โดย: พริกขี้หนู

วิธีมัดใจให้น้องหมาเป็นมิตรกับน้องแมว ฉบับจัดเต็ม!

ศึกน้องหมากับน้องแมวจะสงบลงได้ต้องฝึกฝนและใช้เวลา แต่ทำได้รับรองแน่นอนค่ะ

15 พฤษภาคม 2557 · · อ่าน (11,974)

Dogilike.com :: วิธีมัดใจให้น้องหมาเป็นมิตรกับน้องแมว ฉบับจัดเต็ม!

น้องหมากับน้องแมวขึ้นชื่อเรื่องเป็นคู่อริกัน ไม่ว่าจะภาพยนตร์ หรือ การ์ตูน ก็จะต้องมี 2 ตัวละครนี้ที่สร้างความขัดแย้งจนเกิดเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ... แต่สำหรับคนรักสัตว์ หลายคนอาจจะฝันไว้อยาก อยากจะเลี้ยงทั้งน้องหมาและน้องแมวให้อยู่ในบ้านเดียวกันให้ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ด้วยกันอย่างสมานฉันท์

บทความในคอลัมน์การฝึกการสื่อสารวันนี้ เราจะมาหาวิธีกระชับมิตร สงบศึกน้องหมาน้องแมวอย่างถาวร ทั้งยังช่วยสร้างพฤติกรรมที่ดีให้น้องหมามีความมั่นคงทางอารมณ์เพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ

ทำไมน้องหมาถึงชอบไล่จับน้องแมว?

สาเหตุที่น้องหมาชอบไล่จับน้องแมวมีอยู่ 2 สาเหตุหลักๆ คือ ต้องการไล่เพื่อเล่น กับต้องการล่าด้วยเจตนาทำร้ายถึงชีวิต ตามสัญชาตญาณของพวกเขานั่นเองค่ะ โดยสัตว์ที่มีการเคลื่อนไหวเร็วอย่างแมว ยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณไล่ล่าของน้องหมา ถึงแม้จะเป็นการไล่เพื่อความสนุก หรือ เพื่อหยอกล้อ แต่ก็อาจนำไปสู้การต่อสู้ระหว่างน้องหมาและน้องแมว จนได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย น้องหมาอาจถูกน้องแมวตะปบที่ดวงตาเพื่อป้องกันตัว หรือ น้องหมาอาจกัดหยอกๆ แต่เกิดแผลฟกช้ำขึ้นกับน้องแมวได้ค่ะ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ ไขประเด็นคาใจ...เพราะอะไรน้องหมากับน้องแมวไม่ถูกกัน!? ค่ะ)

เทคนิคการกระชับมิตรระหว่างร้องหมากับน้องแมว

อันดับที่ 1.....ผู้เลี้ยงต้องใจเย็น

การจะเปลี่ยนธรรมชาติของน้องหมาให้เป็นมิตรกับน้องแมว ต้องอาศัยเวลา และ ความเข้าใจ ไม่ใช่การบีบบังคับให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าเข้าหากันอย่างทันทีทันใด นอกจากจะกระชับมิตรไม่ได้ผลแล้ว ยังเป็นการสร้างความเครียด ความกลัว ให้ทั้ง 2 ฝ่ายอีกค่ะ

โดยปกติแล้วหากผู้เลี้ยงทำการฝึกให้น้องหมากับน้องแมวทำความรู้จักกันเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ แต่ถ้าทั้งน้องหมาและน้องแมวยังไม่ไว้ใจกันก็อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านั้น อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ ไม่ควรจำกัดเวลาว่าทั้งน้องหมาและน้องหมาต้องอยู่ด้วยกันได้ภายในกี่วัน เพราะจะเป็นการกดดันทั้งตัวเองและพวกเขามากเกินไป ทางที่ดีควรปรับอย่างค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปค่ะ

อันดับที่ 2 สร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยให้แก่น้องแมว เมื่อเผชิญน้องหมา

