กาญจนุบรี ชื่อนี้ใคร ๆ ก็หลงเสน่ห์ ... จังหวัดกาญจนบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่แวดล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย จึงทำให้หลาย ๆ คนหลงเสน่ห์ของกาญจนบุรี จนต้องกลับไปเที่ยวจนแทบนับครั้งไม่ถ้วน

       ในวันนี้ปังปอนด์ก็เลยหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก และร้านอาหารที่ห้ามพลาดในจังหวัดกาญจนุบรีที่น้องหมาสามารถเข้าได้ เพื่อเพื่อน ๆ และน้องหมาสุดรักจะได้ไปกอดหมอกขาว ฟินยาว ๆ ที่จังหวัดกาญจนบุรีกันค่ะ  จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลย ^_^
 

ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดกาญจนบุรี

     จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก และเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติมากมาย มีความหลากหลายทางธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ แม่น้ำ ถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่น และประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้ดึงดูดผู้คนในเมืองมาแวะเวียนมาชมบรรยากาศความเป็นธรรมชาติได้อยู่เสมอ ....

      สำหรับจังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เป็นผืนป่าหนาแน่น มีแม่น้ำสองสายสายไหลผ่าน คือแควใหญ่ และแควน้อยที่เป็นเหมือนเส้นเลือดที่คอยหล่อเลี้ยงประชาชนจังหวัดกาญจนบุรี และยังเป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดกาญจนบุรี เพราะแม่น้ำทั้งสองสาย ไหลมาจากต้นน้ำเหนือเขื่อนวชิราลงกรณ์ และเขื่อนศรีนครินทร์ ผ่านป่าและธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อน ชมธรรมชาติริมลำน้ำ เป็นมนต์เสน่ห์ที่เชิญชวนให้ประชาชนจากทั่วทั้งประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาสัมผัส และลองใช้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนค่ะว่า ถ้าใครได้ไปเยือนจังหวัดกาญจนบุรีแล้ว จะต้องหลงใหลในความสวยงาม และอยากที่จะกลับไปเยือนจังหวัดที่มีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ที่ยาวนานอีกครั้งอย่างแน่นอน

     การเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อน ๆ ที่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถขับจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่าน จ.นครปฐม และขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 หรือถ้าจะใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ก็สามารถไปขึ้นได้ที่สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต) เส้นทางกรุงเทพฯ-ด่านเจดีย์สามองค์/อ.สังขละบุรี ใช้เวลาในการเดินทางจากตัวเมืองถึงสังขละบุรี ประมาณ 3-4 ชั่วโมงเช็คตารางเดินรถได้ www.transport.co.th ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนจะเดินทางด้วยรถไฟ ก็สามารถขึ้นจากสถานีหัวลำโพง ปลายทางคือ สถานีนํ้าตก จากนั้นต้องนั่งรถต่อไปยัง สังขละบุรีโดยรถโดยสารภายในจังหวัดกาญจนบุรีสอบถามรายละเอียดรถไฟเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.railway.co.th ก็ได้เลยค่ะ
 

กาญจนบุรีเที่ยวไหนดีนะ?

เดินเที่ยวสะพานมอญ ใส่บาตรยามเช้า

 

      หากเพื่อน ๆ ได้แวะสังขละบุรี สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดและถือเป็นแลนด์มาร์คที่ต้องไปให้ได้นั่นก็คือ สะพานมอญ หรือ “สะพานอุตตมานุสรณ์” ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า และเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธา ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรีเลยล่ะค่ะ โดยสะพานแห่งนี้มีความยาวที่สุดในประเทศไทยกว่า 850 เมตร ที่นี่เพื่อน ๆ จะได้พบเจอวิถีชีวิตชาวมอญอย่างแท้จริง และจะได้เห็นสาวมอญเดินเทินของบนศีรษะมากมายจนกลายเป็นเสน่ห์ของสะพานแห่งนี้เลยล่ะค่ะ

