โดย: Candyx

18 เคล็ดลับการดูแล เมื่อในบ้านมีน้องหมาแมวตาบอด!

วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงตาบอดปลอดภัยและมีชีวิตที่มีความสุข...

22 มีนาคม 2564 · ชอบ  (0) · แสดงความคิดเห็น (0) · อ่าน (7,684)
72

SHARES


72 shares
  • น้องหมาน้องแมวตาบอดจะใช้ประสาทการดมกลิ่น การฟังและการสัมผัสแทนการใช้สายตา
     
  • ดูแลสัตว์เลี้ยงตาบอดไม่ใช่เรื่องยากเพียงแค่ต้องทำความเข้าใจ ใส่ใจและให้ความรัก ฝึกทักษะให้อยู่เสมอ

     เชื่อว่า แทบทุกบ้านจะต้องมีสมาชิกคนสำคัญเป็นน้องหมาน้องแมวสูงวัยอาศัยอยู่ ซึ่งน้อง ๆ ที่เข้าสู่ช่วงสูงวัยมักจะมีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง สายตาพร่ามัว หรือบางตัวก็มีอาการตาบอด และน้องหมาน้องแมวบางตัวก็อาจจะเกิดมาพร้อมกับความพิการทางสายตา แต่ไม่ว่าน้องหมาน้องแมวจะตาบอดได้อย่างไร พวกเค้าก็ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งแตกต่างจากน้องหมาน้องแมวที่มีสายตาปกติ

     เทคนิคการเลี้ยงการดูแลวันนี้ จะพาเพื่อน ๆ ไปเรียนรู้วิธีดูแลน้องหมาน้องแมวตาบอดเพื่อให้พวกเค้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ


 

Dogilike.com :: 18 เคล็ดลับการดูแล เมื่อในบ้านมีน้องหมาแมวตาบอด!
 


     โดยปกติแล้วน้องหมาน้องแมวที่มีดวงตาบอดสนิท จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวจากเสียงและการสัมผัส ซึ่งน้องหมาน้องแมวที่เกิดมาตาบอดตั้งแต่แรกเกิดจะสามารถเรียนรู้และปรับตัวได้ง่ายกว่าน้องหมาน้องแมวที่ตาบอดในตอนโต แต่เราก็สามารถดูแลและทำให้ชีวิตของพวกเค้าปกติได้เพียงแค่ต้องใส่ใจ ใช้เทคนิคต่าง ๆ รวมถึงฝึกทักษะพื้นฐาน ซึ่งมีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่เราสามารถทำได้ดังนี้ค่ะ

     18 เคล็ดลับการดูแลเมื่อในบ้านมีน้องหมาน้องแมวตาบอด


1.สร้างพื้นที่ปลอดภัย

     ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ ที่เราจะสร้างพื้นที่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยให้กับน้องหมา หรือน้องแมวที่ตาบอด โดยอาจจะหามุมใดมุมหนึ่งของบ้านที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก โล่ง ไม่มีสิ่งของวางเกะกะ

     "ควรหาที่นอนที่มีเบาะนุ่มขนาดใหญ่จะช่วยให้น้องหมาตาบอดนอนสบายมากขึ้น" ดร.แอมเบอร์ แอนเดอร์เซน สัตวแพทย์และผู้อำนวยการด้านการแพทย์และเจ้าของศูนย์การแพทย์ Redondo Veterinary Medical Center ในเรดอนโดบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำ


2.พูดคุยกับน้องหมา น้องแมวบ่อย ๆ

      การพูดคุยกับน้องหมาบ่อย ๆ จะช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นระหว่างเราและน้องหมา จะทำให้เค้าไว้ใจเรามากขึ้น ดังนั้น การพูดคุยกับสุนัขตาบอดเป็นประจำจึงมีความสำคัญมาก เสียงของเราจะสามารถช่วยให้เค้ารู้ว่า น้องหมาอยู่ที่ไหน การใช้เสียงพูดคุยกับน้องหมาจะช่วยดึงดูดความสนใจของน้องหมา ก่อนที่เราจะสัมผัสตัวเพื่อที่เราจะได้ไม่ทำให้น้องหมาตกใจ


