โดย: Britney
Review : คาเฟ่น้องหมา "Dog In Town" เที่ยวบ้านหมาน่ารักกลางซอยเอกมัย
เหงาใช่ไหม? ไปเที่ยวกับเราสิ แล้วมื้ออร่อยนี้จะเต็มไปด้วยความอบอุ่นจากแก๊งน้องหมาสุดฮาเฮ
5 สิงหาคม 2559 · · อ่าน (31,346)อย่างที่เราทราบกันดีนะคะว่า ช่วงปีที่ผ่านมากระแสของคาเฟ่น้องหมามาแรงมาก มีคาเฟ่น้องหมาเปิดตัวหลายแห่งมาก ๆ ทั้งในกรุงเทพ และในต่างจังหวัด เรียกว่าเลือกกันไม่ถูกเลยล่ะค่ะว่าจะไปที่ไหนก่อนดี ... แต่สำหรับคนรักน้องหมาที่ไม่ได้มีเวลามากนัก คาเฟ่น้องหมาที่อยู่ในเมืองใกล้บีทีเอสที่สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เวลาเยอะน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดใช่ไหมล่ะคะ ...
และวันนี้เพื่อเอาใจคนรักน้องหมาที่อยากหาเวลาไปนั่งชิลล์เล่นกับน้องหมา พร้อมกับกินอาหารอร่อย ๆ วันนี้ Dogilike Review วันนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปดื่มด่ำกับอาหารและเครื่องดื่มท่ามกลางฝูงหมาป่าและหมาแปลก ที่คาเฟ่ "Dog In Town" ที่ตั้งอยู่ที่ซอยเอกมัยค่ะ เดินทางง๊ายง่ายสะดวกสบายนั่งบีทีเอสมาลงสถานีเอกมัยปั๊บต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างนิดเดียวก็ถึงแล้วล่ะ!"
"Dog In Town" อบอุ่นเหมือนมาเล่นกับน้องหมาที่บ้านเพื่อน
แค่เพียงก้าวเท้าเข้าไปในร้าน น้องหมาก็จะกรูกันเข้ามาต้อนรับเลยล่ะค่ะ หลังจากปล่อยให้น้องหมาดมสำรวจตรวจกลิ่นเรียบร้อย เราก็ก็สามารถเลือกที่นั่งได้ตามสบายเลยค่ะ ซึ่งทางร้านก็มีให้เลือกนั่งได้หลายแบบตามความชอบของลูกค้าเลยค่ะ
โดยที่นั่งจะแบ่งเป็นโซนโซฟา หรือโซนที่เป็นที่นั่งสไตล์ญี่ปุ่น หรือจะเป็นโซนเคาน์เตอร์บาร์ก็เลือกได้เลือกได้ตามใจชอบเลยล่ะค่ะ แต่ไม่ว่าจะนั่งตรงไหน ก็จะได้บรรยากาศอบอุ่นที่ไม่ทิ้งความเก๋ตามสไตล์การตกแต่งที่เรียกว่า "โมเดิร์น ลอฟท์"
อย่างบนกำแพงก็จะปรากฏพูดซึ้งๆ ของคนดังที่เอ่ยถึงน้องหมาค่ะ
แม้ทั้งร้านจะเต็มไปด้วยน้องหมา แต่ก็เป็นร้านที่เงียบสงบมากค่ะ เพราะน้องหมาทุกตัวมารยาทดีมากจริงๆ
ฝันที่เป็นจริงของคนรักหมา สู่ร้านและบ้านอันอบอุ่นของน้องหมา
สำหรับวันนี้เราก็มีโอกาสได้พูดคุยกับ "คุณแมน ศิรเมศร์ ศิริศักดิ์ธนากุล" หนึ่งในเจ้าของร้านเล่าถึงจุดเริ่มต้นของ Dog In Town ให้เราฟังว่า"ไอเดียเริ่มจากพี่ชายกับผมอยากจะทำอะไรด้วยกันครับ เขาก็เสนอว่าเรามาทำโฮสเทลกันไหม แต่ผมบอกว่าอยากทำเป็นโฮสเทลของน้องหมามากกว่า และมีมุมกาแฟเล็ก ๆ เป็นที่นั่งพักผ่อนของเจ้าของด้วย จุดเริ่มต้น ๆ จริงก็คือ ผมรักหมาครับ ผมผูกพันกับน้องหมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะที่บ้านก็เลี้ยงครับ แต่ด้วยความที่ต้องไปอยู่โรงเรียนประจำเลยไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอน้องหมา เท่าไร จนตอนนี้เราพร้อมแล้ว ก็อยากเลี้ยงพวกเขาไปด้วย ทำงานไปด้วย พอได้ไอเดียจากพี่ชายบวกกับสิ่งที่ผมอยากทำ ไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นร้านอย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ"
คุณแมนเล่าให้ฟังว่าตอนเริ่มเปิดร้านใหม่ ๆ มีน้องหมาอยู่ไม่กี่ตัวค่ะ ตอนแรกก็จะมีแต่น้องๆ พันธุ์อลาสกันกับไซบีเรียน ฮัสกี้ที่คุณแมนเรียกว่าทีมหมาป่า แต่ตอนนี้ด้วยความที่ลูกค้าเยอะขึ้น ก็เลยเพิ่มประชากรน้องหมาในร้านให้มีมากขึ้น
และอย่างที่บอกไปแล้วในตอนต้นบทความนะคะว่า ทุกวันนี้มีคาเฟ่น้องหมาเกิดขึ้นเยอะมาก คุณแมนและพี่ชายก็เลยสร้างจุดเด่นน่ารัก ๆ ให้ Dog In Town ด้วยการแบ่งน้องหมาออกเป็นทีมค่ะ!!
