ปีใหม่แล้วมาเริ่มเลี้ยงน้องหมาให้สุขภาพดีพร้อมกับประหยัดเงินในกระเป๋ากันแบบง่าย ๆ ดีกว่า ทำตามนี้เล้ยย …  

     ให้อาหารครบคุณค่า

     สุขภาพดีเริ่มต้นจากภายใน เลือกมอบอาหารที่มีคุณภาพให้กับน้องหมาตั้งแต่เด็กจะช่วยให้น้องหมามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และยังช่วยชะลอและบรรเทาการเกิดโรคต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย

     ทำหมันตั้งแต่เด็ก

     ถ้าไม่ได้วางแผนให้น้องหมามีลูกแนะนำให้พาไปทำหมันได้ตั้งแต่อายุ 4-6 เดือนขึ้นไป ซึ่งการทำหมันตั้งแต่อายุยังน้อย ขณะที่น้ำหนักตัวยังไม่มาก จะเสียค่าผ่าตัดทำหมันและค่าวางยาสลบถูกกว่า แถมการทำหมันยังช่วยส่งเสริมให้น้องหมามีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคที่เกิดจากฮอร์โมนเพศ และโรคที่ติดต่อทางการผสมพันธุ์ เช่น โรคมดลูกอักเสบติดเชื้อ โรคมะเร็งเต้านมในน้องหมาตัวเมีย โรคต่อมลูกหมากโตในน้องหมาตัว ฯลฯ ได้ด้วยน้า

     พาน้องหมาไปบริจาคเลือด

     ข้อนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริง ๆ ก็เพราะว่า ทุกครั้งก่อนที่น้องหมาจะบริจาคเลือด น้องหมาจะได้รับการตรวจเลือด และเช็กสุขภาพอย่างละเอียดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงบางครั้งก็อาจได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคแบบฟรี ๆ แถมอีกด้วย และถ้าพบผลเลือดผิดปกติ เจ้าของก็จะทราบทันที ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทำให้น้องหมาได้รับการรักษา และหายจากโรคได้เร็วขึ้น

     แปรงฟันให้น้องหมาตั้งแต่เด็ก

     ดูแลช่องปากของน้องหมาตั้งแต่น้องหมายังเด็ก ฝึกแปรงฟันทุกวันให้ชิน โดยเริ่มจากน้องหมาเริ่มโตเต็มวัยและเปลี่ยนชุดฟันเป็นฟันแท้ครบหมดแล้ว ให้ดูแลด้วยการให้น้ำยาขจัดคราบหินปูนสำหรับสุนัขผสมลงในน้ำให้น้องหมากินเป็นประจำก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดคราบหินปูนสะสม กำจัดกลิ่นปาก ให้ขนมขัดฟันตามความเหมาะสมจะช่วยลดการเป็นโรคเกี่ยวกับช่องปากและฟันได้ในอนาคต

     ตรวจสุขภาพทุก 6 เดือน

     ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาตัวเก่า หรือใหม่ก็หมั่นพาเค้าไปตรวจสุขภาพกับคุณหมอ ทุก ๆ  6 เดือน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามโปรแกรมสุขภาพ กำจัดเห็บหมัด เพราะการพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ ให้กับน้องหมา ช่วยป้องกันไม่ให้น้องหมาป่วย ซึ่งสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องการรักษาได้อีกทางเลยน้า

    พาฟิตออกกำลังกาย

     พาน้องหมาไปออกกำลังกายทุกวันเป็น 2 ช่วงเวลา เช้าและเย็นทุกวัน โดยน้องหมาแต่ละช่วงวัย วัยเด็ก น้องหมาโตเต็มวัย และน้องหมาสูงอายุ จะมีความต้องการรูปแบบการออกกำลังกายที่แตกต่างกัน อาจจะปรึกษาคุณหมอเพื่อจัดตารางการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมก่อนก็ได้น้า

 

 

บทความโดย: Dogilike.com
http://www.dogilike.com/