หลังจากทำความเข้าใจเรื่องการเลี้ยงน้องหมากับเด็กไปในบทความก่อน 'มีลูกไม่ทิ้งหมา' ... เลี้ยงลูกก็เลี้ยงหมาได้ แถมมีผลดีกับเด็ก ๆ ด้วย ซึ่งช่วยให้หลายๆคนหายสงสัยและมีความมั่นใจมากขึ้นกันไปแล้ว ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำวิธีเลี้ยงน้องหมากับเด็กอย่างไรให้มีความสุขสุด ๆ กันค่ะ นอกจากน้องหมาจะได้ออกกำลังกายและฝึกสมองแล้ว พัฒนการของเด็ก ๆ ก็เติบโตสมวัยอีกด้วยค่ะ

     อย่างที่บอกไปแล้วนะคะว่า น้องหมาสามารถอยู่ร่วมกับเด็ก ๆ ได้ เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมวางแผนให้ดี และเตรียมตัวน้องหมาให้พร้อมต้อนรับเจ้าตัวน้อย โดยสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือเรื่องของสุขภาพ ความสะอาดของน้องหมา และเรื่องพฤติกรรมของน้องหมาเป็นหลักค่ะ โดยระยะเวลา 4 เดือนแรกของเด็ก ๆ เกิด เจ้าของควรเริ่มฝึกให้น้องหมารู้จักคุ้นเคยกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เขาจะต้องเจอเมื่อเจ้าตัวน้อยเกิดมา โดยอาจสร้างความคุ้นเคยด้วยการให้น้องหมารู้จักกับเสียงเด็กร้อง อาจจะเปิดจากในยูทูปก็ได้ สังเกตปฏิกิริยาว่าน้องหมามีท่าทียังไง จำลองการเลี้ยงเด็กทารกโดยใช้ตุ๊กตา โดยเจ้าของอาจจะให้รางวัลเมื่อน้องหมามีท่าทีสงบนิ่งไม่ก้าวร้าวเพื่อช่วยให้น้องหมาเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับสมาชิกใหม่ในอนาคตได้ง่ายขึ้นค่ะ

     ส่วนการเตรียมพร้อมหลังจากที่เจ้าตัวน้อยเกิดมาแล้วนั้น วันนี้ Dogilike ก็แบ่งขั้นตอนการเตรียมตัวออกเป็น 4 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
 

STEP 1 เด็กวัยแรกเกิดถึง 1 ปี

          ในช่วง 0-3 เดือนแรก เวลานอนควรแยกลูกน้อยออกจากน้องหมาก่อนนะคะ ยังไม่ควรให้นอนรวมกันเพราะช่วงเวลานี้เด็กยังไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีเท่าที่ควร ควรให้เขาใกล้ชิดสนิทสนมกันหลังจาก 3 เดือนเป็นต้นไปจะดีที่สุดค่ะ

          เด็กวัยแรกเกิดถึง 1 ปี ที่เป็นวัยที่กำลังมีพัฒนาการทั้งด้านต่าง ๆ อย่างรวดเร็วทั้งพัฒนาการทางร่างกาย พัฒนาการทางสติปัญญาและภาษา และพัฒนาการด้านสังคม ความประทับใจแรกระหว่างน้องหมากับสมาชิกใหม่นั่นก็คือลูกน้อยเป็นเรื่องสำคัญนะคะ ตอนอุ้มลูกอยู่เราอาจจะรู้สึกกังวลเพราะความเป็นห่วงลูก ซึ่งน้องหมาจะรับรู้ความรู้สึกนั้นของเราได้ จะรู้สึกว่าลูกเป็นอันตรายสำหรับเรา ดังนั้นเราอาจจะให้คนอื่นๆในครอบครัวช่วยหักเหความสนใจของน้องหมาไปก่อน ชมและให้รางวัลตามปกติ แล้วค่อยๆ ปล่อยให้น้องหมาสำรวจ ดมกลิ่นตัวของลูกน้อย เราควรพูดกับน้องหมา ด้วยเสียงสงบมั่นคง เชิญชวนให้เข้าใกล้นะคะ ถ้าน้องหมาแสดงออกว่าผ่อนคลายและเป็นมิตร เราควรชมน้องหมาขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อ่อนโยนของเขาค่ะ


