โดย: เว็บมาสเตอร์มะเหมี่ยว
"ปริทันต์" โรคร้ายที่(อาจ)เกิดในช่องปากสุนัข
ภัยจากโรคร้ายทีีเราอาจไม่ได้ระวัง
7 ธันวาคม 2554 · · อ่าน (45,729)
... หนึ่งสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกได้ถึงสุขภาพของน้องหมาก็คือ อาการผิดปกติในช่องปากค่ะ ... ถ้าหากน้องหมาของเพื่อนๆ มีกลิ่นปากเหม็นหรือมีเลือดออกที่เหงือกบ่อยๆ ล่ะก็ ทราบไว้เลยนะคะว่า นั่นคืออาการเริ่มต้นของโรคปริทนต์ค่ะ "โรคปริทันต์ (Periodontitis disease)" เป็นการอักเสบของเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่ยึดเหนี่ยวฟัน , เนื้อเยื่อของเหงือก , เอ็นที่ยึดเหงือกและฟัน , โพรงรากฟัน และเนื้อเยื้อคล้ายกระดูกที่คลุมรากฟันเพื่อช่วยยึดเกาะรากฟัน เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดในสุนัข สาเหตุเกิดจากแบคทีเรียที่สร้างพลากค์ (Plaque) เคลือบฟัน โรคปริทันต์เป็นสาเหตุในการสูญเสียฟัน เป็นเหมือนฆาตกรเงียบที่ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของฟันของสุนัข ส่วนใหญ่แล้วจะพบในสุนัขทุกวัยที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปและพบมากถึง 80 – 90% ของสุนัข ทั้งนี้ มีโรคหลายๆ โรคที่ทำให้มีอาการคล้ายโรคปริทนต์ เช่น - เหงือกอักเสบ (Gingivitis) เป็นการอักเสบของเหงือก และเป็นสาเหตุเริ่มต้นของโรคปริทันต์ได้ แต่โรคเหงือกอักเสบอาการการอักเสบจะไม่มากและลึกเท่าโรคปริทันต์ - ฝีที่รากฟัน (Periapical abscess) เป็นฝีที่อยู่รอบ ๆ โคนรากฟัน ทำให้ฟันแตกและเจ็บปวด - กรามหัก อาจเป็นสาเหตุเนื่องมาจากโรคปริทนต์ ฟันอักเสบ (Endodontic) อาการของโรคปริทันต์ในสุนัข คือ ปากเหม็น , มีเลือดออกที่เหงือก , ฟันร่วง , มีแผลในปาก , ฟันโยก , เหงือกร่น , เบื่ออาหาร สาเหตุของโรคปริทันต์เริ่มจากการมีเศษอาหารตามซอกฟัน ทำให้มีการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและแคลเซียมที่บริเวณฟันจนเกิดเป็นหินน้ำลาย และจากหินน้ำลายหากไม่มีการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีแล้วนั้นนานวันเข้าหินน้ำลายจะเกิดการก่อตัวเป็นหินปูน (calculus formation) เกาะตามฟันซี่ต่างๆ เมื่อเชื้อแบคทีเรียมากขึ้นจะส่งผลให้เนื้อเยื่อปริทันต์อักเสบ เกิดการทำลายเยื่อบุผิวฟันและเนื้อเยื่อรอบฟัน มีการอักเสบของเหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปาก รวมทั้งทำให้เกิดการสลายของกระดูกเบ้าฟันที่ยึดฟันอยู่ ในสุนัขที่มีการอักเสบของเนื้อเยื่อปริทันต์รุนแรงทำให้กรามหัก หรือเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสโลหิตทำให้ติดเชื้อในระบบอื่นของร่างกาย เช่น หัวใจ ตับ และไต ทำให้สัตว์เสียชีวิตได้ ซึ่งความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับชนิดและจำนวนของเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงสารที่เชื้อแบคทีเรียเหล่านี้สร้างออกมาด้วย ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าปัญหากลิ่นปากเพียงเล็กน้อยที่เจ้าของอาจละเลยกับสัตว์เลี้ยงของท่านอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่กระทบต่อสุขภาพโดยรวมของสัตว์เลี้ยงก็เป็นได้ ดังนั้นเราควรเริ่มมาสังเกตอาการที่บ่งบอกว่าสัตว์เลี้ยงของท่านน่าจะเริ่มมี สำหรับวิธีการตรวจวินิฉัยของสัตวแพทย์อาจทำโดย - ตรวจร่างกายและซักประวัติ โดยเฉพาะช่องปาก โดยเฉพาะตอนวางยาสลบ - ฉายภาพรังสีช่องปาก เพื่อดูความสมบูรณ์ของฟันและรากฟัน ดูขอบเหงือกว่ามีการร่นหรือไม่และดูการอักเสบของรากฟันและโพรงรากฟันอาจต้องวางยาในรายที่ต้องการทำประวัติของฟันอย่างละเอียด - โดยใช้โพรบ (Probe) ตรวจดูขอบเขตของเหงือก และ ตรวจว่ามีโพรงที่เหงือกหรือไม่ - ตรวจค่าเคมีในเลือด (Biochemical profile) - ตรวจนับเม็ดเลือด (CBC) - ตรวจปัสสาวะ (Urinalysis) - เพาะเชื้อแบคทีเรีย (Anaerobic culture) โดยเพาะหาเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ใช้ออกซิเจน ในรายที่เป็นเรื้อรังเพื่อหายาปฏิชีวนะที่เหมาะสม ทั้งนี้หลังจากการรักษาแล้วผู้เลี้ยงจะต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพในช่องปากของสุนัขด้วย โดยการทำความสะอาดฟันโดยแปรงฟันให้สุนัขทุกวันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพของฟัน อาหารที่ใช้ในการดูแลช่องปากบางชนิดช่วยได้เหมือนกัน เช่น อาหารเม็ดที่มีคุณสมบัติช่วยขัดหินปูนที่เกาะตามฟันสุนัข หรืออาจะเป็นยาสีฟันจะช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ควรพาสุนัขไปให้สัตวแพทย์ตรวจสุขภาพฟันทุก 3 – 6 เดือนด้วยค่ะ ส่วนใครที่ไม่อยากให้น้องหมาป่วยเป็นโรคนี้ล่ะก็วิธีป้องกันที่ดีที่สุดมีอยู่วิธีเดียวก็คือ การแปรงฟันด้วยยาสีฟันสำหรับสัตว์ และตรวจสุขภาพฟันทุก 3 – 6 เดือน ขูดหินปูนเป็นประจำเพื่อป้องกันฟันผุ ... สำหรับในอนาคตนั้นอาจมีวัคซีนป้องกันโรคนี้ค่ะ .... ถ้าใครไม่อยากให้น้องหมาป่วยล่ะก็ ต้องรีบดูแลสุขภาพช่องปากของเขาตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องหมาที่เรารักค่ะ ^^ บทความโดย: Dogilike.com ข้อมูลอ้างอิงบางส่วน: http://www.nobamahealthcare.org/th/dog-oral-and-dental-diseases-and-care.html http://www.vs.mahidol.ac.th/hospital/index.php/article/66-dog ภาพประกอบ: ภาพที่ 1 และ 3 โดย Dogilike.com ภาพที่2 http://www.facebook.com/pages/Suchi-chihuahua/208651935866336?sk=wall |
SHARES