อย่างที่พวกเราคนรักสุนัขทราบกันดีว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของชาวไทยทุกคน ทรงเป็นผู้รอบรู้และเชี่ยวชาญสรรพวิชาหลากหลายแขนง รวมไปถึงพระราชภาระดูแลทุกข์-สุข ของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศในฐานะพระมหากษัตริย์ผู้ครองราชย์มายาวนานถึง 70 ปี

      ซึ่งพระองค์ไม่เพียงแต่คอยห่วงใยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนของพระองค์เท่านั้น แต่ยังเผื่อแผ่ความเมตตาไปยังสุนัขจรจัดอีกด้วย โดยมีสุนัขจรจัดจำนวนมากที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณและทรงรับอุปการะเอาไว้เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมตั้งแต่ปี 2548 มีสุนัขทรงเลี้ยงทั้งสิ้นมากกว่า 70 ตัว หนึ่งในนั้นคือ  “คุณทองแดง” สุนัขจรจัดที่อดีตเคยอาศัยอยู่บริเวณซอยศูนย์แพทย์พัฒนา ถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นสุนัขที่ได้รับการขนานว่าเป็น “สุนัขประจำรัชกาลที่ 9” ผู้ติดตามเฝ้าถวายงานพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด …. รวมทั้งพระองค์ทรงริเริ่มโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพสุนัขจรจัดอีกมากมาย ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้ประชาชนชาวไทยหลาย ๆ คน รวมถึงคนรักสุนัขยกพระองค์ท่านฯ เป็นต้นแบบในการเลี้ยงสุนัข

     และวันนี้ปังปอนด์จะขอพาทุกคนไปตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็นต้นแบบในการเลี้ยงสุนัขอย่างมีความรับผิดชอบกันค่ะ ...


 

1. ใส่สายจูง ใส่ใจฝึกสุนัข

 

       หากเราย้อนดูภาพเก่า ๆ เมื่อครั้งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จออกมาในที่สาธารณะ พระหัตถ์ของพระองค์จะมีสายจูงและคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยงอยู่ในสายจูงเสมอ ทั้งที่คุณทองแดงเป็นสุนัขที่เรียบร้อยมาก แต่ก็ยังต้องอยู่ในสายจูงเวลาตามเสด็จและไม่เคยปล่อยให้เดินอิสระตามใจ ซึ่งถือเป็นแบบอย่างให้กับคนเลี้ยงสุนัขได้เป็นอย่างดี

      ทั้งนี้ การฝึกสุนัขให้อยู่ในสายจูง ฝึกให้มีอารมณ์มั่นคง ไม่ตื่นกลัวเวลาอยู่ในที่สาธารณะนั้นถือเป็นการฝึกขั้นพื้นฐานที่เจ้าของสุนัขทุก ๆ คนควรใส่ใจค่ะ หลายคนอาจจะบอกว่า สุนัขของเราเชื่อง ไม่ดุไม่จำเป็นต้องใส่สายจูงให้ก็ได้ แต่จริง ๆ แล้วการใช้สายจูงมีประโยชน์มาก ทั้งช่วยรักษาชีวิตของน้องหมาเองและชีวิตของผู้อื่น รวมถึงสุนัขตัวอื่น ๆ ให้ปลอดภัยได้ การมีสายจูงยังง่ายต่อการควบคุมน้องหมาเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ป้องกันอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง เช่น ถูกรถชน ป้องกันการพลัดหลงกับเจ้าของ ป้องกันการปะทะกันของสุนัขตัวอื่นจนทำให้เกิดการต่อสู้ รวมถึงช่วยลดความรู้สึกหวาดระแวง ไม่มั่นใจต่อคนที่เดินผ่านไปมาโดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบน้องหมาได้อีกด้วยค่ะ  น้องหมาเชื่อง จำเป็นไหมที่ต้องใส่สายจูงทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน?  เคล็ด (ไม่) ลับ! การฝึกให้น้องหมารู้จักควบคุมตัวเอง
 