มารู้จักน้องหมาประจำร้าน “ ทีมหมาป่า VS ทีมหมาแปลก” กับระดับความน่ารักที่ยอมกันไม่ได้
ว่าแล้วก็ไปทำความรู้จักกับน้องๆ กันเลย เริ่มที่ #ทีมหมาป่า ต้องขอแนะนำจ่าฝูงอย่าง ชิดลม พันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ ผู้มีความสุขุมและเป็นผู้นำสมกับตำแหน่งเลยค่ะ บางทีก็นำขอขนมก่อนเลย ^O^
ต่อมาคือ เพลินจิต พันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ ดำรงตำแหน่งทัพหน้าพ่วงด้วยหน่วยสอดแนม ที่จะวิ่งนำทุกคนไปรับแขกที่มาเยือนก่อนใคร
ปิดท้ายด้วยน้องเล็กของทีมอย่างอโศก ซามอยด์วัยเด็กตัว เล็กใจใหญ่ ที่ดูจะเตรียมท้าชิงตำแหน่งจ่าฝูงกับพี่ชิดลมซะแล้ว น้องอโศกนั้นแม้ตัวจะใหญ่ไม่เท่าพี่ๆ ทั้งสอง แต่เรื่องกำลังและความไวก็ไม่น้อยหน้าใครนะคร้าบ
พี่ชิดลม
น้องอโศก
มาที่ #ทีมหมาแปลก กันบ้าง คุณแมนบอกกับเราว่าน้องๆ ไม่ได้แปลกนะน้า แค่เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่ค่อยเคยเห็นทั่วๆ ไปในบ้านเราเท่านั้นเองค่ะ
ส่วนน้องนานา พันธุ์เวสตี้ เทอร์เรียร์ตัวนี้ก็จะเห่ารับเป็นลูกคู่กับอารีย์เลยค่ะ เวลาวิ่งไปสำรวจ หางสีขาวก็จะสั่นดุ๊กดิ๊ก น่ารักละลายใจค่ะ
ตามมาที่สุรศักดิ์ พันธุ์ชเนาเซอร์ แม้หน้าจะไปไกลเป็นลุงแล้ว แต่น้องยังเด็กอยู่นะคะ
และสุดท้ายน้องเล็ก คอร์กี้เด็กอย่างพร้อมพงษ์ที่ถ้า นอนแล้วจะหลับอย่างจริงจังค่ะ แม้จะได้ยินเสียงเห่าหรือได้กลิ่นของกินน้องก็จะไม่สนใจค่ะ เรียกว่านอนชาร์จแบตจริงๆ เลยเนอะแต่แบตเต็มเมื่อไหร่ แม้ขาจะสั้นกว่าใครแต่ก็วิ่งไวไม่แพ้พวกพี่ๆ ค่ะ
น้องนานา
สุรศักดิ์
หนูน้อยพร้อมพงษ์
หากเพื่อนๆ ลองสังเกตจากชื่อน้องหมาของร้านนี้จะได้รับการตั้งชื่อตามสถานีรถไฟฟ้าเลยค่ะ ซึ่งถือเป็นความครีเอทีฟสุดกิ๊บเก๋เพื่อให้เข้ากับคอนเซปต์ของชื่อร้าน "Dog In Town" นั่นเองค่ะ
ด้านหน้าของร้าน Dog In Town จะมีสนามหญ้าให้น้องๆ วิ่งเล่นด้วยค่ะ
น้องๆ จะมีเวลาเล่นสองรอบค่ะคือ ช่วงบ่ายสามโมงและช่วงประมาณห้าโมงนิดๆ หลังจากที่น้องๆ รับประทานอาหารเย็นและพักผ่อนค่ะ ซึ่งพอเริ่มเล่นจนเหนื่อยแล้ว น้องจะมารอทำตามุ้งมิ้งขอกลับเข้าไปตากแอร์ในร้านค่ะ
อ้อ แล้วบางทีก็จะมีเพื่อนๆ ของพวกเค้าแวะมาด้วย อย่างวันนี้ก็มีน้องหมาสายพันธุ์สแตนดาร์ดพูดเดิ้ลมาด้วยค่ะ
อิ่มอกอิ่มใจกับน้องหมา แล้วอย่าลืมมาอิ่มท้องกับอาหารจานเด็ด
เล่นกับน้องเหนื่อยแล้วใช่ไหม มานั่งรับประทานอาหารกับเราก่อนค่า ขอบอกเลยว่าแม้จะเป็นคาเฟ่หมา แต่ขอยืนยันเลยว่าอาหารของที่นี่ก็ถือเป็นไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ
โดยอาหารที่ร้านจะเน้นอาหารทานง่ายค่ะ ซึ่งวันนี้เราได้มีโอกาสลองชิมสองเมนูสุดพิเศษ คือ "Taro Cheese Burger" และ "สปาเก็ตตี้ผัดฉ่าซีฟู้ด" ค่ะ
