ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายปลายเดือนธันวาคมกันแล้วนะคะ คนรักน้องหมาหลาย ๆ คนก็คงมีแผนที่จะพาครอบครัวและน้องหมาไปท่องเที่ยวในวันหยุดยาว บางคนก็อาจกำลังมีความคิดที่จะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ ในปีหน้ากันใช่ไหมล่ะคะ ^^”

     ... แต่ก่อนที่จะผ่านปีนี้ไป คอลัมน์ เทคนิคการเลี้ยงการดูแล ก็อยากให้เพื่อน ๆ คนรักน้องหมาได้ลองมองย้อนกลับไปและสำรวจตัวเองกันดูว่า ในตลอดปีที่ผ่านมานี้ เราได้ดูแลสุขภาพ และความเป็นอยู่ของน้องหมาแสนรักดีพอแล้วหรือยัง?  

     และถ้าหากเพื่อน ๆ ยังดูแลใส่ใจน้องหมายังไม่เต็มที่ เริ่มต้นตอนนี้ก็ยังไม่สายนะคะ เพื่อน้องหมาจะได้มีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ และจะช่วยให้น้องหมามีอายุที่ยืนยาวขึ้น โดยเราจะมาเช็คการดูแลของน้องหมาเป็นข้อ  ๆ ดังต่อไปนี้เลยค่ะ
 

ดูแลเรื่องอาหาร
 

     จุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดีเริ่มต้นจากภายใน ... การมอบอาหารที่มีคุณภาพครบคุณค่าทุกหมู่ ทั้งโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ และน้ำ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้น้องหมามีสุขภาพดี  เพราะอาหารถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อสุขภาพของน้องหมาระยะยาว ผู้เลี้ยงจึงควรใส่ใจและพิถีพิถันในเลือกชนิดอาหารที่มีคุณภาพเหมาะกับช่วงอายุและความต้องการของน้องหมาแต่ละตัว เช่น อาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับลูกสุนัข อาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับสุนัขโตเต็มวัย อาหารเม็ดสำเร็จรูปสูตรสุนัขสูงวัย อาหารเม็ดสำเร็จรูปสูตรควบคุมน้ำหนัก สูตรสำหรับสุนัขอ้วนง่าย สูตรรักษาภาวะภูมิแพ้จากอาหาร สูตรรักษาและฟื้นฟูข้อต่อ ฯ หรือในน้องหมาที่เป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคไต โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคกระเพาะปัสสาวะ ฯ ผู้เลี้ยงก็จำเป็นที่จะต้องดูแลเรื่องโภชนาการอาหารให้กับกับน้องหมาเป็นพิเศษ ซึ่งในปัจจุบันได้มีมีอาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัขสูตรเฉพาะโรคที่เหมาะกับน้องหมาที่ป่วยให้ผู้เลี้ยงเลือกซื้อตามความเหมาะสมกับน้องหมาเป็นจำนวนมากค่ะ

     นอกจากที่ผู้เลี้ยงจะเลือกอาหารที่ครบคุณค่าเหมาะกับน้องหมาแล้ว ผู้เลี้ยงยังจำเป็นที่จะต้องคำนวณปริมาณอาหารที่เหมาะสมให้กับน้องหมา (โปรแกรมการคำนวณหาปริมาณอาหารที่เหมาะสมต่อวันของสุนัข) เพื่อน้องหมาจะได้รับสารอาหารที่พอเหมาะ สมดุลกับร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อร่างกาย ไม่ขาดไม่เกิน  มีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก มีผิวหนังและขนสวยเงางาม เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำรุงสมอง ข้อต่อและกระดูก และอวัยวะส่วนต่าง ๆ ค่ะ

     ส่วนในผู้เลี้ยงที่มีน้องหมาสายพันธุ์ที่เสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ง่าย เช่น ปั๊ก ชาเป่ย ดัชชุน คอร์กี้ ฯ ผู้เลี้ยงควรดูแลเรื่องอาหารที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมสภาพร่างกายของน้องหมาไม่ให้อ้วนเกินไป ควรต้องดูแลตั้งแต่เริ่มรับน้องหมาเข้ามาเลี้ยง โดยควรหัดให้น้องหมากินอาหารเม็ดสำเร็จรูปสูตรที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจะดีที่สุด เพราะอาหารเม็ดสำเร็จรูปมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสมดุลเหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อนำไปใช้ในการเจริญเติบโต พัฒนาสมองและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย  และสิ่งสำคัญคือ ควรหลีกเลี่ยงการเลี้ยงน้องหมาด้วยอาหารของคน โดยเฉพาะอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล และอาหารประเภททอดด้วยน้ำมันที่มีพลังงานสูง เพราะหากน้องหมาได้รับอาหารเหล่านี้เข้าไปแล้วไม่ได้ออกกำลังกายเผาผลาญพลังงาน ก็จะทำให้น้องหมาอ้วน ส่งผลต่อข้อและกระดูก และยังทำให้เกิดโรคต่าง ๆ  เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ รวมถึงจะส่งผลต่ออายุของน้องหมาที่อาจสั้นลงได้ค่ะ (อ่านเพิ่มเติมบทความ ความห่วงใยผิดๆ ที่เจ้าของมักมีต่อสุนัข!)

