โดย: Candyx

7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

เตรียมพร้อมการดูแลก่อนและหลังพาน้องหมาไปต่างประเทศ

5 พฤศจิกายน 2556 · · อ่าน (7,996)
0

SHARES


0 shares

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ


     ในช่วงสิ้นปีแบบนี้ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวกันแล้วนะคะ เชื่อว่า เพื่อน ๆ คนรักน้องหมาหลาย ๆ คนก็อาจจะมีแผนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ไปศึกษาต่อ ทำธุรกิจ หรืออาจจะย้ายตามครอบครัวไปลงหลักปักฐานที่ต่างประเทศ ซึ่งอาจจะต้องอาศัยอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลานานหลายปี โดยมีน้องหมาแสนรักร่วมเดินทางตามไปอยู่ที่ต่างประเทศด้วย ...

     เทคนิคการเลี้ยงการดูแล วันนี้ ปังปอนด์ก็เลยหยิบเคล็ดลับดี ๆ ในการเลี้ยงและทำให้น้องหมาสามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อม และใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศได้อย่างมีความสุข มาฝากเพื่อน ๆ ที่กำลังจะพาน้องหมาไปเลี้ยงที่ต่างประเทศ หรือเพื่อน ๆ ที่พาน้องหมาไปอยู่ต่างประเทศแล้วแต่ยังไม่รู้ว่า จะต้องเริ่มดูแลน้องหมาแบบไหนกันค่ะ จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลย


 

สภาพอากาศเมืองไทยแตกต่างกับเมืองนอก
 

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ


     ก่อนอื่นผู้เลี้ยงจะต้องทำความเข้าใจเรื่องสภาพอากาศก่อนค่ะว่า สภาพอากาศในประเทศไทยของเรานั้นแตกต่างจากต่างประเทศ โดยในประเทศไทยของเราจะอยู่ในเขตร้อนชื้น สภาวะอากาศโดยทั่วไปจึงร้อนอบอ้าวเกือบตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีของประเทศไทยมีค่าประมาณ 27 องศาเซลเซียส โดยมีเพียง 3 ฤดู คือ หน้าร้อน หน้าฝน และหน้าหนาว ซึ่งในฤดูร้อนจะมีระยะเวลาประมาณ 3 เดือน โดยทั่วไปจะมีอากาศร้อนและแห้งแล้งมาก ส่วนในช่วงฝนสภาพอากาศจะมีความชุ่มชื้นและมีฝนตกชุกติดต่อกันโดยเฉลี่ยประมาณ 6 เดือน และในฤดูหนาวจะมีสภาพอากาศที่แห้งแล้งและหนาวเย็นในระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 3 เดือนเท่านั้นค่ะ
 

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

 
     แต่สำหรับในต่างประเทศ ส่วนมากมักจะมี 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งในฤดูร้อนของต่างประเทศนั้น มักจะมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าในฤดูหนาวของประเทศไทยเสียอีกค่ะ อย่างเช่น ประเทศออสเตรเลียที่จะมีสภาพอากาศในฤดูร้อนประมาณ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งก็ยังถือว่าเป็นอากาศที่หนาวเย็นสำหรับประเทศไทยและสำหรับน้องหมา โดยเฉพาะกับน้องหมาพันธุ์ขนสั้น เช่น สุนัขสายพันธุ์ชิวาวา แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรีย ปั๊ก เฟรนช์บูลด็อก อิตาเลียน เกรย์ฮาวด์ ฯลฯ เราจึงจะต้องดูแลให้ความอบอุ่นกับน้องหมามากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะน้องหมาที่เกิดและปรับตัวในสภาพแวดล้อมของประเทศไทยซึ่งเป็นเขตร้อนชื้น การพาน้องหมาย้ายไปต่างประเทศที่มีอากาศเย็น ติดลบ มีหิมะตก ก็อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้น้องหมาสามารถเข้ากับสภาพอากาศของต่างประเทศ และใช้ชีวิตได้อย่างปกติ แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ ไปซื้อน้องหมาในต่างประเทศก็จะไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวค่ะ เพราะน้องหมาที่เกิดและโตในต่างประเทศก็จะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศในประเทศนั้น ๆ ได้ตามธรรมชาติค่ะ

     สำหรับเพื่อน ๆ ที่จะพาน้องหมาจากประเทศไทย หรือได้พาน้องหมาไปเลี้ยงที่ต่างประเทศแล้ว เพื่อน ๆ ก็สามารถเรียนรู้วิธีการช่วยให้น้องหมาสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศในต่างประเทศได้ตามวิธีดังนี้ค่ะ


