เมื่อมีลูกสุนัขตัวใหม่เข้ามาในครอบครัว หลายคนก็อาจจะเลี้ยงน้องหมาแบบปล่อยให้น้องหมาอยู่อย่างอิสระ แค่พาน้องหมาออกไปวิ่งเล่น วางอาหารเอาไว้ให้น้องหมากินอาหารได้ตามใจชอบ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ... การเลี้ยงน้องหมาในรูปแบบนี้ไม่ใช่วิธีที่ผิดนะคะ แต่ในระยะยาวแล้วการปล่อยให้น้องหมาอยู่อย่างอิสระมากเกินไปก็อาจจะทำให้น้องหมาเติบโตอย่างไม่รู้จักกฏระเบียบ ทำให้ฝึกฝนทักษะหรือคำสั่งต่าง ๆ ได้ยาก ซึ่งอาจสร้างปัญหาที่น่าปวดหัวในอนาคตได้เลยค่ะ

   เทคนิคการเลี้ยงการดูแลน้องหมา ในวันนี้ ปังปอนด์ก็เลยจะพาเพื่อน ๆ มาลองปรับวิธีการเลี้ยง ทำ Dog Routine Schedule หรือตารางการเลี้ยงน้องหมากันค่ะ จะมีอะไรบ้าง เราไปติดตามดูกันเลย ...
 

     บอกเลยค่ะว่า จริง ๆ แล้วการเลี้ยงน้องหมาเราควรมีแบบแผนและควรทำ Dog Routine Schedule หรือตารางเวลาการเลี้ยงน้องหมาตั้งแต่น้องหมายังเป็นเด็กเพื่อให้น้องหมาซึมซับและเรียนรู้กิจวัตรประจำวันของตัวเอง รวมทั้งเป็นแนวทางสำคัญให้สมาชิกในครอบครัวเลี้ยงน้องหมาไปในทิศทางเดียวกัน เหมือนเป็นกฏการเลี้ยงน้องหมาประจำบ้านเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องหมาแสนรักของเรานั่นเองค่ะ

     โดยสิ่งสำคัญในการทำ Dog Routine Schedule หรือตารางเวลาการเลี้ยงน้องหมา ไม่ว่าน้องหมาจะอยู่ในช่วงวัยไหนจะแบ่งออกมาได้เป็น 4 ข้อใหญ่ ๆ ที่ควรอยู่ในช่องตารางการเลี้ยง ซึ่งมีดังนี้ค่ะ

 

1.การให้อาหาร

 

      สุขภาพที่ดีจากภายในเริ่มต้นจากอาหาร ดังนั้น การทำตารางการเลี้ยงน้องหมาเรื่องการให้อาหารกับน้องหมาถือเป็นสิ่งสำคัญข้อแรกเลยค่ะ ... ในหนึ่งวันเราต้องคำนวณความต้องการอาหารของสุนัขแต่ละตัวแล้วแบ่งเป็นมื้อ ๆ ให้กับเค้าค่ะ อย่างในลูกสุนัขจะหิวและกินบ่อย ย่อยเร็วกว่าสุนัขโตเต็มวัย เราก็ควรจะต้องแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ ประมาณ 2-3 ครั้งต่อวัน โดยอาจจะแบ่งช่วงเวลาในตารางเป็นช่วงเวลาเช้า (7.00 น.) กลางวัน (12.00 น.) และเย็น (17.00-18.00 น.) โดยทุกวันเราจะต้องให้อาหารในเวลาเดิมทุกครั้ง และทำตามตารางเวลานี้สำหรับ 3 - 4 เดือนแรกในลูกสุนัข จากนั้นจึงค่อย ๆ สลับไปให้นม 2 ครั้งต่อวัน ยกเว้นกรณีที่สัตว์แพทย์อยากให้อาหารกับลูกสุนัขอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกสุนัขแต่ละตัวค่ะ

      แต่สำหรับน้องหมาโตเต็มวัยควรจัดตารางการให้อาหารเป็น 1-2 มื้อต่อวัน ในช่วงเวลาเดิมเช่นกันแต่ไม่จำเป็นต้องกินอาหารครบ 3 มื้อเท่ากับมนุษย์เราค่ะ นอกจากนี้แล้วยังต้องดูเรื่องของการให้น้ำ เช็กการทำความสะอาดชามอาหาร ชามน้ำของน้องหมาเป็นประจำเพื่อสุขอนามัยที่ดีด้วยนะคะ

     ... การสร้างกิจวัตรประจำวันเรื่องการให้อาหารเป็นสิ่งสำคัญเพราะนอกจากจะทำให้น้องหมารู้เวลากินอาหารแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายของน้องหมาเป็นปกติ ย่อยอาหารได้ตรงตามเวลา ทำให้น้องหมามีสุขภาพร่างกายที่ดี รวมถึงอารมณ์ดีเพราะได้กินอาหารตรงเวลาด้วยค่ะ
 

2.การขับถ่าย

 