 

ออกกำลังกายเป็นประจำ

 

     ไม่ว่าน้องหมาของผู้เลี้ยงจะอยู่ในช่วงวัยไหน การออกกำลังกายก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ ... นอกจากเรื่องอาหารที่ผู้เลี้ยงต้องคอยควบคุมให้น้องหมาอยู่เสมอแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผู้เลี้ยงยังต้องหมั่นพาน้องหมาไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเผาผลาญ พลังงาน ทำให้น้องหมามีร่างกายที่แข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค ลดพฤติกรรมซุกซน  ซึ่งการออกกำลังกายยังจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ความใกล้ชิดระหว่างผู้เลี้ยงกับน้องหมา ทำให้น้องหมามีสุขภาพจิตใจที่ดีที่จะส่งผลให้น้องหมามีอายุยืนยาวอีกด้วยนะคะ ^^”

     ในน้องหมาพันธุ์เล็กผู้เลี้ยงควรให้น้องหมาออกกำลังกายเบา ๆ เช่น พาไปเดินหรือวิ่งเล่นตามสวนสาธารณะ โดยใช้เพียงแค่ 10-15 นาที อาจจะหากิจกรรมอื่น ๆ เช่น เล่นเกมส์ฝึกสมอง โยนลูกบอล ดึงเชือก เพื่อกระตุ้นให้น้องหมาได้ออกกำลังกายทั้งร่างกายและสมองที่จะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ แต่สำหรับน้องหมาพันธุ์หน้าสั้นที่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ ผู้เลี้ยงไม่ควรให้น้องหมาออกกำลังกายหนัก ๆ และใช้เวลานานเกินไปนะคะ โดยผู้เลี้ยงควรจัดตารางการออกกำลังกายให้น้องหมา โดยอาจจะขอคำปรึกษากับสัตวแพทย์เพื่อจัดตารางการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำ หรับน้อหมาแต่ละตัวจะดีที่สุดค่ะ

     ส่วนในน้องหมาพันธุ์ใหญ่มีวิธีการออกกำลังกายที่ค่อนข้างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น การวิ่งหรือเดินอย่างอิสระ ที่จะช่วยทำให้น้องหมามีกระดูกที่แข็งแรง ว่ายน้ำ ที่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อขาและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายซึ่งจะช่วยชะลอการเกิดโรคกระดูกและข้ออักเสบ การกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เพื่อฝึกสปริงตัวเพราะน้องหมาจะใช้สะโพกเป็นแรงในการกระโดด (แต่ก็ควรระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุด้วยนะคะ) เล่นชักเย่อ เพื่อฝึกความแข่งแรงของช่วงกราม การเล่นเก็บลูกบอล จานร่อน หรือ ของเล่นฝึกทักษะในด้านต่าง ๆ ฯลฯ  ซึ่งการออกกำลังกายด้วยวิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่เหมาะกับลักษณะทางกายภาพและพฤติกรรมของน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดี สำหรับเวลาที่เหมาะสมสำหรับการออกกำลังกายแต่ละครั้งจะอยู่ที่วันละ 45 นาทีเป็นอย่างน้อยค่ะ

    ... และกฏสำคัญที่ผู้เลี้ยงควรปฏิบัติในการพาน้องหมาทั้งสายพันธุ์เล็กและสายพันธุ์ใหญ่ออกกำลังกายคือ ผู้เลี้ยงควรให้น้ำน้องหมากินก่อนและหลังออกกำลังกายเพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ และป้องกันไม่ให้น้องหมาเป็นโรคลมแดด (Heat Stroke) ที่จะเกิดขึ้นได้เมื่อเขารู้สึกร้อนจัดกันด้วยนะคะ

 

