โดย: พริกขี้หนู

5 สุดยอดเทคนิค จัดการน้องหมากลัวพลุเสียงฟ้าร้องให้ได้ผล

ลองมาเลือกใช้เทคนิคจัดการน้องหมากลัวเสียงพลุ ว่าวิธีไหนจะเหมาะกับน้องหมาของเรา

31 ธันวาคม 2558 · · อ่าน (97,483)

Dogilike.com :: 5 สุดยอดเทคนิค จัดการน้องหมากลัวพลุเสียงฟ้าร้องให้ได้ผล

ในทุกช่วงเทศกาลสังสรรค์ รื่นเริง การจุดพลุจุดประทัด ได้นำความหวาดกลัวและความสูญเสียมาให้แก่น้องหมา ที่บางตัวตกใจถึงขนาดหนีออกจากบ้านสูยหายไปตลอดกาล....

ซึ่งในค่ำคืนวันสิ้นปีนี้ ก็คงหนีไม่พ้นการกระหน่ำจุดพลุทั่วทุกพื้นที่ ผู้เลี้ยงจึงต้องเร่งเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมให้น้องหมาของเราหวาดกลัวน้อยที่สุด เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะสูญเสียพวกเขาไปค่ะ

ในบทความนี้ Dogilike.com (ด็อกไอไลค์) จึงได้รวบรวมเทคนิคที่จะช่วยให้น้องหมาชินกับเสียงพลุ รวมทั้งมีวิธีการฝึก การป้องกันไม่ให้น้องหมาตื่นตกใจ หนีหายออกไปนอกบ้านค่ะ

เทคนิคที่ 1 พาเข้าบ้านจำกัดพื้นที่

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ไม่ใช้เวลามาก ประหยัดพื้นที่ และไม่ต้องใช้ความพยายามมากในการดูแล ที่สำคัญน้องหมาไม่หนีหายออกไปจากบ้านแน่นอนค่ะ

วิธีการ : ให้เตรียมห้อง หรือพื้นที่ขนาดเล็กไว้สำหรับน้องหมา จะเป็นกรงก็ได้ค่ะ แต่ควรเก็บกรงไว้ในห้องอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันเสียงเข้ามาภายในห้องและน้องหมาหนีหาย ผู้เลี้ยงควรปิดห้องให้มิดชิด ปิดหน้าตา ปิดผ้าม่าน ไม่ให้น้องหมาเห็นบรรยากาศภายนอก เตรียมของเล่น ผ้าห่มที่พวกเขาคุ้นเคยไว้สำหรับซุกนอนหรือหลบซ่อนตัว ซึ่งจะช่วยให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น ถ้าเป็นไปได้ให้เปิดเพลงสบาย ๆ ไว้ในห้องช่วยลดความเครียดและความกลัวของพวกเขาค่ะ

เทคนิคที่ 2 ทำให้น้องหมาอยู่ในความสงบ

หากไม่จำกัดพื้นที่ให้น้องหมา ก็จำเป็นที่จะต้องสร้างความรู้สึก สงบและมั่นคงปลอดภัยให้แก่พวกเขา หลีกเลี่ยงการสร้างแรงกระตุ้นเร้าให้ยิ่งหวาดกลัว แต่ควรสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายแทน

วิธีการ : เมื่อเกิดเสียงพลุหรือฟ้าร้อง น้องหมาจะตื่นกลัว ไม่ให้เราส่งเสียงร้องสงสาร หรือ โอ๋น้องหมาเพราะจะยิ่งเป็นการสร้างแรงเร้าให้น้องหมาเรียกร้องความสนใจ วิตกกังวลและหวาดกลัวมากขึ้น แต่ให้เราใส่สายจูงที่มีสายรัดอก นั่งอยู่ข้าง ๆ ลูบหรือกอดบริเวณอกหรือไหล่ หาผ้าที่พวกเขาคุ้นเคยคลุมร่างกายไว้

