สามารถตอบโต้กับคนดูได้ด้วยนะ!!!) และหนังสือการ์ตูนพีนัทฉบับที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแต่ละตัวกับสนูปี้มากขึ้น พร้อมกับยังมีสินค้าสนูปี้สุดน่ารักใหม่ ๆ อีกมากมายที่ "BROWN'S STORE" และที่ "Cafe Blanket" ยังมีเมนูอาหารและเครื่องดื่มใหม่ ๆ ที่เข้ากับธีมของนิทรรศการมาให้บริการทุกคนอีกด้วย
คนรักน้องหมาที่กำลังมีแผนจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแนะนำเลยว่า ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ปักหมุดรัว ๆ เลยจ้า ต้องไป!!!
>> ไปดูบรรยากาศในพิพิธภัณฑ์กันดีกว่า ตามไปดูสนูปี้กัน
บรรยากาศโดยรวมของพิพิธภัณฑ์สนูปี้นั้นก็ถูกสร้างให้สวยงามและเงียบสงบ คล้ายกับ Schulz Museum ที่เป็นตัวต้นแบบเลยค่ะ ... ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์จะมีหุ่นเจ้าสนูปี้ที่เป็นแบบตั้งแต่ยุคแรกเดินสี่ขา มาจนปัจจุบัน และมีการ์ตูนพีนัท (การ์ตูนช่อง) แปะอยู่หน้าตึกเป็นแถวยาวเลยล่ะค่ะ
เจ้าหน้าที่คอยแนะนำพิพิธภัณฑ์และส่วนของนิทรรศการ
ใครกลัวดูนิทรรศกาลแล้วไม่รู้เรื่องไม่ต้องห่วงนะคะ เพราะถึงจะเป็นพิพิธภัณฑ์ในญี่ปุ่น แต่มีภาษาอังกฤษกำกับทุกจุด
รวมถึงคำอธิบายผลงานต่าง ๆ ก็มีภาษาอังกฤษด้วยนะคะ
บรรยากาศน่ารัก ๆ จากช่วงเดือนกุมภาพันธ์วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาค่ะ มิ้งมาก ๆ เลย
โรงละครแบบ interactive พลาดไม่ได้เลย!
เปียโนตัวน้อยของแก็งพีนัท
สำหรับใครที่เป็นขาช้อป FC ของเจ้าสนูปี้ห้ามพลาดนี่เลยค่ะ "Brown’s Store" หรือร้านขายของที่ระลึกของทางพิพิธภัณฑ์สนูปี้นั่นเอง ของที่ขายอยู่ในร้านจะเป็นสินค้าพิเศษ มีขายที่นี่เท่านั้นค่ะ เรียกว่าแฟน ๆ พลาดไม่ได้เลย มีแต่ของน่ารัก ๆ ทั้งนั้น ตั้งแต่ตุ๊กตาหลากไซส์ เสื้อยืดน่ารัก ๆ นาฬิกา แก้วน้ำ กระเป๋า คุ้กกี้ หรือจะเป็น artwork จากการ์ตูนสนูปี้ตอนต่าง ๆ ก็มีขายให้ไปสะสมกันค่ะ ตะมุตะมิมากเห็นแล้วเงินเยนในกระเป๋าสั่น ริกๆๆๆๆ เลยล่ะค่ะ!!!
ภาพนี้เป็นบรรยากาศร้าน Brown’s Store ในช่วงวันฮาโลวีนของปี 2016 ค่ะ ฟักทองเต็มไปหมดเลย
โอ๊ยยยย น่ารักมาก คือไม่รู้ซื้อแล้วเอาไปทำอะไรต่อ แต่อยากได้!!!