    เรื่องการขับถ่ายก็เป็นอีกหนึ่งข้อจำเป็นที่เพื่อน ๆ ต้องจัดให้อยู่ในตารางนะคะ โดยเฉพาะในลูกสุนัขการฝึกให้น้องหมารู้จักขับถ่ายอย่างถูกที่ถูกทางและถูกเวลา ถือเป็นการฝึกวินัยขั้นพื้นฐานอย่างหนึ่งเลยค่ะ ... โดยเราควรเริ่มฝึกให้ลูกสุนัขขับถ่ายตั้งแต่สุนัขอายุ 1-2 เดือน เพราะเขาจะสามารถจดจำได้ง่าย สำหรับผู้เลี้ยงที่ไม่ต้องการให้สุนัขขับถ่ายเลอะเทอะภายในบ้าน การฝึกก็สามารถเริ่มได้ง่าย ๆ จากการที่เราจะต้องนำลูกสุนัขออกไปขับถ่าย (ทั้งหนักและเบา) ข้างนอกบ่อย ๆ โดยให้ผู้เลี้ยงอาจจะกำหนดเวลาในการพาลูกสุนัขออกไปขับถ่าย เช่น เวลาหลังจากตื่นนอน หลังการเล่น และหลังการกินอาหาร 15 - 30 นาที ฝึกน้องหมาไปขับถ่ายในเวลาเดิม ๆ ก็จะช่วยให้น้องหมาไม่ขับถ่ายเรี่ยราด หรือป้องกันน้องหมาขับถ่ายไม่เป็นที่ได้ค่ะ แต่ในกรณีที่วันไหนน้องหมากินน้ำ หรือนมเยอะ วันนั้นน้องหมาก็อาจจะอยากขับถ่ายบ่อยและถี่ขึ้น ก็ต้องคอยสังเกตดูพาน้องหมาออกไปขับถ่ายเป็นกรณีไปค่ะ

     สำหรับน้องหมาโตเต็มวัย พวกเขาอาจจะไม่ได้ขับถ่ายบ่อยเท่ากับลูกสุนัข แต่อาจจะต้องการขับถ่ายเป็นช่วงเวลา เช้าและเย็น ดังนั้น เพื่อน ๆ ก็อาจจะจัดตารางการพาน้องหมาออกไปขับถ่ายเป็น 2 ช่วง โดยกำหนดเวลาเอาไว้ เช่น พาน้องหมาออกไปขับถ่ายในช่วงเช้า 8.00 น. และช่วงเย็น 17.00 น. หรืออาจจะพาน้องหมาออกไปขับถ่ายเป็นกรณีพิเศษ ในวันที่น้องหมากินอาหารมื้อใหญ่เข้าไปก็ได้ค่ะ

 

3.การฝึกทักษะ/ออกกำลังกาย

 

       สำหรับช่วงเวลาของการฝึกทักษะและการออกกำลังกายทั้งลูกสุนัข สุนัขโตเต็มวัย และสุนัขสูงวัย เราควรแบ่งตารางเวลาออกเป็น 2 ช่วงค่ะ คือช่วงเช้าประมาณ 6 -7 โมงเช้า และช่วงเย็นหลังพระอาทิตย์ตก โดยการออกกำลังกายของน้องหมาแต่ละช่วงวัยจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเราจะต้องดูตามความเหมาะสมของสภาพร่างกายของน้องหมาแต่ละตัวค่ะ

      การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับลูกสุนัข ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เยอะค่ะ โดยเราควรเริ่มพาน้องหมาออกกำลังกายตั้งแต่ยังเล็ก ใส่สายจูงพาเดินและวิ่งเล่น ครั้งละไม่เกิน 10-15 นาที โดยจะต้องอยู่ในการควบคุมของผู้เลี้ยงตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย และอาจเริ่มฝึกทักษะขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ในช่วงอายุ 4 เดือนขึ้นไปเพื่อให้น้องหมามีสมาธิ สงบ และรู้จักการความคุมอารมณ์ เช่น ฝึกให้น้องหมารู้จักฟังคำสั่งง่าย ๆ อย่างการคอย นั่ง สวัสดี ฯ โดยทุกครั้งที่น้องหมาทำตามคำสั่ง ผู้เลี้ยงก็ควรแสดงความรักโดยการลูบหัว เกาตัว ชมเชยหรือให้ขนมชิ้นเล็ก ๆ เป็นรางวัล เพื่อให้น้องหมารู้สึกดีกับการฝึกทักษะค่ะ

      ส่วนการออกกำลังกายในน้องหมาโตเต็มวัย ซึ่งเป็นวัยที่กำลังก้าวข้ามจากวัยเด็กเข้าสู่วัยรุ่นอย่างเต็มตัวจะมีพลังงานสูง ตื่นตัว และซุกซน การออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับช่วยวัยนี้จึงมีวิธีที่ค่อนข้างหลากหลาย เช่น การวิ่งหรือเดินอย่างอิสระ ที่จะช่วยทำให้น้องหมามีกระดูกที่แข็งแรง การว่ายน้ำ ที่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อขาและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายซึ่งจะช่วยชะลอการเกิดโรคกระดูกและข้ออักเสบ การกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เพื่อฝึกสปริงตัวเพราะน้องหมาจะใช้สะโพกเป็นแรงในการกระโดด (แต่ก็ควรระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุด้วยนะคะ) เล่นชักเย่อ เพื่อฝึกความแข่งแรงของช่วงกราม การเล่นเก็บลูกบอล จานร่อน หรือ ของเล่นฝึกทักษะในด้านต่าง ๆ ฯลฯ ซึ่งการออกกำลังกายด้วยวิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่เหมาะกับลักษณะทางกายภาพและพฤติกรรมของน้องหมาที่จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดีค่ะ