          เมื่อน้องหมาสงบนิ่งลง เราอาจจะนั่งอุ้มลูกน้อยโดยให้น้องหมานั่งอยู่ข้างๆ เพื่อปรับตัวและเรียนรู้ว่า การมีลูกน้อยอยู่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อตัวของน้องหมา การสอนให้น้องหมารู้สึกรักลูกของเราสามารถทำได้โดยการแสดงความรักให้แบบที่เคยเป็นมาเลยค่ะ เช่น ในขณะที่เรากำลังเลี้ยงลูกก็พูดคุยหรือสัมผัสน้องหมาด้วยมืออีกข้างหนึ่งก็ได้ เพื่อให้เขารู้ว่าเราก็ยังสนใจเขาอยู่เหมือนเดิมค่ะ หรืออาจสร้างความคุ้นเคยโดยการให้ดมกลิ่นเด็กจากมือเราก่อนก็ได้ค่ะ เพื่อบอกให้น้องหมารับรู้ว่า ลูกน้อยของเราก็เป็นนายของเขาอีกหนึ่งคน ที่สำคัญคือเราไม่ควรไปบังคับน้องหมานะคะ ควรให้เขาเกิดการยอมรับเอง

STEP 2 เด็กอายุ 1-3 ปี

          เป็นวัยทองแห่งการเรียนรู้ ความเฉลียวฉลาด และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เริ่มแสดงอารมณ์ มีความอยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งต่างๆรอบตัว การเลี้ยงสุนัขกับเด็กวัยนี้สามารถปล่อยให้ลูกน้อยได้มีโอกาสเล่นกับสุนัขแบบใกล้ชิดได้ค่ะ แต่เด็กอาจจะยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาจับคืออะไร ยังกะแรงจับไม่ถูก เราอาจจะต้องคอยดูแลคอยเตือน เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ในส่วนของกิจกรรม เราอาจจะสมมุติสถาการณ์ให้เด็กได้ใช้จินตนาการ ฝึกการสื่อสาร และพัฒนาความสัมพันธ์กับน้องหมาให้ดียิ่งขึ้นค่ะ

          หลังปล่อยให้ลูกน้อยเล่นกับน้องหมาเสร็จ ก็ควรพาไปล้างมือทุกครั้งนะคะ และหมั่นกวาดบ้าน เพื่อกำจัดเศษขนสุนัขที่หลุดร่วงออกมา ถูบ้านด้วยน้ำยาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อทุกวันเพื่อป้องกันไรฝุ่น และฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อยู่ตามพื้น และสำหรับบ้านที่เลี้ยงสุนัขไว้ภายในบ้าน ก็ควรกำจัดเห็บอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ด้วยค่ะ เพื่อสุขอนามัยที่ดีทั้งคนและน้องหมานะคะ

STEP 3 เด็กอายุ 3-6 ปี

          เด็กส่วนใหญ่ก็จะเข้าสู่ระบบการเรียนในชั้นอนุบาล ทำให้ได้เรียนรู้การช่วยเหลือตนเอง การอยู่ร่วมกับเพื่อนๆ และต้องเรียนรู้การห่างจากพ่อแม่และบ้านมากขึ้น เด็กในช่วงวัยนี้จะมีการพัฒนาการด้านภาษาอย่างรวดเร็ว ควรปลูกฝังเด็กให้รู้จักวิธีการเล่นกับน้องหมาที่ถูกต้องค่ะ สอนให้เค้าสื่อสารและเล่นกับน้องหมาอย่างเหมาะสม สอนให้เขาคุ้นเคยกับร่างกายของน้องหมา ตรงไหนที่ลูบแล้วสุนัขชอบ ไม่ไปยุ่งที่ที่ปลอดภัยของน้องหมาเพราะเป็นการรบกวน น้องหมาอาจเกิดความไม่สบายใจได้ค่ะ 