ชมคลิป

2. มีเวลาให้ ใส่ใจสุขภาพ

      ถึงแม้ในหลวงรัชกาลที่ 9 จะทรงงานหนัก มีพระราชภาระดูแลทุกข์และสุขของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ แต่พระองค์ท่านก็ยังทรงแบ่งเวลาดูแลให้ความรัก และห่วงใยสุขภาพของสุนัขทรงเลี้ยงเสมอ ดังภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงฉายภาพกับเหล่าสุนัขทรงเลี้ยงในหลากหลายอิริยาบถ  และในบางเวลาพระองค์ก็ทรงเสด็จพาคุณทองแดงเข้ารับการรักษา ตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสัตว์ด้วยตัวพระองค์เองอีกด้วย และทุกครั้งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จประทับที่ใด คุณทองแดง ก็จะตามเสด็จฯ ด้วย เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณทองแดงไม่ได้ตามเสด็จไปทรงงานที่สวนจิตรฯ นานไปหน่อย ทำให้คุณทองแดงเครียด เพราะคิดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงกับล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล …

      สำหรับการเลี้ยงน้องหมาการให้เวลา ความรัก และใส่ใจสุขภาพน้องหมาถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะทั้ง 3 สิ่งนี้เป็นถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอันดับต้น ๆ ที่น้องหมาต้องการจากเจ้าของ หากไม่ได้รับการดูแลใกล้ชิด ก็อาจทำให้เค้ารู้สึกโดดเดี่ยว ขาดความมั่นคงทางอารมณ์ อาจจะส่งผลให้น้องหมาเหงา เกิดความเครียด และอาจส่งผลให้น้องหมาเกิดพฤติกรรมก้าวร้าว กัดข้าวของเพื่อเรียกร้องความสนใจก็เป็นได้ค่ะ และนอกเหนือจากการให้ความรักกับน้องหมาอย่างเต็มที่แล้ว การพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก ๆ 6 เดือนก็เป็นสิ่งที่เจ้าของทุกคนต้องไม่ลืมค่ะ เพราะการหมั่นพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะทำให้เรารับมือกับอาการเจ็บป่วย โรคต่าง ๆ ของน้องหมาได้ทัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้น้องหมาหายป่วย และมีอายุที่ยืนยาวมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ อ่านเพิ่มเติมในบทความ 4 วิธีที่ทำให้สุนัขมีสุขภาพดี ฟิต & เฟิร์มตลอดไป  เปิดความลับ! 4 เทคนิคเลี้ยงน้องหมาอย่างไรให้ซื่อสัตย์ นิสัยดี
 

ชมคลิป

3. ปลูกฝังลูกหลานให้รักสุนัขตั้งแต่เด็ก

        นอกเหนือจากในหลวงรัชกาลที่ 9 จะทรงมีพระเมตตา มอบความรับให้กับสุนัขแล้ว พระองค์ก็ยังทรงปลูกฝังให้พระราชโอรส พระราชธิดาของพระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อสุนัขตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์เช่นเดียวกัน โดยพระองค์ทรงพระราชทานสุนัขทรงเลี้ยงแด่สมเด็จพระเทพฯ คือ คุณแป๊ะฮวยอิ้ว ซึ่งเป็นลูกของ หลวงแจ่ม สุนัขทรงเลี้ยงของในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชโอรส พระราชธิดา รวมถึงพระราชนัดดาแต่ละพระองค์ต่างก็มีสุนัขทรงเลี้ยงหลากหลายสายพันธุ์ ตัวอย่างเช่น ปอมเมอเรเนียน , อลาสกัน มาลามิวท์ , โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ , ไซบีเรียน ฮัสกี้ ฯลฯ และในบางครั้งสุนัขทรงเลี้ยงก็ได้ตามเสด็จไปในสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงทรงมีพระปณิธานดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงก่อตั้งกองทุน โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือสัตว์ป่วยอีกด้วย