โดยปกติแล้วน้องแมวจะทำร้ายน้องหมาก็ต่อเมื่อตัวเองหมดทางสู้ หลังชนฝา แต่ถ้ามีหนทางให้พวกเขาหนีก็ไม่มีปัญหาค่ะ ในกรณีที่เพื่อน ๆ เลี้ยงน้องแมว อยู่ในบ้านเดียวกับน้องหมา ควรจัดหาพื้นที่ที่เป็นพื้นที่เปิด หรือ ถ้าเป็นในห้องควรมีชั้นวางของ ซอกตู่ที่น้องแมวสามารถวิ่งหนี หลบซ่อนได้ หรือ มีประตูรั้วเล็ก ๆ สำหรับน้องแมวเพื่อมุดหนี เป็นต้นค่ะ เพื่อให้น้องแมวรู้สึกว่ายังมีพื้นที่ปลอดภัยให้หลบหลีก อีกทั้งยังเป็นการป้องกันเผชิญหน้าที่จะนำไปสู่การต่อสู้จนได้รับบาดเจ็บค่ะ

อันดับที่ 3 ต้องมั่นใจว่าน้องหมาอยู่ภายใต้การควบคุมของเราและพาออกกำลังกาย

หากต้องฝึกน้องหมาให้เป็นมิตรกับน้องแมว นั่นแสดงว่า น้องหมาของเรามีปฏิกริยาเชิงลบกับน้องหมา อาจทำการพุ่งเข้าหาไปตามสัญชาตญาณ ดังนั้น ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องฝึกน้องหมาให้ทำตามคำสั่งพื้นฐานก่อน เช่น นั่ง นิ่ง ไม่ หยุด ปล่อย เป็นต้น เพื่อที่เราจะสามารถออกคำสั่งเมื่อน้องหมาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ (อ่านเพิ่มเติมบทความ เคล็ด (ไม่) ลับ! การฝึกให้น้องหมารู้จักควบคุมตัวเอง และบทความ เทคนิคการฝึกน้องหมาให้ปล่อยของออกจากปาก ค่ะ)

การออกกำลังกายก่อนฝึกน้องหมาทำความรู้จักกับน้องแมวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดระดับพลังงานของน้องหมา ไม่ให้พลุ่งพล่านมากเกินไปเมื่อเจอน้องแมว การออกกำลังกายจะทำให้น้องหมานิ่งขึ้น สุขุมมากขึ้น อยู่ภายใต้การควบคุมของเราได้ดีมากขึ้น น้องแมวก็จะพอจะตั้งรับกับปฏิกริยาของน้องหมาดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การทำความรู้จักราบรื่นมากขึ้นนั่นเอง

และเคล็ดไม่ลับอีกอย่างที่สามารถควบคุมน้องหมาได้อยู่หมัดก็คือ สายจูง ค่ะ เพราะ คำสั่งปากเปล่าหลายครั้งไม่สามารถหยุดสัญชาตญาณการไล่ล่า ของน้องหมาได้ สายจูงเท่านั้นค่ะ ที่จะช่วยให้เราควบคุมเขาได้อยู่หมัด!

อันดับที่ 4 สร้างความรู้สึกดีให้กับน้องหมาเมื่อเจอน้องแมว

กุญแจสำคัญในการฝึกน้องหมาให้เป็นมิตรกับน้องแมวได้ก็คือ "การสร้างความรู้สึกดีให้พวกเขา" นั่นเองค่ะ โดยวิธีการก็คือ

>>>>ในกรณีที่ไม่ได้เลี้ยงน้องแมว

- ให้เราสั่งให้หยุด หรือ หันเหความสนใจด้วยของเล่นของกิน เมื่อน้องหมาเจอน้องแมวเร่ร่อนแล้วเห่า วิ่งไล่ เป็นการบอกว่าถ้าไม่ยุ่งกับน้องหมาจะได้รางวัลนะจ๊ะ