ดูความคาวาอิของการโชว์ของที่ระลึก แค่จะขายผ้าเช็ดหน้า จำเป็นต้องน่ารักขนาดนี้ไหมเนี่ย ><
ตัวเกาะแก้วแก็งพีนัท อยากได้หมดทุกตัวเลย อันนี้ซื้อเป็นของที่ระลึกฝากเพื่อน ๆ ได้เลยน่ารักมาก
ของที่ระลึกตอนครบรอบ 1 ปีเปิดพิพิภัณฑ์ บอกได้ว่าตั๋วหนึ่งใบ ซื้อได้หนึ่งชิ้นเท่านั้น
ช้อปกันจนเพลินแล้วมาถึงโซนสุดท้าย ใครที่ชอบคาเฟ่เก๋ ๆ ห้ามพลาดเลยค่ะ คาเฟ่ของที่นี่ชื่อว่า "Cafe Blanket" คาเฟ่น่ารัก ๆ ที่ดีไซน์มาแบบโปร่ง โล่ง สบาย นั่งชิล ๆ ได้ นอกจากนั้นยังมีโต๊ะสีฟ้ายาวอยู่ตรงกลาง ... ส่วนค่าอาหารและเครื่องดื่มของที่นี่จะราคาค่อนข้างสูงหน่อยนะคะ อยู่ที่ 1000 เยนขึ้นไปต่อจานค่ะ สำหรับร้าน Cafe Blanket นี้อยู่ในการดูแลของ Peanuts Cafe ที่เพิ่งเปิดตัวที่ Naka Meguro ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว เป็นคาเฟ่สนูปี้โดยตรงเลยค่ะ เรียกง่าย ๆ ว่าถ้าใครสนใจเฉพาะคาเฟ่ แนะนำว่าให้ไปที่ Peanuts Cafe เลยดีกว่าค่ะ เพราะว่ามีเมนูหลากหลายกว่า สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.peanutscafe.jp/
บรรยากาศในร้าน Cafe Blanket จะเปลี่ยนไปตามเทศกาลต่าง ๆ เพิ่มสีสันให้แขกที่มาเที่ยว
บรรยากาศช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา หวานไปอีก
โต๊ะสีฟ้าตรงกลางร้าน ถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างของ Cafe Blanket
แพนเค้กที่ถ้าสั่งมาแล้วอาจจะกินไม่ลง เพราะว่าน่ารักเกิ๊น!!!
มาชเมลโล่ ช็อกโกแลต เมนูพิเศษในช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา น่ารัก น่ากิน ใครพาแฟนมาออกเดทคือต้องสั่งเมนูนี้เลย
>> แพงไหมถ้าอยากไปชมพิพิธภัณฑ์สนูปี้
ใครที่สนใจอยากไปเที่ยวที่นี่ ป้องกันพลาดไปถึงแล้วตั๋วเต็มก็สามารถซื้อได้ที่ร้านลอว์สันในประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ หรือจะซื้อผ่านเว็บไซต์ของลอว์สันก็ได้ แต่ว่าระบบตั๋วออนไลน์จะมีให้บริการเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นนะคะ ดูได้ที่เว็บนี้เลยค่ะ http://www.snoopymuseum.tokyo/en/tickets/ โดยในการซื้อบัตรเข้าชมนั้น จะต้องระบุเวลาเป็นรอบ ๆ ไป ซึ่งมีทั้งหมด 5 รอบต่อวัน ดังนี้ค่ะ
1) 10:00-11:30
2) 12:00-13:30
3) 14:00-15:30
4) 16:00-17:30
5) 18:00-19:30
ถ้าซื้อบัตรรอบไหนก็ควรมาในช่วงเวลารอบนั้นนะคะ ส่วนใครที่อยากวอร์คอินเข้าไปซื้อที่หน้าพิพิธภัณฑ์เลยก็ได้ค่ะ โดยอัตราค่าบริการดังนี้ค่ะ
ผู้ใหญ่: 1,800 เยน
นักศึกษามหาวิทยาลัย / วิทยาลัย : 1,200 เยน
นักเรียนมัธยมปลาย / มัธยมปลาย : 800 เยน
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 : 400 เยน
เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี : ฟรี
>> วิธีเดินทางไปพิพิธภัณฑ์สนูปี้
ตามนี้เลยค่ะ ... นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Hibiya Line ลงที่สถานี Roppongi (H04) หรือสาย Oedo Line ลงที่สถานี Roppongi (E23) ทางออก 3 แล้วเดินตามแผนที่ไป 7 นาที เดินเลียบถนน ผ่านร้าน Isomaru Suisan ที่มีสาขาทั่วญี่ปุ่น ไปก่อนอีกหนี่งบล็อก จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอย ด้านหน้าจะมีตึก Forum อยู่ เดินออกกำลังกันซักพัก จะถึง Snoopy Museum อยู่ทางด้านขวามือค่ะ หรือจะมาจากสถานี Azabu Juban ก็ได้ค่ะ เดินราวๆ 10 นาทีนะคะ อยู่ใกล้ ๆ ดองกี้ สาขารปปงหงิ ค่ะ
เพื่อน ๆ คนไหนเคยไปแล้วอย่าลืมเอารูปน่ารัก ๆ มาอวดกันบ้างนะคะ ... ส่วนใครที่ยังไม่เคยไป ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะไปเยี่ยมเจ้าสนูปี้ด้วยนะคะ รับรองไปแล้วต้องหลงรักแน่นอนค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง และภาพประกอบ :
www.facebook.com/snoopymuseumtokyo/
http://www.snoopymuseum.tokyo/
SHARES