แบ่งเวลาให้ความรัก ฝึกฝนทักษะ

      การที่น้องหมาจะมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงได้นั้น จำเป็นจะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของอย่างใกล้ชิด เพราะน้องหมาต้องการเวลาและความรักความเอาใจใส่จากผู้เป็นเจ้าของ ... หากผู้เลี้ยงอยากให้น้องหมามีสุขภาพจิตที่ดีและมีอายุยืนยาว ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จพต้องแบ่งเวลามามอบความรักให้กับน้องหมาอย่างสม่ำเสมอ โดยผู้เลี้ยงอาจจะจัดสรรเวลาในชีวิตประจำวันมาให้กับน้องหมาอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกวันก่อนไปทำงานหรือหลังเลิกงานผู้เลี้งก็อาจจะลองพูดคุย โอบกอด แสดงความรักในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้น้องหมารู้สึกว่า เรารักเขา การทำแบบนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจ ทำให้น้องหมารู้สึกอบอุ่นไม่ขาดความรัก ผ่อนคลายความเครียด ซึ่งจะส่งผลต่อพฤติกรรมการแสดงออก และลักษณะนิสัยที่อ่อนโยนของน้องหมาได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

     แต่สำหรับผู้เลี้ยงที่แสดงความรักไม่ค่อยเก่ง ก็อาจจะเลือกวิธีแบ่งเวลามาฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ให้กับน้องหมาแทนก็ได้ เช่น ฝึกให้คอย นั่ง หยุด หรือคาบลูกบอล ฯ จะเป็นการช่วยบริหารและพัฒนาสมอง ช่วยฝึกความจำ ฝึกไหวพริบ ทำให้สมองน้องหมาทำหน้าที่ได้ดี ซึ่งจะช่วยลดและชะลออาการหลงลืมของน้องหมาในยามชรา

     หรืออาจจะหาของเล่นสำหรับน้องหมามาให้เล่นก็ได้ค่ะ เพราะการให้ของเล่นกับน้องหมาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยฝึกและพัฒนาทักษะให้กับน้องหมาได้ โดยในปัจจุบันมีของเล่นในรูปแบบต่าง ๆ มีคุณสมบัติที่จะช่วยเสริมสร้างทักษะในด้านต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน เช่น ของเล่นที่ยืดหยุ่นได้ ของเล่นที่สามารถกินได้  ของเล่นเสริมทักษะพิเศษต่าง ๆ ที่จะมีซอกเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้สำหรับให้เอาของเอาขนมชิ้นเล็ก ๆ ไปซ่อน แล้วให้น้องหมาหาด้วยตัวเองเพื่อที่เขาจะได้กินขนม ซึ่งจะช่วยเสริมทักษะหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ทักษะการใช้ปาก , ใช้เท้าหน้า ช่วยฝึกสมองให้น้องหมารู้จักแก้ปัญหาและเอาตัวรอด ตื่นตัวและคล่องแคล่วมากขึ้นด้วย ... ( อ่านบทความเพิ่มเติม เลือกของเล่นเสริมทักษะให้สุนัข) ค่ะ

ดูแลกรูมมิ่งเป็นประจำ

     นอกจากการใส่ใจดูแลเรื่องของอาหาร การออกกำลังกาย ที่จะทำให้น้องหมาแข็งแรงมาจากภายในแล้ว การดูแลสุขภาพร่างกายและความสะอาดภายนอก ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้น้องหมามีสุขภาพดีได้เช่นกัน ... ผู้เลี้ยงควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดร่างกายของน้องหมาโดยการอาบน้ำให้น้อง หมา 2 ครั้งต่อเดือน และควรดูแลเรื่องสุขภาพเส้นขนของน้องหมาเป็นพิเศษโดยผู้เลี้ยงต้องตรวจดูขน ตามจุดสำคัญ ๆ ทั่วร่างกาย เช่น ขนบริเวณรอบดวงตา รอบปาก ใต้ท้อง ใต้เท้า หรือรูทวาร ซึ่งถ้าหากเห็นว่าขนน้องหมาเริ่มยาว หรือเริ่มพันกัน ผู้เลี้ยงก็ควรรีบจัดการตัดขนบริเวณดังกล่าวทิ้งทันที เพราะหากปล่อยไว้อาจกลายเป็นสังกะตังได้ค่ะ  