เริ่มที่จานแรกกับเบอร์เกอร์สีสวย จานนี้ค่ะ เห็นไหมคะว่าตัวแป้งเบอร์เกอร์จานนี้มีสีม่วงอ่อน ๆ แตกต่างจากที่อื่น ซึ่งสีม่วงนี้ก็ได้มาจากเผือก ตามชื่อเมนูเลยค่ะ "Taro Cheese Burger"
อร่อยกับขนมปังหอมๆ และเนื้อรสชาติเข้มแต่กลมกล่อมและพอดีคำ คนรักชีสต้องเลิฟเพราะมีชีสจัดหนักวางอยู่บนผักกรีนโอ๊คสดฉ่ำและหัวหอมรส ชาติหวาน ทานคู่กับปาปริก้าฟรายส์ที่เผ็ดร้อนกำลังดีค่ะ อร่อยมาก แนะนำเลยว่าถ้ามาต้องลองชิมค่ะ
อีกหนึ่งจานเด็ด "สปาเก็ตตี้ผัดฉ่าซีฟู้ด" ที่ขนเครื่องมาทั้งทะเล ไม่ว่าจะเป็นกุ้งตัวใหญ่ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ขนาดยักษ์ และปลาหมึกหนุบหนับแสนอร่อย คลุกเค้ากับเส้นพาสต้าที่เหนียวนุ่มกำลังดี และเครื่องผัดฉ่าทั้งสมุนไพรและเครื่องเทศที่เข้มข้นจนต้องยอมใจค่ะ
สำหรับเครื่องดื่ม ร้านนี้ก็เอาใจคอกาแฟสุดๆ เพราะชงสดทุดแก้ว มีทั้งร้อน เย็น ปั่น และสามารถเพิ่มชอตได้ด้วยนะคะ นอกจากนี้ก็มีมิลค์เชค และสมูตตี้ผลไม้เอาใจสาวๆ ด้วยค่ะ
ส่วนคนชอบความซ่าบซ่าของโซดา ที่นี่ก็มีอิตาเลียนโซดาให้ลองหลากหลายรสชาติเลยค่ะ ซึ่งอิตาเลียนโซดาของที่นี่ก็มีเยลลี่มาให้ด้วยอย่างแก้วนี้ที่เราได้ลองชิม "บลูเลมอนสตรอว์เบอรี่เยลลี่โซดา" ค่ะ เมื่อความเปรี้ยวซ่าของบลูเลมอนโซดามาเจอกับความหวานหนุบหนับของสตรอว์เบอ รี่เยลลี่ก็เลยกลายเป็นความอร่อยที่ลงตัว เยลลี่สตรอว์เบอรี่เป็นรูปอุ้งเท้าน้องหมาด้วยนะคะ น่ารักสุดๆ ไปเลย
ส่วนคนรักชามาที่ร้านนี้ต้องห้ามพลาดค่ะ เพราะหากนั่งที่โต๊ะใกล้ๆ เคาน์เตอร์จะได้กลิ่นชาหอมยวนใจมากค่ะ เราเลยขอลองเมนูแนะนำอย่าง "Dog In Town Thai Tea" ชาไทยรสเข้มข้นเย็นชื่นใจที่เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลาหอมละมุน ซึ่งถ้านั่งเพลินๆ ก็จะเผลอสั่งเพลินๆ ไปสองแก้วได้เลยค่ะ
ส่วนใครชอบความสดใสต้องลองสั่งม็อกเทลของที่นี่ค่ะ ซึ่งจะมีกิมมิคน่ารักเพราะตั้งตามชื่อน้องหมา เช่น Chitlom Run Around, Ploenchit Play All Night
ซึ่งเพื่อนๆ เป็นแฟนคลับใครก็ลองสำรวจเมนูดูได้เลยค่ะ นอกจากอาหารและเครื่องดื่มก็มีเค้กด้วยค่ะ ซึ่งเค้กแต่ละชิ้นมีขนาดใหญ่น่าทานมากๆ อาทิ ดับเบิลช็อกโกแล็ต บราวนี่ที่เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม หรือใครชอบนมต้องลองฮอกไกโดเค้กค่ะ นอกจากเมนูที่เราเลือกมารีวิวแล้วก็ยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ ที่อยากให้ลองแวะมาชิมกันนะคะ
เล่นกับน้องหมาให้เต็มที่แต่อย่าลืมปฏิบัติตามกฎด้วยนะ
แต่จริงๆ แล้วกฏมีไว้เพื่ออนามัยและความปลอดภัยของทั้งน้องหมาและเรานั่นเองค่ะ
1. ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเล่นกับน้องหมาและก่อนรับประทานอาหาร
2. งดให้อาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดกับน้องหมา ยกเว้นขนมสุนัขของทางร้าน
3. อย่าปล่อยน้องหมาเข้าออกจากร้านก่อนได้รับอนุญาต
4. งดใช้เท้าเล่น และเล่นกับน้องด้วยความทะนุถนอม
5. ไม่อุ้มน้องขณะที่กำลังยืนอยู่ และไม่รบกวนหากน้องหมากำลังพักผ่อน
6. รบกวนเพื่อนๆไม่นำอาหารจากภายนอกเข้ามา และสั่งเครื่องดื่มหรืออาหารอย่างน้อย 1 ท่านต่อ 1 รายการค่ะ
อ่านเฉยๆ ไม่ต้องจำนะคะ ^^ เพราะเมื่อไปถึงที่ร้าน ที่ร้านก็จะมีกฎติดไว้ให้ทำความเข้าใจก่อนเข้าร้านอยู่แล้วค่ะ ส่วนเจลแอลกอฮอล์ก็จะมีวางอยู่ที่โต๊ะของทุกท่านอยู่แล้วค่ะ
หากเพื่อนๆ ยังไม่เคยพาน้องหมาไปคาเฟ่หมา บริทนีย์ก็ขอแนะนำให้เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ไปให้พร้อมนะคะ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร ขนม ปลอกคอกับสายจูง ชามใส่น้ำและอาหาร ถุงเก็บอุจจาระ ทิชชู่เปียก และน้องหมาที่พาไปนั้นควรจะเป็นน้องหมาที่ คุ้นเคยกับการเจอคนแปลกหน้าและน้องหมาตัวอื่นมาแล้วนะคะ จะได้ไม่เกิดความวุ่นวายหรือเกิดการปะทะกันขึ้นค่ะ
น้องหมาก็เหมือนเด็กๆ เนอะ เราต้องคอยดูเขาตลอดนะคะ อย่ามัวแต่เล่นกับน้องหมาในร้านหรือรับประทานอาหารจนเพลินจนไม่ได้ดูแลพวกเขานะคะ
ส่วนใครอยากเรียกความสนใจจากน้องหมาในร้าน แนะนำให้ซื้อขนมสำหรับสุนัขให้น้องทานค่ะ แค่แกะซองๆ หัวใจของน้องๆ ก็จะร่ำร้องมาหาเพื่อนๆ ทันที
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับรีวิวในวันนี้ ก็อยากให้ลองไปสัมผัสความน่ารักของน้องๆ ค่ะ หลังเลิกงาน หรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีเวลาก็ลองแวะมาที่ Dog In Town เดินทางสะดวกมาก อยู่กลางเมืองตามชื่อร้านค่ะ ไม่ไกลจาก BTS สถานีเอกมัยเลยค่ะ อาหารถูกปาก เครื่องดื่มอร่อย แถมยังมีหมาป่าหมาแปลกมารายล้อมนั่งเป็นเพื่อน บริทนีย์เชื่อว่าต้องเป็นมื้อที่สุดประทับใจแน่ๆ เลยค่ะ
สำหรับคราวหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวร้านไหน ก็มาติดตามกันได้ที่ DogIlike ได้เช่นเคยน้า ^O^
*******************************************************************
Dog In Town
เปิดบริการทุกวัน 11:00–21:00
(ร้านปิดบริการเฉพาะวันอังคารในสัปดาห์ที่ 3 ของทุกเดือนเพื่อตรวจสุขภาพน้องหมา)
ซอยเอกมัย 6 ใกล้บิ๊กซีเอกมัย
โทรศัพท์: 092 253 6066
Facebook: https://www.facebook.com/DogInTownCafe
บทความโดย : Dogilike.com
https://www.dogilike.com
https://www.dogilike.com
SHARES