STEP 4 เด็กอายุ 6-12 ปี

          เป็นวัยแห่งการเตรียมพร้อมทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ถ้าเด็กได้รับสิ่งแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กทุกๆ ด้าน เด็กก็จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับประสบการณ์ใหม่หรือสิ่งแวดล้อมใหม่ได้อย่างราบรื่น เด็กในวัยนี้จะมีการเรียนรู้เพิ่มขึ้น เด็กจะเริ่มเรียนรู้ในสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวก่อนแล้วจึงค่อยเป็นประสบการณ์ไปหาสิ่งแวดล้อมที่อยู่ไกลตัวออกไปค่ะ 


          เราอาจพาลูกและน้องหมาไปเที่ยวท่ามกลางธรรมชาติ เช่น พาไปเดินเที่ยวตามสวนสาธารณะ เพื่อลูก จะได้พบปะผู้คนซึ่งจะช่วยฝึกการเข้าสังคม สร้างการรับรู้ที่ดีให้กับเขา และอาจจะหากิจกรรมต่างๆ ให้ทำร่วมกัน เช่น นำของเล่นหรือลูกบอลหลากสีให้ลูกน้อยได้โยนให้น้องหมาคาบเล่น และเมื่อน้องหมาคาบของเล่นกลับมาให้ ก็สอนให้ลูกน้อยพูดชื่นชมและมอบขนมเพื่อเป็นรางวัลกับน้องหมา เป็นการปลูกฝังให้ลูกรู้จักการให้ การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับสัตว์ พร้อมกับบอกให้ลูกรับรู้ว่าสุนัขคือส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัว ส่วนสุนัขก็ได้ออกกำลังกาย ได้พัฒนาสุขภาพและสมองเช่นเดียวกันค่ะ


          วิธีเลี้ยงน้องหมากับเด็กๆไม่ยากเกินไปใช่มั้ยคะ เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่เข้าใจธรรมชาติของน้องหมา เรียนรู้ช่วงวัยพัฒนาการของเด็กให้เติบโตอย่างเหมาะสม ใส่ใจและดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด เพียงเท่านี้น้องหมาและลูกน้อยของเราก็ อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและปลอดภัยแล้วค่ะ 

 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/



ข้อมูลอ้างอิง :
http://babyndogs.blogspot.com/p/blog-page.html
https://www.aspca.org/pet-care/dog-care/dogs-and-babies
http://www.rakluke.com/article/24/121/3148/พัฒนาการสำคัญของเด็กวัย-1-3-ปี
https://www.maerakluke.com/topics/2149
http://mcpswis.mcp.ac.th/html_edu/cgi-bin/mcp/main_php/print_informed.php?id_count_inform=17233

ภาพประกอบ :
https://animalfair.com/wp-content/uploads/2014/06/Golden-and-boy-in-sprinkler.jpg
https://media.nbcbayarea.com/images/1200*675/Puppy-Baby-GettyImages-557058867.jpg?ak=bc
http://momsavesmoolah.com/wp-content/uploads/2015/05/mom-baby-dog-jealous-family.jpg
https://klokanica.24sata.hr/media/img/11/93/35b662df8a2602cb9fa6.jpeg
http://www.bangkokbiznews.com/image/media/image/pr/2017/03/07/22731/750x422_22731_1488876522.jpg
http://4.bp.blogspot.com/-urUGO-l83UI/UXA0VYL8ciI/AAAAAAAAGBM/630Ect5Jbk8/s1600/Funny-Dogs-And-Babies-Best-Friends-Forever-2.jpg
http://www.drronsanimalhospitalsimivalley.com/blog/wp-content/uploads/2017/11/Kid-Playing-with-Dog.jpg