สด ใหม่ ฉับไว ข่าวหมาทุกเช้า ทุกวัน Dailydog กับปังปอนด์แสนซน ... คนรักน้องหมาที่พร้อมเสิร์ฟข่าวสด ข่าวร้อน เกาะกระแสโลกทุกเช้าก่อนใครเลยจ้า><"

     หวุดหวิดจริง ๆ สำหรับข่าวน้องหมาเช้านี้ เมื่อน้องหมาตัวหนึ่งถูกทิ้งในกองขยะ และเกือบตายเพราะสายพานบีบอัดขยะ แต่โชคดีที่น้องหมารอดชีวิตเพราะมีเจ้าหน้าที่คัดแยกขยะเห็นก่อน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป เราไปติดตามกันค่ะ ...
 

     เจ้า Gem ลูกสุนัขสายพันธุ์พูเดิ้ล อายุประมาณ 10 เดือนตัวนี้ รอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่คัดแยกขยะในซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่บังเอิญพบมันนอนอยู่บนสายพานขยะที่กำลังจะถูกคัดแยกเพื่อกำจัดทิ้ง ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่บอกว่า หากพวกเขาไม่ทันสังเกตเห็นและช่วยชีวิตมันเอาไว้ มันก็อาจจะถูกบีบอัดและนำไปฝังกลบพร้อมกับขยะกองจำนวนมหาศาล ซึ่งมันจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก ...
 
     “เราเห็นบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในกระเป๋า และรู้ว่ามันกำลังพยายามดิ้นเพื่อที่จะออกมาจากกระเป๋า” Gregory Foster เจ้าหน้าที่คัดแยกขยะ กล่าว
 

     “ทันทีที่เราพบว่า มีสิ่งมีชีวิตอยู่บนสายพาน เราก็รีบหยุดสายพานและเปิดดู ซึ่งเราก็ต้องตกใจเมื่อพบลูกสุนัขเนื้อตัวมอมแมมและได้รับบาดเจ็บ เราจึงโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากศูนย์ควบคุมสัตว์ให้มารับลูกสุนัขไปดูแลต่อ ซึ่งเราได้ตั้งชื่อให้มันว่า Gem หรืออัญมณีตัวน้อยที่มีค่าในกองขยะ” Gregory Foster เจ้าหน้าที่คัดแยกขยะ กล่าว
 

     สภาพภายนอกของมันดูสกปรก แทบจะมองไม่ออกว่ามันเป็นลูกสุนัขที่แสนน่ารักแม้แต่น้อย และร่างกายของมันก็ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเราพบบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณใบหู ขา และมันก็อยู่ในความกลัว สำหรับอาการบาดเจ็บของมัน ไม่มีใครรู้ว่ามันได้มาจากไหน แต่ที่แน่ชัดคือ มีคนจงใจนำมันมาทิ้งเอาไว้อย่างแน่นอน

     ตอนนี้ เจ้า Gem อยู่ในการดูแลของสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด ซึ่งสัตวแพทย์บอกว่า มันจะสามารถกลับมาแข็งแรงและน่ารักเหมือนเดิมในอีกไม่ช้า

     ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังพยายามติดตามหาเบาะแสผู้กระทำความผิดที่นำลูกสุนัขมาทิ้งเพื่อดำเนินคดีต่อไป ...
 

ชมคลิป

      เกือบไปแล้วจริง ๆ นะคะ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่คัดแยกขยะที่ช่วยชีวิตน้องหมาเอาไว้ และหลังจากนี้หวังว่าน้องหมาจะหายจากอาการบาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับผู้กระทำความผิดได้โดยเร็วนะคะ ><”

บทความโดย: Dogilike.com

ที่มา:
http://www.ktvu.com/
ภาพประกอบ:
http://www.ktvu.com/