1.ปรับตัวเตรียมพร้อมก่อนย้ายไปต่างประเทศ
 

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

 
     สำหรับการย้ายที่อยู่ใหม่ หรือการพาน้องหมาเดินทางไปอยู่ที่ต่างประเทศด้วยนั้น อาจจะทำให้น้องหมาเกิดความเครียด และแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ออกมาได้ ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงต้องเตรียมตัวป้องกันปัญหา และผ่อนคลายความเครียดให้น้องหมาเพื่อให้น้องหมาสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานที่แห่งใหม่ที่น้องหมาไม่คุ้นชินให้ได้

     โดยในช่วงเตรียมตัวก่อนที่ผู้เลี้ยงและน้องหมาจะเดินทางไปต่างประเทศประมาณ 2 อาทิตย์ แนะนำว่า ให้ผู้เลี้ยงใช้วิธีการเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมหรือสเปรย์ปรับอากาศเป็นกลิ่นที่แตกต่างจากกลิ่นเดิมที่เคยใช้อยู่ฉีดพ่นภายในบ้าน เช่น จากกลิ่นส้มเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์ เพื่อปรับให้น้องหมาจำกลิ่นใหม่ก่อนที่จะย้ายบ้านไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งกลิ่นสเปรย์น้ำหอมจะช่วยให้น้องหมาจำกลิ่น และคุ้นเคยกับบ้านใหม่ในต่างประเทศได้ไวมากขึ้น หรืออาจจะลองปรับอุณหภูมิห้องเพื่อให้น้องหมาได้เจอกับสภาพอากาศเย็น ๆ บ้างก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ร่างกายของน้องหมาได้ปรับตัวกับสภาพอากาศค่ะ


2.จัดพื้นที่ที่อบอุ่นให้น้องหมาอยู่

 

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ


     เมื่อน้องหมาเดินทางไปถึงต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่ผู้เลี้ยงต้องทำคือ การกำหนดอาณาเขตและสร้างมุมส่วนตัวให้น้องหมา โดยผู้เลี้ยงควรเลือกพื้นที่ที่เงียบสงบ และเป็นพื้นที่ที่จะไม่มีการย้ายหรือเปลี่ยนแปลงอีกในอนาคต เพื่อเป็นการสร้างวินัย และแบ่งเขตให้น้องหมารู้จักพื้นที่ของตัวเอง พร้อมกับสร้างความมั่นใจให้น้องหมา โดยอาจจะหาเบาะนอนที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวน้องหมาเล็กน้อย มีความหนาและนุ่มเพื่อให้น้องหมานอนได้อย่างสบาย ไม่อึดอัด และอาจจะนำผ้าที่น้องหมาเคยใช้นอน หรือเสื้อผ้าของผู้เลี้ยงที่มีกลิ่นเหงื่ออ่อน ๆ มาวางไว้ในเบาะนอนเพื่อให้น้องหมารู้ว่า พื้นที่บริเวณนี้คือพื้นที่ปลอดภัยของน้องหมา ซึ่งจะช่วยให้น้องหมาสามารถปรับตัวและคุ้นชินกับที่อยู่ใหม่ได้อย่างรวดเร็วค่ะ


3.สวมเสื้อผ้าให้น้องหมาอบอุ่น
 

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

 
     เมื่อผู้เลี้ยงพาน้องหมาย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เสื้อผ้าสำหรับน้องหมา ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับน้องหมาที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ โดยเฉพาะกับน้องหมาพันธุ์เล็กที่มีขนสั้น เพราะน้องหมาเหล่านี้มักจะขี้หนาว ซึ่งเราสามารถสังเกตเห็นได้จากน้องหมาจะมีอาการตัวสั่น หูเย็น ฯ โดยผู้เลี้ยงควรเลือกเสื้อผ้าที่มีความหนา และมีคุณสมบัติทนความหนาวเย็นได้ ซึ่งแบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับน้องหมาที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศคือ เสื้อที่ถูกออกแบบให้บริเวณคอเป็นทรงสูง เช่น เสื้อคอเต่า หรือเสื้อที่สามารถคลุมตั้งแต่โคนหางจนถึงลำคอของน้องหมา และนอกจากนี้ผู้เลี้ยงอาจจะหาถุงเท้ามาให้น้องหมาสายพันธุ์เล็ก หรือน้องหมาเด็กสวมใส่เพราะพื้นภายในบ้านมักจะมีความเย็น เพื่อช่วยให้กักเก็บอุณหภูมิความร้อนในร่างกายน้องหมา และช่วยปกป้องเท้าของน้องหมาจากสิ่งสกปรก สารเคมีต่าง ๆ ภายในบ้านกันด้วยนะคะ
 