      และในช่วงเช้าของทุกวัน ชาวบ้านสังขละบุรีจะออกมาทำบุญใส่บาตร ชาวมอญจะนุ่งผ้าถุง ห่มผ้าแบบมอญ ถือภาชนะใส่ข้าว อาหาร ปัจจัยและดอกไม้ ตั้งแถวรอใส่บาตรซึ่งเป็นภาพที่สวยงามมาก หากเพื่อน ๆ สนใจใส่บาตรบริเวณใกล้ ๆ ก็จะมีอาหารขายบริเวณหมู่บ้านมอญ และสามารถเที่ยวชมบ้านเรือนในแบบชาวมอญ ซื้อของที่ระลึก ชิมอาหารพื้นบ้านชาวมอญก็ได้ค่ะ



นั่งเรือชมวิวสวย เมืองบาดาล

 

      มาถึงจังหวัดกาญจนบุรีทั้งที จะพลาดแหล่งท่องเที่ยว Unseen in Thailand อย่าง เมืองบาดาล หรือวัดวังก์วิเวการามในอดีตไปได้ยังไง ที่ตั้งอยู่บริเวณจุดที่เรียกว่า “สามประสบ” คือเป็นที่บรรจบของแม่นํ้า 3 สาย แม่นํ้าซองกาเลีย, แม่นํ้าบีคลี่ และแม่นํ้ารันตี ต่อมาทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ น้ำจึงท่วมตัวอำเภอเก่ารวมทั้งหมู่บ้านชาวมอญ และบริเวณวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม ปัจจุบันวัดจมอยู่ใต้น้ำเหลือเพียงซากของวัดเก่าเท่านั้นค่ะ

      ส่วนการไปชมวัดสามารถไปได้วิธีเดียวคือ ทางเรือหรือนั่งแพเท่านั้น โดยอาจจะเสียค่าใช้จ่ายในการนั่งเรือเป็นราคาต่อคน หรืออาจจะเหมาลำและพาน้องหมาโดยสารไปด้วยก็ได้ค่ะ ถ้าหากเพื่อน ๆ จะพาน้องหมาไปเที่ยวเมืองบาดาลแนะนำให้เตรียมพกเสื้อชูชีพใส่ให้น้องหมาเพื่อนความปลอดภัยด้วยนะคะ สำหรับเมืองบาดาลถ้าฤดูไหนน้ำมากจนโบสถ์จมน้ำไปทั้งหมด ก็ยังมีทริปดำน้ำลงไปดูโบสถ์ถึงก้นทะเลสาบได้อีกด้วย โดยใน 1 ปีเพื่อน ๆ จะสามารถเดินเข้าโบสถ์หลังนี้แค่ช่วงน้ำต้นเขื่อนวชิราลงกรณ์แห้งในเดือนมีนาคมถึงเมษายนเท่านั้น หรือในช่วงน้ำลดยังไม่เต็มที่ก็จะเห็นโบสถ์โผล่พ้นน้ำขึ้นมาบางส่วน นับเป็นสถานที่มหัศจรรย์ที่หาชมที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
 

รู้ประวัติศาสตร์ที่พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด

 

 

      พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไปเยือนจังกาญจนบุรีแล้วเพื่อน ๆ ต้องห้ามพลาดค่ะ ... ซึ่งพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาดนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนที่จัดแสดงภายในอาคารหลังใหญ่ ภายในติดแอร์ทั้งชั้น เป็นนิทรรศการแสดงเรื่องราว ทั้งภาพถ่าย สไลด์ วีดีโอ ที่ถ่ายทอดถึงความโหดร้ายของสงคราม และมีส่วนของทางรถไฟที่เป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะที่ปัจจุบันไม่ถูกใช้งานแล้ว แต่ที่นี่กลายเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่นอกจากจะเก็บรวบรวมเครื่องมือ ยุทโธปกรณ์ และการรำลึกถึงความทรงจำของเหล่าเชลยศึกที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรัฐบาลออสเตรเลีย ซึ่งช่องเขาขาดนี้เกิดจากการขุดเจาะเขาเป็นทางรถไฟของเชลยศึกที่ควบคุมโดยกองทัพญี่ปุ่นในยุคนั้น และไม่มีแม้แต่เครื่องมืออันทันสมัยช่วยทุ่นแรง ปัจจุบันยังคงหลงเหลือทางรถไฟและช่องเขาที่ถูกตัดอย่างชัดเจนให้เห็นเป็นอนุสรณ์อยู่ค่ะ