เมื่อน้องหมาเริ่มสงบลง ให้ค่อย ๆ เดินออกมาอย่างเงียบ ๆ ให้พวกเขารู้สึกว่าสามารถอยู่ได้ลำพัง ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น โดยในระหว่างที่เราเดินออกมาไม่ควรทำเสียงตกใจหรือสงสารน้องหมานะคะ เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดความกลัวมากขึ้น ในกรณีที่น้องหมาอยู่ในบ้านแยู่แล้วก็ให้กลับไปทำเทคนิคที่ 1 ค่ะ

เทคนิคที่ 3 สัมผัสบำบัด

ไม่ว่าจะมนุษย์หรือสัตว์ชนิดไหน ๆ สัมผัสคือการช่วยให้พวกเขาคลายกังวลได้ตั้งแต่แรกเกิด จึงไม่น่าแปลกใจที่น้องหมาจะชื่นชอบการสัมผัส นั่นเพราะจะช่วยให้พวกเขาสงบลงได้ รู้สึกมั่นคง เพียงแต่เราต้องสัมผัสพวกเขาให้ถูกจุดเท่านั้นเอง

วิธีการ : ในขณะที่น้องหมาสั่นและกลัว ให้เราเข้าไปนั่งใกล้ ๆ โดยไม่ต้องเรียกชื่อ หรือ ส่งเสียงปลอบโยน ให้ใช้ความสงบของเราช่วยให้พวกเขาสงบลง จากนั้นให้เราวางมือที่บริเวณหัวไหล่หรือหน้าอกของน้องหมานิ่ง ๆ หรือถ้าจะลูบก็ให้ลูบลงช้า ๆ ค่ะ

เริ่มแรกน้องหมาอาจจะยังตื่นกลัวอยู่แต่สักพักก็จะรู้สึกวางใจ ถ้าเป็นไปได้ให้ให้เปิดเพลงดนตรีเบา ๆ ใช้กลิ่นบำบัดก็จะช่วยพวกเขาได้อีกแรงหนึ่งค่ะ โดยในระหว่างที่สัมผัส ให้เราอยู่ในความสงบค่ะ อันนี้จำเป็นที่สุดเลยค่ะ เพราะถ้าเราตื่นกลัวไปกับเขา โอ๋ หรือ สงสารเขาจนควบคุมอาการตัวเองไม่อยู่ ก็จะยิ่งกระตุ้นให้น้องหมาวิตกกังวล เรียกร้องความสนใจมากยิ่งขึ้นค่ะ (อ่านเพิ่มเติมบทความ ปัญหาพฤติกรรมน้องหมา บำบัดได้ด้วยเรกิ [ตอนที่ 6])

เทคนิคที่ 4 ฝึกให้น้องหมาไม่กลัวและชินเสียงดัง

การป้องกันอย่างไรก็ดีกว่าการตามแก้ปัญหาเสมอค่ะ การฝึกให้น้องหมาคุ้นเคยและคุ้นชินกับเสียงดัง สามารถสงบสติอารมณ์ ไม่ตื่นตระหนกได้ ซึ่งการฝึกให้น้องหมาคุ้นชินได้นั้น มีเคล็ด (ไม่) ลับ อยู่ที่การทำให้พวกเขามั่นใจว่าเสียงเหล่านั้นไม่ทำอันตรายนั่นเองค่ะ ผู้เลี้ยงจึงต้องคอยฝึกพวกเขาบ่อย ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างสม่ำเสมอจนพวกเขาเคยชินกับเสียงและไม่กลัวค่ะ

วิธีการ : ก่อนอื่นให้ผู้เลี้ยงโหลดแอปพลิเคชั่นที่มีเสียงพลุหรือเสียงฟ้าร้องดูนะคะ โดยเริ่มฝึกจากให้น้องหมาอยู่ในห้องที่ปิดสนิท ป้องกันไม่ให้น้องหมาหนีค่ะ จากนั้นก็ให้เปิดเสียงแอปพลิเคชั่นเบา ๆ ดูอาการน้องหมาก่อน ถ้าน้องหมาร้อง หรือจะหนีออกจากห้อง ผู้เลี้ยงไม่ควรรีบปิดเสียงหรือโอ๋น้องหมา แต่ให้เปิดเสียงแต่ไป แล้วทำเป็นไม่ใส่ใจ โดยให้นั่งอ่านหนังสือ นั่งทำงานไปเรื่อย ๆ ให้น้องหมารับรู้ว่า ถึงมีเสียงเกิดขึ้นก็ไม่มีอันตรายอะไรต่อพวกเขา ให้ลองเปิดสัก 10 นาที แล้วปล่อยให้ไปพัก