- เราไม่ควรไล่น้องแมวให้น้องหมาเห็นเป็นตัวอย่าง แต่ให้เข้าหา หรือทักทาย เมื่อเห็นน้องแมวผ่านหน้าบ้าน หรือ เข้ามาในอาณาบริเวณบ้าน ทันทีที่น้องหมาเห่าหรือไล่ก็สั่งให้หยุดแล้วให้ขนมน้องหมาเป็นรางวัล เป็นต้นค่ะ

>>>> ในกรณีที่เลี้ยงน้องหมาไว้กับน้องแมว

- ให้วางแผนไว้ล่วงหน้า และเริ่มฝึกน้องหมาให้รู้สึกดีกับน้องแมวที่เราไม่ได้เลี้ยงไปก่อนเรื่อยๆ พวกเขาจะเริ่มไม่ตื่นตัวมากเกินไป เมื่อต้องมาเจอน้องแมวในบ้านของตัวเองค่ะ

- ให้เพื่อนๆ หาห้อง หรือ พื้นที่ที่มีความปลอดภัยสำหรับน้องแมวที่จะหลีกหนีน้องหมาเวลาทำการฝึก จากนั้นนำน้องแมวมาไว้ในพื้นที่นั้นๆ ส่วนน้องหมาให้ใส่สายจูง เตรียมขนมไว้เป็นรางวัลให้น้องหมา

- บอกให้น้องหมานั่งลงนิ่งๆ เมื่อเจอน้องแมว ถ้าน้องหมาทำตามก็ให้ขนมเป็นรางวัล เช่นเดียวกันค่ะ ถ้าเขาเห่าก็บอกให้เงียบ แล้วให้รางวัลค่ะ

- เมื่อน้องหมาเริ่มควบคุมตัวเองได้แล้ว ให้เรานั่งเล่นกับน้องแมว มีน้องหมาใส่สายจูงอยู่ไม่ห่าง หากน้องหมาพยายามดมน้องแมว แล้วน้องหมามีท่าทีปฏิเสธ ปล่อยให้พวกเขาทำความรู้จักกัน ถ้าน้องหมาทำท่าจะเล่นแรง เริ่มเห่า ให้สั่งหยุด กระตุกสายจูง เมื่อหยุด ให้ขนมเป็นรางวัล

- ฝึกอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เป็นประจำทุกวัน จนพวกเขาสามารถอยู่ร่วมกันได้ แต่ก็ต้องระวังน้องแมวที่ชอบเข้าไปเล่นของๆ น้องหมา หรือ กินอาหารในถาดของน้องหมานะคะ ควรแยกโซนในช่วงแรก เพราะถ้าน้องหมาเกิดความรู้สึกไม่ดีกับน้องแมวขึ้นมา ก็จะทำให้การกระชับมิตรยากยิ่งขึ้นค่ะ

อันดับที่ 5 ยอมยกตำแหน่งสัตว์เลี้ยงอันดับหนึ่งให้แก่น้องแมว

ปัญหาของน้องหมาที่ก่อนให้เกิดความก้าวร้าวก็คือ ต้องการแสดงอำนาจเหนือ ดังนั้น ถ้าจะให้น้องหมาเป็นมิตรกับน้องแมวต้องไม่ปล่อยให้น้องหมาเป็นใหญ่ในบ้าน จะต้องเป็นเราเท่านั้นที่เป็นจ่าฝูง และให้น้องแมวอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าในบ้าน เราจะต้องไม่ไล่แมวต่อหน้าน้องหมา ควรอุ้ม เอาใสใส่ ดูแล พูดดีๆ มอบความรักให้น้องแมว เพื่อให้น้องหมาเห็นว่าน้องแมวเป็นสมาชิกหนึ่งของครอบครัว และ สร้างเงื่อนไขให้น้องหมาเมื่ออยู่ใกล้น้องแมว พวกเขาจะอยู่ในโอวาท มีความมั่นคงทางอารมณ์ ไม่ตื่นตัว ให้พื้นที่ส่วนตัวกับน้องแมว