3.ทำกิจวัตรที่สม่ำเสมอ

    ทำกิจวัตรประจำวันอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้น้องหมา น้องแมวสามารถจดจำรูปแบบการใช้ชีวิตของเจ้าของได้ รวมถึงการพาน้องหมา น้องแมวทำกิจวัตรร่วมกันเป็นประจำก็จะทำให้เค้าคุ้นเคย

    "การมีกิจวัตรประจำวันจะช่วยได้มาก ฉันพาน้องหมาไปที่สวนสาธารณะที่เดิมในเส้นทางเดิมเสมอ และเขาก็ชอบไปสวนสาธารณะมากๆ" Sarah Conner จากรัฐจอร์เจีย ซึ่งรับเลี้ยงสุนัขตาบอดชื่อ เจ้า Murphy กล่าว


4.บอกให้คนอื่นรู้ว่า สัตว์เลี้ยงของคุณตาบอด

      เพื่อทำให้ทุกคนรับรู้และระมัดระวังในการเข้าหาน้องหมาน้องแมวตาบอด แนะนำว่าให้ หาผ้าพันคอ หรือเสื้อกั๊กสำหรับสัตว์เลี้ยงพร้อมกับเขียนข้อความว่า I'm blind หรือ "หนูเป็นหมา หรือแมวตาบอด" เพื่อไว้ใช้สวมใส่เมื่อต้องออกไปพบเจอผู้คนจำนวนมากเพื่อให้คนอื่น ๆ เข้าหาน้องหมา น้องแมวอย่างช้า ๆ และปล่อยให้เค้าดมกลิ่นก่อน นอกจากนี้แนะนำให้ติดป้ายที่ปลอกคอหมาระบุว่า "ฉันตาบอด" เผื่ออุบัติเหตุพลัดหลงจะได้มีผู้พบเห็นและแจ้งข่าวกลับมาที่เจ้าของได้นะคะ


5.ใช้พรมนำทาง

       ในบ้านที่มีพื้นที่กว้างแนะนำว่า อาจจะหาพรมมาวางเป็นทางเดินให้กับน้องหมาน้องแมวที่มีปัญหาเรื่องสายตา ซึ่งพรมจะมีผิวสัมผัสที่แตกต่างจากกระเบื้องที่มีความลื่นและเย็น ทำให้พวกเค้าสามารถเรียนรู้พื้นผิวที่แตกต่างและจดจำได้

      ซึ่งการปูพรมเป็นทางเดินให้พวกเค้าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการหลงทาง หรือเดินผิดทางได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ


6.ตรวจสอบความปลอดภัยภายในบ้าน

     แนะนำให้สำรวจพื้นที่รอบ ๆ บ้านและดูว่า มีสิ่งของ หรือเฟอร์นิเจอร์อะไรบ้างที่น้องหมา น้องแมวอาจจะชน หรือมีสิ่งของจะสามารถตกลงมาทำให้เกิดอุบัติเหตุได้หรือไม่ แนะนำหากเฟอร์นิเจอร์ ตู้ โต๊ะต่าง ๆ มีมุมที่แข็ง หรือมีความแหลมคมก็อาจจะหาผ้ามาพัน หรือฟองน้ำมาบุเพื่อลดการกระแทกน้อง ๆ เดินมาชน
   
    อาจจะทำประตูสำหรับน้องหมาแมวเพื่อให้เค้าสามารถออกไปทำธุระส่วนตัวที่สวนได้ในช่วงเวลาที่เจ้าของไม่อยู่บ้านก็จะดีมาก ๆ เลยค่ะ

 

Dogilike.com :: 18 เคล็ดลับการดูแล เมื่อในบ้านมีน้องหมาแมวตาบอด!