ผู้เลี้ยงควรฝึกอย่างนี้เป็นประจำ แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับความดังของเสียงให้มากขึ้นทีละนิด จนน้องหมาสามารถตื่นตกใจน้อยลง...ขอย้ำนะคะว่า ห้ามไปโอ๋หรือใส่ใจเพราะพวกเขาจะเรียกร้องความสนใจหนักมากขึ้น

ในกรณีที่รู้ว่าวันนั้นจะมีการจุดพลุ ให้ผู้เลี้ยงพาน้องหมาไปออกกำลังกายตอนเย็นเพื่อเผาผลาญพลังงาน รู้สึกเหนื่อย พอถึงเวลาจุดพลุ น้องหมาก็จะตื่นตัวน้อยลง สงบมากขึ้น และควบคุมตัวเองได้ดีเพราะสูญเสียพลังงานไปกับการออกกำลังกายเรียบร้อยแล้วนั่นเองค่ะ

เทคนิคที่ 5 ใส่เสื้อ Thundershirt ให้น้องหมา

ในกรณีที่ทำมาทุกวิธีแล้วน้องหมาก็ยังไม่หายกลัว ให้ลองเทคโนโลยีเสื้อ Thundershirt ที่สามารถช่วยให้น้องหมาสงบสติลงได้เมื่อได้ยินเสียงพลุหรือเสียงฟ้าร้องดูค่ะ โดยตัวหลักการของเสื้อคือการใส่ชุดที่รัดกระชับบริเวณอก ไหล่ และใต้ท้องน้องหมา ผู้เลี้ยงหลายคนบอกกันว่าได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์ใจ! ลองนำมาเป็นตัวเลือกดูนะคะ

วิธีการ : ให้ผู้เลี้ยงหาซื้อเสื้อ Thundershirt จากทางเว็บไซต์หรือตามร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงดูค่ะ ส่วนราคาเสื้อเฉลี่ยต่อตัวอยู่ที่ราว ๆ 50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบสองพันบาท หรือจะใช้วิธี D.I.Y ทำเองก็ได้ค่ะ เพียงใช้ผ้าพันรอบตัวน้องหมาบริจุดที่น้องหมาไวต่อความรู้สึกอย่างหน้าอก ใต้ท้อง และส่วนบริเวณไหล่ ซึ่งการรัดบริเวณนั้น ๆ จะช่วยให้น้องหมารู้สึกมั่นใจ ปลอดภัย คล้าย ๆ มีมือคนคอยโอบรัดพวกเขาให้สงบสติอารมณ์นั่นเอง (อ่านเพิ่มได้ที่บทความ มาทำความรู้จัก ชุดกันน้องหมากลัวฟ้าร้องกัน ค่ะ)

ถึงแม้น้องหมาของเราจะสามารถผ่านเหตุการณ์น้องหมากลัวเสียงพลุ เสียงฟ้าร้องมาได้ทุกครั้ง ไม่หนีออกไปไหน แต่ก็ใช่ว่าน้องหมาของเราจะโชคดีทุกครั้งไปนะคะ การป้องกันและเตรียมความพร้อมจึงเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ เพราะฉะนั้น ถ้ารักและห่วงใยพวกเขา ควรรีบฝึกให้น้องหมาคุ้นชินกับเสียงต่าง ๆ เร่งจัดการความกลัวให้ได้เร็วที่สุดค่ะ

บทความโดย : Dogilike.com

http://www.dogilike.com/

ภาพประกอบ :

Pet's Haven Animal Shelter

www.shootinguk.co.uk

http://positivereiki.com/reiki-for-pets/

http://teakdoor.com/1690153-post300.html

https://youtu.be/YaZscIORWCo

http://www.dogster.com/lifestyle/6-tips-for-soothing-your-dogs-fear-of-thunder

https://notsodangerousdogs.wordpress.com/tag/firework/