    ในน้องหมาสูงวัยที่มีอายุ 5-6 ปีขึ้นไป เป็นช่วงวัยที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในระหว่างวันน้อยลงกว่าช่วงเป็นวัยรุ่น จึงทำให้การเผาผลาญพลังงานของร่างกายลดลงไปด้วย ผู้เลี้ยงจึงต้องหมั่นพาน้องหมาสูงวัยที่ส่วนมากมักจะมีปัญหาเรื่องโรคกระดูกและข้อเสื่อมไปออกกำลังกายเพื่อป้องกันโรคอ้วนที่จะส่งผลต่อการแบกรับน้ำหนักของกระดูกและข้อต่อ โดยการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับน้องหมาสูงวัยจะเป็นการออกกำลังกายแบบเบา ๆ ที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น ว่ายน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง วิ่งช้า ๆ บนพื้นสนามหญ้าที่มีความอ่อนนุ่ม เดินออกกำลังกายในสวนสาธารณะในระยะทางสั้น ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ ได้สัดส่วนแข็งแรงขึ้น อาจหาเกมส์ให้น้องหมาเล่น หรืออาจจะใช้วิธีเรียกและสั่งคำสั่งเพื่อเป็นการกระตุ้นความจำให้สมองได้ทำงาน และควรระวังอย่าให้น้องหมาออกกำลังกายมากเกินไป รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการให้น้องหมาวิ่งบนพื้นที่มีความแข็งหรือลื่น เช่น พื้นกระเบื้อง พื้นปูนซีเมนต์ เพราะอาจจะส่งผลต่อการทิ้งน้ำหนักตัว ซึ่งจะกระทบต่อกระดูกและข้อให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้นได้ค่ะ
 

4.การให้ของเล่น/ขนม

 

    ในระหว่างมื้ออาหาร เพื่อน ๆ อาจจะจัดสรรเวลาให้น้องหมาได้รับของเล่น หรือขนมเล็กน้อยเป็นอาหารว่าง ซึ่งการให้ของเล่นจะช่วยให้น้องหมารู้สึกผ่อนคลาย คลายความตึงเครียดระหว่างวัน อาจจะหาของเล่นชนิดต่าง ๆ ที่เสริมสร้างพัฒนาการทางสมองให้น้องหมาเล่น เล่นของเล่นที่สามารถใส่ขนมไว้ข้างในให้น้องหมาได้คิดหาวิธีนำขนมออกมาจากของเล่น หรือการให้ขนมก็อาจจะเลือกให้ขนมที่น้องหมาชอบ ในปริมาณที่พอเหมาะไม่มากหรือน้อยจนเกินไป และอาจจะเลือกเป็นขนมที่ช่วยเรื่องการขัดฟันเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีก็ได้ค่ะ 

      โดยวันจันทร์ถึงศุกร์อาจจะให้ขนม หรือของเล่นที่สลับสับเปลี่ยนกันไปเพื่อความไม่น่าเบื่อ หรืออาจจะใช้วิธีทำขนม หรือ ของเล่นจากสิ่งของเหลือใช้  DIY ให้น้องหมาด้วยตัวเองก็ได้ ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถหาไอเดียทำขนม ของเล่น DIY ได้จาคอลัมน์ ไอเดียน้องหมา ก็ได้ค่ะ



    การทำ Dog Routine Schedule ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเลยค่ะ ถ้าใครอยากจะดูแลน้องหมา อยากให้น้องหมามีระเบียบวินัย ก็แค่ทำตารางการดูแลให้ละเอียดขึ้นมาหน่อย ส่วนใครที่อยากจะทำเป็นตารางง่าย ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะว่า Dog Routine Schedule นี้จะเป็นแนวทางสำคัญให้สมาชิกในครอบครัวเลี้ยงน้องหมาไปในทิศทางเดียวกัน เหมือนเป็นกฏการเลี้ยงน้องหมาประจำบ้านเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องหมาแสนรักของเรานั่นเองค่ะ อาจจะพิมพ์ Dog Routine Schedule ของน้องหมาใส่ตารางแล้วปริ้นท์ออกมาแปะไว้ที่ประตูเพื่อให้ทุกคนในบ้านได้เห็นก็ได้ค่ะ



ตัวอย่าง Dog Routine Schedule

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/

ภาพประกอบจาก :
http://www.wikihow.com/Make-a-Routine-for-Your-Dog
http://www.petplace.com/article/dogs/keeping-your-dog-healthy/puppy-care/ideal-daily-schedule-for-dogs-and-puppies
https://www.cesarsway.com/dog-care/puppies/how-to-create-a-puppy-schedule