สด ใหม่ ฉับไว ข่าวหมาทุกเช้า ทุกวัน Dailydog กับปังปอนด์แสนซน ... คนรักน้องหมาที่พร้อมเสิร์ฟข่าวสด ข่าวร้อน เกาะกระแสโลกทุกเช้าก่อนใครเลยจ้า><"

     ในทุกปีประเทศอังกฤษจะมีสุนัขถูกทิ้งเป็นจำนวนมากเนื่องจากเจ้าของสุนัขขาดความรับผิดชอบ ซึ่งในข่าวน้องหมาเช้านี้ก็เช่นกัน เมื่อพบลูกสุนัขถูกทิ้งอย่างโหดร้ายในเหมืองที่มีสภาพอากาศที่หนาวเย็น เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เราไปติดตามกันค่ะ ...
 

 
     เจ้า Jingle และ Bells สองสุนัขขี้เรื้อนวัย 12 สัปดาห์ ได้รับความช่วยเหลือจากพลเมืองดีที่บังเอิญพบพวกมันถูกทิ้งอย่างโหดร้ายอยู่บริเวณเหมืองแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองลีดส์ เขตเวสต์ยอร์กเชียร์ ประเทศอังกฤษ ในสภาพอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิติดลบ ซึ่งในตอนนี้มันได้ถูกนำตัวมาอยู่ในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Dogs Trust Centre ที่อบอุ่นเพื่อรักษาโรคและรอบ้านใหม่ที่พร้อมรับเลี้ยงมันตลอดไป ...

     “สุนัขทั้งสองตัวเป็นสุนัขที่น่ารักและเป็นมิตร แต่พวกมันกลับถูกทิ้งอย่างโหดร้ายท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น และที่น่าสงสารไปมากกว่านั้นคือ พวกมันทั้งสองตัวเหลือขนอยู่เพียงน้อยนิด ซึ่งไม่สามารถช่วยป้องกันความหนาวเย็นที่สร้างความทรมานกับร่างกายของพวกมันได้” Amanda Sands ผู้จัดการศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ กล่าว

 

     “ตอนนี้พวกมันเริ่มไว้ใจเจ้าหน้าที่ของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์แล้ว และหลังจากนี้ไปเราก็จะพยายามรักษาอาการของมัน และหาบ้านใหม่ที่พร้อมรับเลี้ยงและดูแลพวกมันทั้งสองตัวไปตลอดชีวิต” Amanda Sands ผู้จัดการศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ กล่าว

      ทุกปีจะมีสุนัขถูกเจ้าของนำมาทิ้งในสถานที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก เพราะเจ้าของสุนัขไม่มีศักยภาพและความรับผิดชอบในการเลี้ยงสุนัขที่มากพอ ซึ่งทางศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Dogs Trust Centre ที่มีทั้งหมด 18 แห่ง ก็จะทำหน้าที่ดูแลสุนัขถูกทิ้งเหล่านี้ โดยในแต่ละปีจะมีสุนัขที่เราต้องดูแลรวมทั้งหมดกว่า 16,000 ตัว และเราก็คิดว่า จำนวนสุนัขถูกทิ้งจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

     เป็นข่าวที่เพื่อน ๆ คนรักน้องหมาคงไม่อยากเห็นกันใช่ไหมคะ? ถ้าอย่างนั้นเราก็อย่าลืมที่จะเตือนผู้ที่กำลังคิดจะเลี้ยงน้องหมาให้ศึกษาข้อมูลสายพันธุ์และตรวจสอบความพร้อมของตัวเองก่อนตัดสินใจเลี้ยงน้องหมากันด้วยนะคะ เพราะการศึกษาข้อมูลสายพันธุ์และการตรวจสอบความพร้อมของผู้เลี้ยงจะช่วยลดปัญหาน้องหมาถูกทิ้งแบบในข่าวน้องหมาเช้านี้ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
 
 

บทความโดย: Dogilike.com

ที่มา:
http://www.dailymail.co.uk/

ภาพประกอบ:
http://www.dailymail.co.uk/