4 สิ่งที่ต้องทำเมื่อฝึกน้องหมาให้กระชับมิตรกับน้องแมว

1. ห้ามอุ้มน้องแมวเข้ามาหาน้องหมาเด็ดขาด เพราะทั้งน้องหมาและน้องหมาจะตื่นกลัว ทำร้ายกันและ อาจทำร้ายร่างกายเราด้วย ดังนั้นต้องปล่อยให้พวกเขาทำความรู้จักกันเป็นธรรมชาติค่ะ

2. ถ้ารู้ว่าน้องหมาที่เราเลี้ยงก้าวร้าว หรือ น้องหมาที่กำลังจะรับมาเลี้ยงก้าวร้าว ก็ควรหลีกเลี่ยงเลี้ยงน้องหมากับน้องแมวร่วมกัน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาและการสูญเสียภายในบ้านได้ค่ะ ถ้าจำเป็นต้องอยู่บ้านเดียวกันก็ต้องแยกโซนของบ้านค่ะ

3. ห้ามปล่อยปะละเลยการเตรียมการเมื่อจะมีสมาชิกใหม่เข้ามาในครอบครัว เพราะการเตรียมความพร้อมปรับเปลี่ยนความเป็นอยู่ เช่น ให้น้องแมว น้องหมาหัดอยู่ในกรง หรือที่เฉพาะที่เตรียมไว้ นำผ้าที่มีกลิ่นน้องหมาหรือน้องแมวมาให้ดมคุ้นกลิ่น ก่อนพบปะกันจริงๆ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะช่วยลดความตื่นกลัว และจะยิ่งช่วยให้การกระชับมิตรดีขึ้นค่ะ

4. ไม่เพิกเฉยต่อภาษากายของน้องหมาและน้องแมว สาเหตุที่น้องหมากับน้องแมวมักมีศึกระหว่างกัน อีกส่วนหนึ่งก็คือความไฮเปอร์ของน้องหมา ที่ทำให้น้องแมวตื่นตกใจจนต้องป้องกันตัว ด้วยการหนี หรือ ตะปบน้องหมา นอกจากนี้ยังมีภาษากายที่แตกต่างกัน เช่น น้องหมากระดิกหาง แปลกว่าดีใจ ต้องการเล่น เข้าหา แต่กระแกว่งหางของน้องแมวหมายต้องเป็นการบอกว่า ออกไปห่างๆ อย่าเข้ามาใกล้ ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าไม่เตือน ซึ่งผู้เลี้ยงจำเป็นต้องเรียนรู้ภากายที่แตกต่าง เพื่อป้องกันสงครามที่อาจเกิดขึ้น

การจะให้น้องหมากับน้องแมวอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติต้องอาศัยเวลา ความละเอียดอ่อนของผู้เลี้ยงที่ต้องคอยสังเกตพฤติกรรม ภาษากายที่แตกต่างกันของทั้ง 2 ฝ่าย และที่สำคัญคือ กฏระเบียบ การออกกำลังกาย และความรัก ที่ช่วยส่งเสริมพฤติกรรมของน้องหมาให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา ไม่ก่อปัญหา เพราะ เกิน 70 เปอร์เซ็นต์ของสงครามหมาๆ แมวๆ ก็มาจากความเสียสมดุลทางพลังงานและความมั่นคงทางอารมณ์ของน้องหมานั่นเอง ลองนำไปฝึกน้องหมากันดูนะคะ

บทความโดย : Dogilike.com

http://www.dogilike.com/

ข้อมูลอ้างอิง

http://bestfriends.org/resources/pet-care/cats/getting-started/introducing-a-cat-and-a-dog/

http://pets.webmd.com/cats/features/when-dog-and-cat-meet

http://youtu.be/bEwQe57IDrc

http://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/dogs-chasing-cats

http://www.wikihow.com/Make-a-Cat-and-Dog-Get-Along

ภาพประกอบ :

wakeup-world.com

www.intro2psycholing.net

kittentoob.com