7.วางอาหารและน้ำไว้ที่เดิมเสมอ

     เมื่อน้องหมา หรือน้องแมวของเพื่อน ๆ เรียนรู้แล้วว่า อาหารของเค้าอยู่ตรงตำแหน่งไหนของบ้านก็จะง่ายขึ้น เมื่อต้องกลับไปกินอาหารและน้ำ ดังนั้นควรวางชามอาหารและน้ำไว้ที่เดิมเสมอ

    หรือหากมีห้องน้ำน้องหมา กระบะทรายของน้องแมวตั้งไว้ภายในบ้านก็ แนะนำว่า อย่าเคลื่อนย้ายเพื่อให้แมวหาตำแหน่งได้ง่ายนะคะ


8.ใช้กลิ่นระหว่างทำกิจกรรม

      น้องหมาเป็นสัตว์ที่มีระบบประสาทรับกลิ่นที่ดีมาก เราจึงสามารถใช้กลิ่นมาใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น อาจจะนำขนมน้องหมามาถูบนของเล่นเพื่อให้มีกลิ่นติดอยู่ หรือใส่น้ำมันหอมระเหยที่ปลอดภัยสำหรับน้องหมาเพียงหนึ่งหยดบนของเล่นสุนัข ก่อนที่จะโยนออกไปเพื่อช่วยให้น้องหมาดมกลิ่นและตามหาของเล่นเจอ แนะนำว่า หากจะเล่นกับน้องหมาควรเลือกพื้นที่ที่เปิดโล่งและปลอดภัยสำหรับน้องหมาตาบอดเสมอ


9.ฝึกหมาแมวให้คุ้นเคยกับทางเดินในบ้าน

      ถ้าหากรับน้องหมา หรือน้องแมวตาบอดมาเลี้ยง แน่นอนว่า พวกเค้าอาจจะไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ทางเดินภายในบ้าน เราจึงต้องจูงพาพวกเค้าเดินไปรอบ ๆ เพื่อจะช่วยให้คุ้นเคยกับทางเดินและสามารถเดินในบ้านได้อย่างมั่นใจ และรู้สึกปลอดภัย


10.ใช้เครื่องให้น้ำอัตโนมัติ/น้ำพุ

       สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงตาบอด การใช้เครื่องให้น้ำอัตโนมัติที่มีน้ำไหลเวียนอยู่ตลอดเวลาจะเหมาะกับเค้ามาก ๆ เพราะน้ำพุจะมีเสียงดัง และเสียงน้ำไหลจะช่วยให้น้องหมา น้องแมวหาน้ำเจอได้ง่ายขึ้น แถมเสียงของน้ำไหลยังช่วยกระตุ้นให้กินน้ำมากขึ้นอีกด้วย


Dogilike.com :: 18 เคล็ดลับการดูแล เมื่อในบ้านมีน้องหมาแมวตาบอด!


11.สร้างบรรยากาศอบอุ่นด้วยเสียง

       ในช่วงเวลาที่เจ้าของไม่อยู่บ้าน อาจจะเปิดวิทยุ เครื่องเล่นเพลงเบา ๆ หรือเปิดโทรทัศน์เอาไว้เพื่อช่วยลดความรู้สึกเหงาเมื่อสัตว์เลี้ยงต้องอยู่บ้านเพียงลำพังได้ การมีเสียงต่าง ๆ ในบ้านจะช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและทำให้น้องหมา น้องแมวรู้สึกไม่ได้อยู่เพียงลำพังได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ


12.เลือกของเล่นที่มีเสียงดัง

      ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาที่มีสายตาปกติ หรือน้องหมาตาบอด พวกเค้าต่างก็รักที่จะเล่นของเล่นไม่ต่างกัน ดังนั้น ของเล่นที่เหมาะกับน้องหมาตาบอด ควรเป็นของเล่นที่มีเสียง หรือสามารถใส่ขนมไว้ข้างในได้ เพราะของเล่นที่มีเสียงจะช่วยให้น้องหมาหาเจอได้ง่ายขึ้น ขณะที่ของเล่นที่มีช่องเล็ก ๆ ให้ใส่ขนม จะทำให้น้องหมาดมกลิ่นและเล่นของเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน


13.สร้างเสียงรอบ ๆ บ้านของคุณ

       แนะนำให้ติดกระดิ่งเล็ก ๆ ที่มีเสียงไว้กับตัวเพื่อน ๆ อาจจะติดไว้กับพวงกุญแจ หรือรองเท้า รวมถึงติดกระดิ่งที่ปลอกคอของสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ เพื่อช่วยให้น้องหมาน้องแมวตาบอดได้ยินและรับรู้ว่า ตัวเรากำลังอยู่จุดไหนของบ้าน ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์จนกว่าพวกเค้าจะคุ้นเคยกับการฟังเสียงฝีเท้าและการสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหวรอบ ๆ ตัว


14.หลีกเลี่ยงการจัดเฟอร์นิเจอร์ใหม่

      เมื่อเพื่อน ๆ จัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องในแบบที่ปลอดภัยสำหรับน้องหมา หรือน้องแมวไว้แล้ว พยายามหลีกเลี่ยงการจัดเฟอร์นิเจอร์ หรือย้ายตำแหน่งใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมา น้องแมวเกิดอาการสับสน และเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้


15.ใช้แผ่นยางกันลื่นตามจุดต่าง ๆ

     วางแผ่นยางกันลื่น บริเวณที่มีพื้นผิวต่างระดับ ทางลาด หรือด้านล่างของขั้นบันได วิธีนี้จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงสามารถเรียนรู้พื้นผิวของจุดต่าง ๆ และระมัดระวังมากขึ้น


16.จัดวางสิ่งของให้เป็นระเบียบ

   ในบ้านที่มีน้องหมาน้องแมวสูงวัย หรือตาบอด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เลยนะคะ แนะนำว่า ให้จัดวางสิ่งของให้เป็นที่เป็นทาง หากมีสิ่งของวางตามพื้น หรือทางเดินก็ควรเก็บให้เรียบร้อย เพราะพวกเค้าอาจจะสะดุด ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะกับพื้นที่ที่พวกเค้าอยู่อาศัยเป็นประจำ ควรทำให้โล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยนะคะ


17.ลองใช้ตัวช่วยสำหรับสัตว์เลี้ยงตาบอด

    ปัจจุบันมีบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์พิเศษเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับกระดูกและข้อ อาการทางระบบประสาทที่ส่งผลต่อการยืนและเดิน รวมถึงอุปกรณ์ช่วยเหลืออื่น ๆ สำหรับสัตว์เลี้ยงตาบอด อย่างเช่น ห่วงกันชนสำหรับสัตว์เลี้ยงตาบอด เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงเดินชนสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเดินชนกำแพง เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งกีดขวางอื่น ๆ

     ซึ่งส่วนมากตัวห่วงทำจากลวดหุ้มด้วยฟองน้ำนุ่ม ๆ มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย และยังช่วยไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนตามเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย


18.ฝึกคำสั่งใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

     แนะนำให้เพื่อน ๆ สอนคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่สำคัญแก่น้องหมาและน้องแมว เช่น "ก้าวขึ้น" "ก้าวลง" "ซ้าย" "ขวา" "อันตราย" หรือ "หยุด" เพื่อช่วยให้เค้าสามารถเข้าใจความหมายเมื่ออยู่ในบ้านและนอกสถานจะได้ปลอดภัย ไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นนะคะ

     และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ อย่าลืมปฏิบัติต่อน้องหมา น้องแมวเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงแสนรักตัวอื่น ๆ ให้ความรักอย่างสม่ำเสมอเพราะนั่นคือสิ่งที่มาเป็นอันดับแรกและสำคัญที่สุดค่ะ
 

 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/

ข้อมูลและรูปภาพประกอบ

https://www.akc.org/expert-advice/health/how-to-help-a-blind-dog/
https://www.thesprucepets.com/living-with-a-blind-dog-4120134
https://www.care.com/c/stories/6299/17-tips-for-living-with-a-blind-dog/
https://www.thesprucepets.com/how-to-help-a-blind-cat-553892
https://www.petassure.com/new-newsletters/special-needs-living-with-a-blind-cat/