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

 
     ส่วนสำหรับผู้เลี้ยงหลาย ๆ คนที่เป็นกังวลว่า อุ้งเท้าน้องหมาที่ไม่มีขนมาคอยปกคลุมจะถูกหิมะกัดในช่วงหน้าหนาวจนต้องหารองเท้ามาให้น้องหมาสวมใส่นั้น ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะได้มีงานวิจัยของประเทศญี่ปุ่นที่วิจัยเกี่ยวกับกลไกการทำงานของเท้าของน้องหมากับความเย็น โดยผลวิจัยบอกว่า เนื้อเยื่อบริเวณอุ้งเท้าน้องหมามีกระบวนการที่ทำให้ทนทานต่ออุณหภูมิที่หนาวเย็นจัดได้ถึง -35 องศาเซลเซียส เช่นเดียวกันกับที่พบในแขนขาของเพนกวินและสุนัขจิ้งจอกขั้วโลกเหนือ รวมไปถึงครีบปลาโลมา ซึ่งหมายความว่า ผู้เลี้ยงสามารถปล่อยน้องหมาออกไปเดินเล่นในหิมะได้ โดยไม่ต้องเป็นกังวลว่า อุ้งเท้าของน้องหมาจะเย็น แข็งชา หรือโดนหิมะกัดได้ง่าย ๆ ค่ะ แต่ถึงอย่างไร ก็ไม่แนะนำให้เพื่อน ๆ พาน้องหมาออกไปวิ่งเล่นท่ามกลางหิมะเป็นเวลานาน ๆ นะคะ เพราะน้องหมาอาจจะเป็นหวัด ปวดบวม หรือโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากสภาพอากาศหนาวเย็นก็ได้ค่ะ


4.ให้อาหารมีคุณภาพกับน้องหมา

 

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ


     สำหรับเรื่องการให้อาหารน้องหมาก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กับเรื่องอื่น ๆ เลยค่ะ เพราะในต่างประเทศส่วนมากจะมีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ผู้เลี้ยงจึงต้องเลือกอาหารที่มีคุณภาพดีให้กับน้องหมา โดยควรเน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงคุณภาพดี เพื่อช่วยเสริมสร้างความอบอุ่นและช่วยเสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกาย โดยผู้เลี้ยงควรเลือกเป็นอาหารเม็ดสำเร็จรูปสูตรที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยของน้องหมาจะดีที่สุดเพราะอาหารเม็ดสำเร็จรูปมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสมดุลเหมาะสมกับช่วงวัยเพื่อนำไปใช้ในการเจริญเติบโต พัฒนาสมองและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย  และอาจจะเสริมด้วยวิตามิน น้ำมันปลา กล้วย ที่จะช่วยให้น้องหมามีผิวหนังชุ่มชื้น ขนสวย ไม่หลุดร่วงง่าย โดยเฉพาะกับน้องหมาสายพันธุ์ที่มักจะพบปัญหาผิวหนังและขนร่วงในจำนวนมาก เช่น ปั๊ก

     และหากผู้เลี้ยงจะทำอาหารปรุงสุกให้น้องหมากินเอง ก็ควรควบคุมน้ำหนักของน้องหมาให้อยู่ในเกณฑ์ปกติอยู่เสมอและเลือกอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดีมาประกอบอาหาร เช่น อกไก่ เนื้อหมู ฯ โดยเราต้องคำนวณปริมาณอาหารที่เหมาะสมในแต่ละมื้อให้น้องหมา ด้วย โปรแกรมการคำนวณหาปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันของสุนัข ด้วยนะคะ   


5.ออกกำลังกายสลายไขมัน

 

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ


     นอกจากเรื่องอาหารที่ผู้เลี้ยงต้องคอยควบคุมให้น้องหมาอยู่เสมอแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผู้เลี้ยงยังต้องหมั่นพาน้องหมาไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเผาผลาญพลังงานไม่ให้เกิดไขมันสะสม หรือเป็นโรคอ้วนได้ เพราะสภาพอากาศที่หนาวเย็นในต่างประเทศมักจะส่งผลให้น้องหมาขี้เกียจ เอาแต่นอนหลบความหนาวเย็นอยู่ภายในบ้าน ผู้เลี้ยงจึงต้องจัดตารางการออกกำลังกายให้น้องหมาและทำตามอย่างเคร่งครัด โดยอาจจะขอคำปรึกษากับสัตวแพทย์เพื่อจัดตารางการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับน้อหมาแต่ละตัวจะดีที่สุด
 
    สำหรับการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับน้องหมาพันธุ์เล็กควรเป็นการออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น พาไปเดินหรือวิ่งเล่นตามสวนสาธารณะโดยให้น้องหมาอยู่ในสายจูงทุกครั้ง ใช้เพียงแค่ 10- 15 นาที แล้วพัก 5-10 นาที จากนั้นให้กลับมาออกกำลังกายใหม่ หรืออาจจะสังเกตดูจากอาการหอบของน้องหมาที่จะแสดงออกมาตอนเหนื่อยก็ได้ค่ะ อาจจะหากิจกรรมอื่น ๆ เช่น เล่นเกมส์ฝึกสมอง โยนลูกบอล ดึงเชือก เพื่อกระตุ้นให้น้องหมาได้ออกกำลังกายทั้งร่างกายและสมองที่จะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนในน้องหมาพันธุ์ใหญ่ผู้เลี้ยงอาจจะเพิ่มเวลาการออกกำลังกายเป็น 30-40 นาที ก็ได้ค่ะ ... ข้อสำคัญคือ ผู้เลี้ยงควรให้น้ำน้องหมากินก่อนและหลังออกกำลังกายเพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำกันด้วยนะคะ


6.ลดความถี่ของการอาบน้ำ

 

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ


     ในช่วงระยะแรก 2-3 เดือนแรก ที่ผู้เลี้ยงเพิ่งพาน้องหมาย้ายไปต่างประเทศ แนะนำว่า ให้ผู้เลี้ยงลดความถี่ของการอาบน้ำให้กับน้องหมาลง โดยไม่ควรเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะการอาบน้ำให้กับน้องหมามากหรือบ่อยเกินไปจะลดเป็นการปริมาณน้ำมันบนผิวหนัง ทำให้ผิวหนังและเส้นขนแห้ง ซึ่งอาจะทำให้น้องหมาเกิดอาการคัน มีสะเก็ดรังแค ที่เป็นสาเหตุหลักของโรคผิวหนังอักเสบและโรคผิวหนังต่าง ๆ

     แต่ถ้าหากน้องหมาเล่นซน หรือเปรอะเปื้อน ผู้เลี้ยงก็อาจจะเลือกใช้วิธีใช้โฟมอาบแห้งสำหรับสุนัขมาทำความสะอาดให้น้องหมา หรือใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด ๆ เช็ดตัวและใช้ไดร์เป่าให้แห้งทันทีจะดีกว่า โดยใช้ไดร์เป่าเว้นระยะห่างจากตัวน้องหมาประมาณ 30 เซนติเมตร และแปรงขนให้น้องหมาในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อช่วยกระตุ้นต่อมไขมันใต้ผิวหนังให้มีน้ำมันมาเคลือบผิวหนังและเส้นขนน้องหมาให้มีความชุ่มชื้นกันด้วยนะคะ


7.ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
 

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

 
     ผู้เลี้ยงควรพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ อย่างน้อยทุก 6 เดือน และฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามโปรแกรมสุขภาพเพื่อช่วยลดอัตราการเป็นโรคต่าง ๆ  และเพื่อเช็คความแข็งแรงทั้งร่างกายภายนอกและระบบภายในร่างกายของน้องหมา เพราะน้องหมาที่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งในสภาพอากาศที่หนาวเย็นอาจจะทำให้น้องหมาเป็นโรคไข้หวัด โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ หรือโรคอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย

     การพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพจะช่วยทำให้ผู้เลี้ยงรู้ถึงแนวโน้ม หรือความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลดีที่ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถเตรียมรับมือ และรักษาน้องหมาได้อย่างทันท่วงทีหากตรวจพบโรคต่าง ๆ ค่ะ
 

Dogilike.com :: 7 วิธีปรับตัวเมื่อน้องหมาต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

 
   สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมีแผนที่จะพาน้องหมาย้ายไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ ก็อย่าลืมนำเคล็ดลับที่ปังปอนด์แนะนำไปปรับใช้ เตรียมรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกันด้วยนะคะ เพื่อนๆ จะได้ไม่ต้องปวดหัวกับพฤติกรรมที่อาจเกิดขึ้นของน้องหมาเมื่อต้องย้ายที่ อยู่ใหม่  รับรองว่าเพื่อน ๆ และน้องหมาจะมีความสุขกับการย้ายไปอยู่ต่างประเทศกันแน่นอนจ้า ^^”
 

บทความโดย : Dogilike.com

ข้อมูลอ้างอิงบางส่วน :
http://newsfeed.time.com

ภาพประกอบ :
http://pethedge.com/useful-tips-to-help-you-care-for-your-dog-during-winter/
http://www.petmd.com/dog/seasonal/evr_dg_sweaters_for_dogs#.UncRDPkvkrU
http://www.freehdwall.net
http://keligwyn.wordpress.com/2011/10/14/favorites-on-friday-season/