     แต่สำหรับน้องหมาที่ถูกเลี้ยงอยู่ในเมือง ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องได้ดูแลทำความสะอาดร่างกายอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง เพราะน้องหมาในเมืองจะมีโอกาสได้รับฝุ่น ควัน และสารเคมีต่าง ๆ จากอากาศและพื้นดินเกาะติดอยู่บนเส้นขนและผิวหนังของน้องหมาได้ง่าย หากน้องหมาไม่ได้รับการดูแลอาบน้ำ ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ฝุ่น ควัน และสารเคมีต่าง ๆ ก็อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ทำให้เกิดการแพ้ และทำผิวหนังอักเสบได้ค่ะ

     โดยการกรูมมิ่งน้องหมาแนะนำว่า ให้ผู้เลี้ยงแปรงขนน้องหมาทุกครั้งก่อนจับน้องหมาอาบน้ำเพื่อขจัดขนเก่าที่ตายแล้วออกไปและเพื่อลดปัญหาขนพันกันในขั้นตอนการอาบน้ำ สำหรับแชมพูและคอนดิชันเนอร์ควรเลือกเป็นสูตรอ่อนโยนที่ไม่ก่อให้เกิดอาการ แพ้หรือระคายเคืองต่อผิวหนังของน้องหมา และอาจบำรุงผิวหนังและขนของน้องหมาด้วยผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น น้ำมันเคลือบเส้นขน สเปรย์บำรุงขนที่ไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ ฯลฯ ซึ่งข้อดีของน้ำมันเคลือบขน หรือสเปรย์บำรุงขนที่ไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์คือ จะช่วยไม่ให้ฝุ่น ควัน เศษละอองต่าง ๆ ติดขนของน้องหมา ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่ฝุ่น ควัน เศษละอองต่าง ๆ จะเข้าไปถึงผิวหนังของน้องหมาค่ะ

    รวมถึงทุกครั้งที่อาบน้ำให้น้องหมาเสร็จ ผู้เลี้ยงก็ควรใช้ไดร์เป่าขนของน้องหมา โดยเฉพาะกับน้องหมาที่มีขนสองชั้นให้แห้งสนิททุกซอกทุกมุมเพื่อป้องกันการเกิดความอับชื้นที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังกันด้วยนะคะ (อ่านบทความเพิ่มเติม กรูมมิ่งน้องหมาอย่างมืออาชีพ ... ทำเองก็ได้ง่ายจัง)
 

ตรวจสุขภาพ/ฉีดวัคซีนตามโปรแกรม

     เพื่อความมั่นใจว่า น้องหมาของเราจะมีสุขภาพที่ดีไม่เจ็บป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ผู้เลี้ยงควรหมั่นพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ อย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน เพื่อจะช่วยทำให้ผู้เลี้ยงรู้ถึงแนวโน้ม หรือความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลดีที่ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถเตรียมรับมือ และรักษาน้องหมาได้อย่างทันท่วงทีหากตรวจพบโรคต่าง ๆ ค่ะ

     รวมถึงหมั่นตรวจเช็คและพาน้องหมาไปฉีดวัคซีนให้ครบตามโปรแกรมสุขภาพ เพราะรอบตัวของเรามีเชื้อโรคมากมายหลายชนิด หากเราไม่ทำวัคซีนให้กับน้องหมาตามโปรแกรมน้องหมาก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ จากสภาพแวดล้อม การสัมผัสและติดเชื้อจากน้องหมาตัวอื่นได้ สำหรับการฉีดวัคซีนนั้นจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ ให้กับน้องหมา ทำให้น้องหมาเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้น้อยลง แนะนำว่า หากผู้เลี้ยงรับน้องหมาตัวใหม่เข้ามาเลี้ยงก็ควรที่จะพาน้องหมาไปตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยก่อนจะเป็นการดีที่สุดค่ะ

      สำหรับวัคซีนหลัก ๆ ที่มักฉีดให้กับน้องหมาในปัจจุบัน จะเป็นวัคซีนสำหรับกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อ โรคลำไส้อักเสบติดต่อ โรคไข้หัดสุนัข โรคพิษสุนัขบ้า โรคตับอักเสบติดต่อ โรคพาราอินฟูลเอ็นซ่า ฯ ซึ่งการฉีดวัคซีนในความคิดของคนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า เมื่อพาน้องหมาไปฉีดวัคซีนตามโปรแกรมแล้ว น้องหมาตัวนั้นจะไม่ป่วยเป็นโรคนั้นอีก แต่ความจริงแล้ววัคซีนก็ไม่ได้มีความสามารถป้องกันได้ 100 % เพียงแต่สามารถป้องกันการเกิดโรคได้ในระดับหนึ่งค่ะ หากตัวของน้องหมากำลังอยู่ในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันตก น้องหมาก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อโรคได้ เพราะเชื้อโรคในปัจจุบันสามารถพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อความอยู่รอด จึงอาจยกระดับตัวเองให้เชื้อมีความรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อน้องหมาได้รับปริมาณเชื้อโรคที่มากจนร่างกายต่อต้านไม่ไหว ก็สามารถทำให้ป่วยได้เช่นกันค่ะ

