น้องหมาต้องฉีควัคซีนอะไรบ้าง  

     เริ่มแรกที่คุณตัดสินใจนำน้องหมามาเลี้ยงนั้น คุณจะต้องทำการศึกให้ดีก่อนว่า น้องหมาของคุณมีอายุโดยประมาณเท่าไหร่ และได้รับการฉีควัคซีนอะไรมาแล้วบ้าง โดยในเบื้องต้นนั้นวัคซีนที่ต้องฉีดคือ วัคซีนป้องกันไข้หัดสุนัข และวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบติดต่อ

     ซึ่งปัจจุบันนี้เพื่อความสะดวกของเหล่าคนรักสุนัขได้มีการผลิตมีวัคซีนรวม ซึ่งสามารถป้องกันโรคได้ทั้ง 4 โรค คือ โรคตับอักเสบติดต่อ โรคเลปโตสไปโรซีส โรคไข้หัดสุนัข และโรคลำไส้อักเสบ

     วัคซีนที่ลูกสุนัขจะต้องฉีด

• โรคหวัดและหลอดลมอักเสบติดต่อ (Kennel Cough Syndrome) : 4-6 สัปดาห์ กระตุ้นซ้ำที่ 10-14 สัปดาห์

• โรคลำไส้อักเสบติดต่อ (Canine Parvovirus) : 4-6 สัปดาห์ กระตุ้นซ้ำที่ 10-14 สัปดาห์

• โรคไข้หัด ตับอักเสบและเลพโตสไปโรซิส (Canine Distemper, Infectious Hepatitis and Leptospirosis) : 14-6 สัปดาห์กระตุ้นซ้ำที่อายุ 10-14 สัปดาห์

• โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) : 12 สัปดาห์ กระตุ้นซ้ำที่อายุ 6 เดือน

     คุณผู้เลี้ยงคะ มีข้อควรจำอย่างหนึ่งก็คือ หลังจากฉีดวัคซีนควรงดอาบน้ำเป็นเวลา 7 วัน เพราะการฉีดวัคซีนบางครั้งอาจจะทำให้สุนัขเกิดอาการไข้

ลืมไม่ได้สำหรับการถ่ายพยาธิ

     คุณผู้เลี้ยงอย่าคิดว่าการถ่ายพยาธิเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ จำไว้นะคะว่าเมื่อเรานำน้องหมามาเลี้ยง เราควรจะต้องพาน้องหมาไปถ่ายพยาธิทันที โดยเฉพาะพยาธิตัวกลมและพยาธิปากขอ ซึ่งพยาธิเหล่านี้จะอยู่ในลำไส้ของน้องหมาและอาจเข้าสู่กระเพาะ ซึ่งจะทำให้เกิดการแย่งอาหารจากน้องหมา ทำให้สุนัขแคะแกร็น โตช้า อาจมีอาการชักและตายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

     ทันทีที่แม่พันธุ์คลอดลูกออกมา อาจมีพยาธิตัวกลมอยู่ในลำไส้ของน้องหมาที่เพิ่งเกิดและอาจจะเติบโตอย่างรวดเร็วไปพร้อมๆ กับน้องหมา (น้องหมาที่มีพยาธิจะมีรูปร่างผอมแต่พุงโต เพราะภายใจท้องมีแต่พยาธิแต็มไปหมด) ซึ่งหากโชคร้ายพยาธิอาจทำให้ลำไส้อุดตันและเป็นอันตรายต่อชีวิตน้องหมาได้

     ดังนั้น การถ่ายพยาธิให้กับลูกสุนัขจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก วิธีการถ่ายพยาธิที่ดีที่สุด คือการถ่ายพยาธิ 3 วันติดต่อกัน แล้วเว้นช่วงไป 15 วัน แล้วถ่ายพยาธิซ้ำอีก 3 วันและหลังจากนั้น คุณผู้เลี้ยงควรพาน้องหมาไปถ่ายพยาธิอย่างน้อยทุก 3 เดือน จะทำให้น้องหมาปลอดพยาธิไปจนโต