     โดยเส้นทางการไปบริเวณช่องเขาขาดนี้มี 2 เส้นทาง คือด้านล่าง เป็นเส้นทางที่เดินเข้าไปในช่องเขาบริเวณแนววางรางรถไฟ ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งเป็นเส้นทางที่ต้องเดินขึ้นบันไดขึ้นไปบนเขาเพื่อชมช่องเขาจากด้านบนลงมา ทั้งสองเส้นทางใช้ระยะเวลาในการเดินไปต่างกัน คือเดินในช่องเขาใช้เวลาประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง ส่วนด้านบน เหนื่อยกว่าและใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงค่ะ

เดินเที่ยวชิลล์ ๆ ถนนคนเดินสังขละ

 

      ถนนคนเดินสังขละ เป็นถนนคนเดินที่หลอมรวมวิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่งดงามแห่งสังขละบุรีเอาไว้ โดยจะมีทุกเย็นวันเสาร์ค่ะ ... ถนนคนเดินสังขละถือเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกมากมายที่ชาวบ้านได้นำมาวางขาย เช่น ของทอด ไอศกรีมลำไผ่สังขละบุรี  และของที่ระลึกจะเป็นงานฝีมือ เช่น โปสการ์ด ผ้าพันคอ ผ้าลายไทย เสื้อยืดลายพิมพ์สวย ๆ ที่ซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ค่ะ และบริเวณที่ว่าการอำเภอ จะมีการตั้งเวทีการแสดงศิลปวัฒนธรรมของชาวมอญ กะเหรี่ยง พม่า ดนตรีเพื่อชีวิต และการแสดงของนักเรียน นักศึกษาอีกด้วยค่ะ

    สำหรับเพื่อน ๆ ที่จะพาน้องหมาไปเดินที่ ถนนคนเดินสังขละ นั้นแนะนำให้ใส่สายจูงให้น้องหมาให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย และอย่าลืมพกถุงพลาสติกไว้เก็บอึน้องหมา รวมถึงถ้วยน้ำพกพาให้น้องหมาด้วยนะคะ


 

ร้านอาหารน่านั่ง
 

แพอาหารริมเขื่อน
 

 

      ไปถึงกาญจนบุรีจะไม่ให้กินเมนูปลาก็คงเหมือนไปไม่ถึง แนะนำให้เพื่อน ๆ แวะไปเติมพลังที่ ร้านแพอาหารริมเขื่อน ที่นอกจากจะได้ดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำใกล้เขื่อนวชิราลงกรณ์แล้ว ร้านนี้ยังมีเมนูสารพัดปลาจานเด็ดที่ทางร้านแนะนำคือ ปลากะพงสามรส ต้มยำหัวปลาคัง หัวปลาเค้าทอดน้ำปลา เชิงปลากรายทอดกระเทียม ฯลฯ กับอีกหลากเมนูอาหารแม่น้ำ คนรักเมนูปลาต้องไม่พลาดแล้วล่ะค่ะ

     สำหรับร้าน แพอาหารริมเขื่อน นี้จะเปิดบริการตั้งแต่ 9.00 - 22.00 น และอนุญาตให้เพื่อน ๆ พาน้องหมาทั้งสายพันธุ์เล็กและใหญ่เข้าใช้บริการได้ โดยทางร้านได้แบ่งโซนเอาไว้บริการคนรักน้องหมา ซึ่งจะเป็นแพฝั่งซ้ายมือ แนะนำว่าให้เพื่อน ๆ เตรียมสายจูงสำหรับกันน้องหมาหลุดและเพื่อความปลอดภัยกันด้วยนะคะ เพื่อน ๆ คนไหนอยากไปทานอาหารอร่อย ๆ ร้านนี้ สามารถโทรศัพท์สอบถามและโทรจองโต๊ะได้ที่เบอร์ 034-655-351 ได้เลยค่ะ