เลี้ยงสุนัขอย่างมีความรับผิดชอบ
 

     นอกเหนือจากการดูแลสุขภาพน้องหมาที่กล่าวมาในข้อต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผู้เลี้ยงไม่ควรละเลยไปก็คือ การเลี้ยงดูแลน้องหมาอย่างมีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะกับผู้เลี้ยงที่เลี้ยงน้องหมาในบ้านจัดสรร ทาวน์เฮาส์ หรือในชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่ ... หลายต่อหลายครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าวของเจ้าของน้องหมามีปัญหาหรือทะเลาะกับเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง เนื่องจากเพราะน้องหมาเห่าเสียงดัง อึฉี่ไม่เป็นที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นรบกวนเพื่อนบ้าน

     ดังนั้น เพื่อเป็นการไม่รบกวนเพื่อนบ้านและแสดงให้เห็นว่า เราเป็นผู้เลี้ยงที่มีความเป็นมืออาชีพ ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องดูแลเลี้ยงน้องหมาอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อรักษามิตรภาพที่ยืนยาวกับเพื่อนบ้านเอาไว้ หากน้องหมามีนิสัยชอบเห่าเสียงดัง ผู้เลี้ยงก็ไม่ควรเลือกพื้นที่ให้น้องหมาอยู่ติดหรือใกล้กับเพื่อนบ้านมากเกินไปเพื่อลดปัญหาเรื่องเสียงเห่าและกลิ่นไม่พึงประสงค์ หากเลี้ยงน้องหมาหลายตัวก็ควรมีกรงแยกให้น้องหมาแต่ะละตัวเพื่อลดปัญหาน้องหมาทะเลาะหรือกัดกันค่ะ

      และทุกครั้งจะพาน้องหมาไปเดินเล่นหรือพาน้องหมาไปขับถ่ายนอกบ้าน ผู้เลี้ยงก็ควรจะใส่สายจูงให้กับน้องหมาทุกครั้งและพาไปขับถ่ายในพื้นที่ที่ห่างจากที่อยู่อาศัย รวมถึงพกถุงพลาสติก หรือถุงกระดาษออกไปด้วยทุกครั้งเพื่อเก็บกวาด กองอึ ฉี่ ของน้องหมาให้เรียบร้อย หากน้องหมาฉี่รดบริเวณเสาไฟฟ้า หรือพื้นที่หน้าบ้านของเพื่อนบ้าน ผู้ลี้ยงก็ควรแสดงความรับผิดชอบโดยการนำน้ำสะอาดมาราดทำความสะอาดเพื่อไม่ ให้มีกลิ่นฉี่เหม็นติดพื้น ซึ่งข้อนี้ถือเป็นข้อพื้นฐานสำหรับผู้เลี้ยงที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างภาระ หรือความเดือนร้อนให้แก่คนอื่น ๆ และยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันโรคติดต่อต่าง ๆ ที่อาจเผยแพร่ทางอุจจาระของน้องหมาได้อีกด้วยค่ะ (อ่านเพิ่มเติมบทความ 6 วิธีเลี้ยงสุนัขอย่างรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้มีปัญหากับเพื่อนบ้าน)

 

       เป็นยังไงกันบ้างคะ 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อน ๆ ได้ดูแลน้องหมาให้มีสุขภาพดีกันแล้วหรือยังเอ่ย? ... สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังคิดจะพาน้องหมามาเลี้ยงหรือเพื่อน ๆ ที่กำลังเลี้ยงน้องหมาอยู่ก็อย่าลืมที่จะใส่ใจน้องหมาและศึกษาหาข้อมูลในการเลี้ยงน้องหมาเพิ่มเติมกันบ่อย ๆ ด้วยนะคะ เพราะน้องหมาน้องหมาก็คือสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวที่เราจะต้องดูแล ไม่ต่างจากสมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ เพื่อน้องหมาจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีอายุยืนยาวอยู่กับเราไปอีกนานยังไงล่ะคะ ถ้ายังไม่เริ่มต้นดูแลน้องหมาในวันนี้ก็ยังไม่สายนะคะ ^_^
 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/

ภาพประกอบ :

https://www.flickr.com/