        ดังนั้น เพื่อเป็นการตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อน ๆ คนรักสุนัขก็สามารถปลูกฝังลูกหลานให้รักสัตว์ได้เช่นเดียวกันค่ะ โดยการให้เด็ก ๆ ใช้เวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันกับสุนัข เช่น ให้ทำความรู้จัก อุ้มสุนัข เล่นปาลูกบอล พาวิ่งออกกำลังกาย ฯลฯ  … มีงานวิจัยที่ศึกษาพบว่า การเลี้ยงทารกหรือเด็กให้อยู่ร่วมกันกับสุนัขจะทำให้เด็กสามารถพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันได้ดี เพราะเด็กจะมีโอกาสได้สัมผัสเชื้อโรคและการติดเชื้อได้มากกว่าปกติ ร่างกายของเด็กจึงมีโอกาสสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคภูมิแพ้ได้ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้มีสัตว์เลี้ยงอยู่ภายในบ้าน และการมีสุนัขจะช่วยปลูกฝังเรื่องความรักสัตว์ให้เด็ก ทั้งยังทำให้เด็กมีจิตใจที่อ่อนโยนขึ้นอีกด้วยค่ะ

 

     
4. แบ่งปันความรักให้สุนัขตัวอื่น ๆ

 

      ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นกษัตริย์ผู้เปี่ยมล้นไปด้วยพระเมตตากับสุนัขทรงเลี้ยงของพระองค์แล้ว พระองค์ก็ทรงเป็นแบบอย่างของการแบ่งปันที่แผ่มาถึงสุนัขและสัตว์ป่วยที่ยากไร้ พระองค์ทรงเป็นห่วงสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ เห็นได้จากสิ่งที่พระองค์ทรงพระราชทานไว้เพื่อสุนัขและสัตว์ป่วยมากมาย เช่น ทรงพระราชทานเครื่องมือแพทย์แก่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน , พระราชทานกองทุนรักษาพยาบาลสัตว์ป่วยอนาถา , พระราชทานสระธาราบำบัด “สุวรรณชาด” เพื่อใช้สำหรับการรักษาแบบธาราบำบัดกับสุนัขที่ป่วยด้วยโรคข้อ กระดูกและโรคระบบประสาท , พระราชทานพื้นที่ของโครงการพัฒนาส่วนพระองค์สะพานสูง เพื่อจัดตั้งจัดตั้งโรงพยาบาลสัตว์ , ก่อตั้งศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน โครงการในพระราชดำริเพื่อช่วยเหลือสุนัขจรจัด ฯลฯ อ่านเพิ่มเติมในบทความ สายธารพระเมตตาของในหลวง ร.9 ที่มียังสุนัขและสัตว์ป่วย


    ซึ่งเราเองก็สามารถเดินตามรอยรอยเบื้องพระยุคลบาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ นอกเหนือจากการดูแลสุนัขของตัวเองให้มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง ก็คือการเลี้ยงสุนัขอย่างมีความรับผิดชอบ , ไม่เบียดเบียนหรือทำร้ายสัตว์ , ช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ด้วยการรับเลี้ยงสุนัขจรจัด , แบ่งปันอาหาร , ทำบุญกับองค์กรช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ , อุดหนุนสินค้าของโครงการและองค์กรช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่แสวงผลกำไรต่าง ๆ หรือถ้าหากไม่มีกำลังทรัพย์ในการบริจาคเงินและอาหาร เมื่อเห็นข่าวช่วยเหลือสุนัขบาดเจ็บ สุนัขที่ต้องการเลือดสำหรับผ่าตัดในโลกออนไลน์ ก็ช่วยกระจายข่าวเพื่อเพิ่มโอกาสให้สุนัขรอดชีวิตได้ค่ะ