ปลาเผาเขาตอง

 

     มาต่อกันที่ร้านอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูปลากันอีกสักร้านค่ะ บอกเลยว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารขึ้นชื่ออีกร้านหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีด้วยค่ะ นั่นก็คือ ร้านปลาเผาเขาตอง ที่นี่โดดเด่นที่ใช้วิธีเผาปลากันแบบดั้งเดิม โดยจะนำถังเหล็กมาครอบตัวปลาเอาฟางมาสุมรอบ ๆ ก่อนจะจุดไฟเผา ทิ้งไว้ 20 นาทีก็จะได้ปลาเผาที่หอมน่ารับประทาน จิ้มกับน้ำจิ้มรสชาติจัดจ้าน 2 แบบอร่อยลืมไม่ลงเลยค่ะ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีเมนูอื่น ๆ เช่น ต้มยำปลาคัง, ทอดมันปลากราย, ปลาช่อนอบฟาง, ปลาทับทิมไร้ก้าง, ยำสามกรอบ ฯลฯ ที่รอให้เพื่อน ๆ ไปลิ้มลองอีกมากมาย

     สำหรับร้าน ปลาเผาเขาตอง ทางร้านได้อนุญาตให้เพื่อน ๆ ที่มีน้องหมาก็สามารถพาเข้าไปใช้บริการได้นะคะ โดยร้านจะเปิดบริการเวลา  10:00-22:00 น. สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจจะไปทานอาหารสามารถโทรศัพท์จองโต๊ะได้ที่เบอร์ 081-763-2567, 089-009-6233 ได้เลยนะคะ
 

 

3199 cafe'
 

     3199 cafe' ร้านกาแฟสุดชิคที่ที่ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 3199 จ.กาญจนบุรี ทางไปน้ำตกเอราวัณ ที่นี่ทางเจ้าของร้านบอกว่า 3199 cafe' กำเนิดขึ้นจากการที่อยากให้ผู้คนที่แวะผ่านไปมา นักท่องเที่ยว มานั่งแวะพัก ผ่อนคลาย พูดคุยกัน ทานกาแฟอร่อย ๆ ขนมหวาน อาหารรองท้อง และแวะพักเข้าห้องน้ำ ในแบบบรรยากาศสบาย ๆ นั่งอยู่ในสวน ก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวไปสถานที่ต่าง ๆ ค่ะ โดยร้านนี้มี เจ้าโม่ สุนัขสาวพันธุ์แจ๊ครัสเซล เทอร์เรียเป็นพนักงานประจำร้านที่จะนั่งเล่นอยู่ด้านนอกร้าน รอต้อนรับ ทักทายเพื่อน ๆ อยู่ค่ะ ใครที่ผ่านไปก็อย่าลืมแวะทักทายเจ้าโม่ พร้อมกับทานอาหารอร่อย ๆ เติมพลังกันนะคะ

     ร้าน 3199 cafe' ใจดีเปิดต้อนรับเพื่อน ๆ ที่จะพาน้องหมาไปทานอาหารด้วยนะคะ แต่จะให้น้องหมานั่งเฉพาะโซนด้านนอกเท่านั้น จะไม่อนุญาติให้น้องหมาเข้าในส่วนของโซนห้องแอร์ค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจพาน้องหมาไปนั่งทานอาหารอร่อย ๆ ในบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/route3199/ หรือ โทร 091 193 3199 ได้เลยค่ะ
 

 

Home To Cafe

 

 

     หากใครกำลังมองหาร้านทานขนมและเครื่องดิ่มชิลล์ ๆ อยู่ละก็ต้องไม่พลาดร้าน Home To Cafe เลยค่ะ ร้านนี้บอกเลยว่า บรรยากาศดีมาก ตกแต่งโทนอบอุ่นแต่ก็รู้สึกถึงความสดชื่นเพราะมีต้นไม้สวย ๆ ตกแต่งอยู่ด้านในด้วย เหมาะกับการนั่งชิลล์ พบปะพูดคุย นั่งจิบกาแฟ และเบเกอรี่อร่อย ๆ งานนี้เพื่อน ๆ ที่เป็นสายชิลล์ต้องไม่พลาดค่ะ

      ร้าน Home To Cafe ใจดีเปิดต้อนรับเพื่อน ๆ ที่จะพาน้องหมาไปทานอาหารด้วยนะคะ แต่จะให้น้องหมานั่งเฉพาะโซนด้านนอกเท่านั้น จะไม่อนุญาติให้น้องหมาเข้าในส่วนของโซนห้องแอร์ค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจพาน้องหมาไปนั่งทานอาหารอร่อย ๆ ในบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/Home-To-Cafe หรือ โทร 089 995 0056 ได้เลยค่ะ
 

 

ที่พักน่านอน

The Open Hills

 

       หากใครกำลังมองหาที่พักสวย ๆ อยากสัมผัสบรรยากาศขุนเขาสไตล์อังกฤษ บอกเลยค่ะว่าต้องไม่พลาด The Open Hills ที่พักสวย ๆ ที่อยู่บนพื้นที่กว้างขวางกว่า 30 ไร่ นอกจากบรรยากาศจะสวยและมีบริการครบครันรอเพื่อน ๆ ไปสัมผัสกันแล้ว ที่นี่ยังมีร้านกาแฟชื่อ Coffee Hills by The Open Hills ไว้เอาใจคนรักกาแฟอีกด้วยค่ะ


     สำหรับผู้ที่ต้องการพาน้องหมาเข้าพัก ... ที่นี่น้องหมาอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ และสามารถพาน้องหมาออกไปวิ่งเล่นที่สนามหญ้าได้ค่ะ แต่เจ้าของควรเตรียมอุปกรณ์เก็บทำความสะอาดเวลาน้องหมาขับถ่ายไป รวมถึงควรเตรียมที่นอนน้องหมา สายจูง ชามน้ำ ชามอาหารส่วนตัวของน้องหมาติดตัวไปด้วยเพราะไม่มีให้บริการค่ะ ใครที่สนใจต้องการพาครอบครัวและน้องหมาไปเที่ยวพักผ่อนในสถานที่สวย ๆ แบบนี้ล่ะก็ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/Theopenhills/ ได้เลยค่ะ
 

โกลเด้น เลควิว บูติก รีสอร์ท

 

     โกลเด้น เลควิว บูติก รีสอร์ท (Golden Lake View Boutique Resort)มีห้องพัก 17 ห้อง อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองเพียง 30 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากน้ำตกไทรโยค 60 กิโลเมตร ทำเลสะดวกสบายทำให้สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ของเมืองได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยสะดวกมากมายเช่น บริการรถรับส่ง, ร้านอาหาร, ที่จอดรถ, บริการรถรับ-ส่งถึงสนามบิน , บริการนวด, สนามกอล์ฟ (ในระยะ 3 กม.), สระว่ายน้ำ (สำหรับเด็ก), กีฬาทางน้ำที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการพักผ่อน ให้เพื่อน ๆ ได้หลีกหนีจากความวุ่นวายได้เป็นอย่างดีค่ะ

      สำหรับห้องพักบอกเลยค่ะว่า ทุกห้องที่นี่ให้ความรู้สึกสงบและกลมกลืนอย่างแท้จริง และยังเปิดต้อนรับให้สัตว์เลี้ยงสามารถเข้าพักได้อีกด้วยค่ะ ... เพื่อน ๆ ที่สนใจที่พักที่เดินทางสะดวกและตกแต่งสวยงามมีสไตล์แบบนี้สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.golden-lakeview.com หรือ โทร 02-247-2517 เพื่อสำรองที่พักได้เลยค่ะ




ไอส์แลนด์ รีสอร์ท ริเวอร์แคว

 

 

   ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหารีสอร์ทสวย ๆ ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้และบรรยากาศดี ๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี แนะนำที่  ไอส์แลนด์ รีสอร์ท ริเวอร์แคว (Island Resort River Kwai) เลยค่ะ เพราะที่นี่นอกจากจะแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้และบรรยากาศดี ๆ ใกล้กับสวนสุขภาพลาดหญ้าแล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่รอต้อนรับเพื่อน ๆ มากมาย เช่น ฟรี Wi-Fi ทุกห้อง, Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะ, ที่จอดรถ, บริการรถรับ-ส่งถึงสนามบิน, ห้องสำหรับครอบครัว , ห้องปลอดบุหรี่, เครื่องปรับอากาศ, โต๊ะเขียนหนังสือ, ระเบียง/ชานเรือน, โทรทัศน์ ไว้คอยบริการเพื่อน ๆ ให้มีความสุข ผ่อนคลายตลอดการเข้าพักเลยล่ะค่ะ

    สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจต้องการพาครอบครัวและน้องหมาไปเที่ยวพักผ่อนในสถานที่สวย ๆ แบบนี้ล่ะก็ ที่นี่อนุญาตให้น้องหมาเข้าพักได้ค่ะ แต่ต้องแจ้งล่วงหน้า และเพื่อน ๆ ควรพกสายจูง เบาะนอน ของใช้จำเป็นสำหรับน้องหมาติดตัวไปด้วยเพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของน้องหมาแสนรักด้วยนะคะ สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจสามารถโทรสอบถามได้ที่ 034-589-818 เพื่อสำรองที่พักได้เลยค่ะ



เดอะ เบสท์ ริเวอร์ไซด์ เกสท์เฮาส์

 

     เดอะ เบสท์ ริเวอร์ไซด์ เกสท์เฮาส์ (The Best Riverside Guesthouse) เกสท์เฮาส์สวย ๆ บรรยากาศดี ๆ ริมแม่น้ำแคว บอกเลยค่ะว่าที่นี่เหมาะจะเป็นสถานที่ที่เหมาะกับคนที่กำลังต้องการความผ่อนคลายแบบสุด ๆ เพราะเป็นแพริมน้ำ มีวิวสวย มองคลื่นน้ำได้ไกลสุดตา และสามารถเดินทางต่อไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของเมืองได้อย่างสะดวก ที่สำคัญที่นี่ยังมีบริการที่สมบูรณ์แบบและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อเติมความสดชื่นให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น รูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง, ฟรี Wi-Fi ทุกห้อง, แผนกต้อนรับ 24 ชั่วโมง, Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะ, ที่จอดรถ , โทรทัศน์จอแบน, เครื่องปรับอากาศ, ระเบียง/ชานเรือน ให้ได้นั่งเล่นแบบชิลล์ ๆ อีกด้วยค่ะ

    เดอะ เบสท์ ริเวอร์ไซด์ เกสท์เฮาส์ เป็นแพริมน้ำใจดีที่พร้อมต้อนรับคนรักน้องหมา โดยอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ค่ะ ... สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจต้องการพาครอบครัวและน้องหมาไปเที่ยวพักผ่อนในสถานที่สวย ๆ แบบนี้ล่ะก็สามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/atiporn9/ หรือโทรสอบถามได้ที่ 034 512 055 เพื่อสำรองที่พักได้เลยค่ะ



เขาโทน ริเวอร์วิว รีสอร์ท

 

     เขาโทน ริเวอร์วิว รีสอร์ท (Khaothone River View Resort) ตั้งอยู่ที่ท่าเสาในไทรโยคอยู่ใกล้ น้ำตกไทรโยค และไม่ไกลจากสนามกอล์ฟ ริเวอร์ แคว ที่นี่เพื่อน ๆ จะได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติ มีห้องพักแบบบ้านเรือนไม้ สไตล์ธรรมชาติ , บ้านหินประดับ และเรือนแพก้ามปู รวมถึงบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะ, ที่จอดรถ, รูมเซอร์วิส, ห้องสำหรับครอบครัว, อุปกรณ์ทำบาร์บีคิว , เครื่องปรับอากาศ, ระเบียง/ชานเรือน, โทรทัศน์ (เคเบิล), ตู้เย็น, ฝักบัว ไว้บริการอีกด้วย โดยมีห้องพักที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามกว่า 38 ห้อง รวมถึงยังมีให้บริการกิจกรรมนันทนาการสุดพิเศษมากมาย เช่น สระว่ายน้ำกลางแจ้ง, ตกปลา, บริการนวด, สระว่ายน้ำ (สำหรับเด็ก), ปิงปอง ที่เหมาะกับการพักผ่อนในวันหยุดแบบสุด ๆ เลยค่ะ

     สำหรับผู้ที่ต้องการพาน้องหมาเข้าพัก ... ที่นี่น้องหมาอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ค่ะ ใครที่สนใจต้องการพาครอบครัวและน้องหมาไปเที่ยวพักผ่อนในสถานที่สวย ๆ แบบนี้ล่ะก็ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.khaothoneriverviewresort.com/ หรือ โทร 086-770-5044 ,089-502-9009 เพื่อสำรองที่พักได้เลยค่ะ

 

 ** ข้อปฏิบัติในการนำสุนัขเข้าพัก **

    

        
             ข้อปฏิบัติเหล่านี้คนรักน้องหมา ต้องจำและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเลยนะคะ เพื่อให้เพื่อนร่วมทริป และเจ้าของรีสอร์ทสบายใจในการท่องเที่ยวที่มีน้องหมาไปด้วยค่ะ
        
             1.สุนัขที่พาไปจะต้องไม่มีอาการป่วย ไม่อยู่ในอาการติดสัด หรือเป็นประจำเดือน และสุนัขควรได้รับการ
        ฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอ
        
             2. ควรระบุพันธุ์น้องหมาทุกครั้งในการติดต่อเข้าพัก เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย
        
             3. สุนัขที่ดุ หรือ เจ้าของไม่สามารถควบคุมได้ไม่ควรพาไปพักในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
        
             4. สุนัขควรอยู่ในสายจูงและอยู่ในสายตาเจ้าของตลอดเวลา
        
             5. เมื่อสุนัข อึ ฉี่ ไม่ว่าบริเวณในห้องพัก หรือบริเวณรีสอร์ท เจ้าของควรทำความสะอาดอย่างเร็วที่สุด
        
             6. ไม่ควรนำอุปกรณ์ของทางรีสอร์ทที่เตรียมไว้สำหรับคนมาใช้กับสุนัข
        
             7. ไม่ให้สุนัขขึ้นนอนบนเตียง
        
             8. ควรใส่สายจูงและดูแลน้องหมาอย่างใกล้ชิดไม่ให้รบกวนนักท่องเที่ยวท่านอื่น
        
             9. ไม่ควรนำสุนัขลงว่ายน้ำหรือใช้บริการใดๆที่รีสอร์ทเตรียมไว้กับนักท่องเที่ยว
        
             10.  ดูแลรักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด
        
        
    

        ** สิ่งที่จำเป็นที่ควรนำไปด้วยทุกครั้งที่พาน้องหมาไปเที่ยว**

    
        
             1.  ชามน้ำ ชามอาหาร
        
             2.  ผ้าปูนอน ผ้าห่ม ที่นอนสุนัข
        
             3.  อาหารสุนัข
        
             4.  ยาประจำตัว (ถ้ามี)
        
             5.  สายจูง สายรัดอก
        
             6.  อุปกรณ์การทำความสะอาดในกรณีที่สุนัข อึ หรือฉี่

 

บทความโดย : Dogilike.com


ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ:

https://www.skyscanner.co.th/news/inspiration/thailand-kanchanaburi-attractions/
http://www.kanchanaburi.co/th
http://chaoprayanews.com/blog/happyforever/2015/01/20/
http://www.tiewpakklang.com/news/kanchanaburi/19930/