โดย: พริกขี้หนู
เรกิ สัมผัสบำบัด เพื่อน้องหมาสุดรัก [ตอนที่ 1]
เปิดมิติการดูแลน้องหมารูปแบบใหม่ ด้วยสัมผัสและความรัก วิธีง่ายๆที่ใครก็ทำได้ค่ะ
31 กรกฏาคม 2555 · · อ่าน (23,728)
เคยมีใครเคยสงสัยบ้างหรือไม่คะว่า ทำไมน้องหมาของเรามักชอบเห่าคนที่กลัวหมา แม้ว่าจะเก๊กสุดฤทธิ์ว่าไม่กลัว หรือยามเราเศร้าเขาก็จะมานั่งมานอนคลอเคลียใกล้ๆ เป็นเพื่อนไม่ห่าง รวมไปถึงพฤติกรรมล่วงรู้เวลาไปเที่ยวเดินเล่น หรือเจ้าของกลับบ้านได้แม่นยำราวกับมีนาฬิกาพกติดตัว
นั่นเป็นเพราะน้องหมามีประสาทรับรู้ที่เร็วมากกว่ามนุษย์หลายเท่า โดยประสาทรับรู้นั้นเป็นการรับรู้โดยสัญชาติญาณ ผ่านพลังงานและอารมณ์ความรู้สึกของสิ่งต่างๆ รอบตัว ดังนั้นถ้าเขาต้องอยู่กับ ภาวะเครียดหรือหดหู่นานมากก็จะมีผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์ จนแสดงออกด้วยการก้าวร้าว ซึมเศร้า หรือหวาดกลัว และถ้าน้องหมาต้องเจอกับภาวะที่มีผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์อยู่อย่างต่อเนื่อง อาจทำให้น้องหมามีความผิดปกติทางสภาพจิตใจ ซึ่งจะส่งผลต่อพฤติกรรมและอุปนิสัยต่างๆ ของเขา
... เมื่อไม่กี่ปีมานี้มีวิธีศาสตร์ใหม่ที่เริ่มแพร่หลายและใช้มากขึ้นในต่างประเทศ เป็นวิธีบำบัดน้องหมาด้วยการสัมผัสที่ผู้เลี้ยงสามารถศึกษาและทำกันได้ง่ายๆ ที่บ้าน เพื่อช่วยให้สภาวะร่างกายและจิตใจกลับมาสมดุล
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว Dogilike วันนี้พริกจะมาแนะนำทิปส์ดีๆเป็นบทความพิเศษเกี่ยวกับสัมผัสบำบัดสำหรับน้องหมาที่ถือเป็นศาสตร์ที่ใหม่มากสำหรับเมืองไทยและหาอ่านที่ไหนได้ไม่ง่ายนัก มาเสนอเป็นซีรี่ย์ลงในคอลัมน์เทคนิคการเลี้ยงการดูแล ให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกันค่ะ
พอดีเมื่อไม่นานไม่นี้พริกได้มีโอกาสเข้าร่วมอบรมสัมผัสบำบัด เรกิ กับอาจารย์ทอม ราดเซียนดะ (Tom Radzienda) ชาวอเมริกัน ผู้เขียนหนังสือ เรกิ พลังธรรมชาติ เพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่การเติบโตภายใน (Personal Transformation through Reiki) จึงอยากนำความรู้และประสบการณ์มาแบ่งปัน เพื่อลองนำไปใช้ดูแลน้องหมากันค่ะ
อันที่จริงเรกิเริ่มต้นด้วยการรักษาคน แต่หลายปีที่ผ่านมาเริ่มขยายวงกว้างสู่การบำบัดรักษาสัตว์ แม้ตอนนี้ยังไม่ค่อยแพร่หลายในเมืองไทย แต่ดังมากในต่างประเทศ ซึ่งสัมผัสด้วยเรกิจะช่วยให้สภาพอารมณ์ จิตใจ และร่างกายกลับมาสมดุลอีกครั้ง ยิ่งถ้าน้องหมามีพฤติกรรมก้าวร้าว การเยียวยาด้วยการสัมผัส จะช่วยปรับเปลี่ยนให้มีพฤติกรรมที่ดีขึ้นได้ด้วย ชักอยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่า เรกิ สัมผัสบำบัดเป็นอย่างไร ถ้าอย่างนั้นเรามาทำความรู้จักและเรียนรู้วิธีการทำสัมผัสบำบัดไปพร้อมๆ กันค่ะ
เรกิ ... คืออะไร ช่วยน้องหมาได้ยังไงบ้าง?
คำว่า เรกิ นั้นเกิดจากการผสมผสานระหว่างคำว่า เร หมายถึง พลังเหนือธรรมชาติ พลังศักดิ์สิทธิ์จิตวิญญาณ ส่วนคำว่า กิ หมายถึง พลังชีวิต พอนำสองคำมารวมกันก็จะแปลว่า พลังชีวิตแห่งจักรวาล (Universal Life Force) ค่ะ
เรกินั้นเป็นการบำบัดแบบองค์รวม บำบัดทั้งในระดับร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และลึกไปถึงระดับ จิตวิญญาณ โดยมีความเชื่อที่ว่าพลังงานจะไหลผ่านมือของผู้ทำการบำบัดสู่ร่างกายด้วยการ วางมือลงบนร่างกายของผู้รับพลัง ซึ่งพลังที่ไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายคือพลังที่ไหลเวียนอยู่ในธรรมชาติ เช่นเดียวกับพลังปราณ ไทชิ ชี่กง พลังงานนี้เป็นพลังงานด้านบวกนี้ที่ค่อยๆเข้าไปเหนี่ยวนำให้จิตใจผ่อนคลาย และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย (ถ้าเพื่อนๆยังมองไม่เห็นภาพ ลองนึกถึงหนังจีนกำลังภายในดูก็ได้นะ มันก็เหมือนกับการส่งพลังลมปราณผ่านหลังสหายรักที่ได้รับบาดเจ็บ ย้ากกกกส์!!!)
หรือหากจะอธิบายให้ง่ายขึ้นไปอีก เรกิเป็นสัมผัสบำบัดรูปแบบหนึ่ง เช่นเดียวกับการกอด คือสามารถส่งผ่านความรักและความห่วงใยให้บุคคลที่เราสัมผัสได้ค่ะ มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค ระบุว่า การได้รับสัมผัสจากผู้อื่นสามารถช่วยกระตุ้นระดับเม็ดเลือดแดง เพิ่มการสร้างเนื้อเยื่อ การกักเก็บการออกซิเจนในร่างกายให้ดีขึ้น และช่วยให้สุขภาพจิตดี มีชีวิตชีวาค่ะ เรกิไม่ได้ให้ประโยชน์เฉพาะผู้รับ แต่ผู้ให้ก็จะได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน พลังงานดีๆ ที่ผ่านเข้าสู่ร่างกายผู้รับจะทำให้เกิดความผ่อนคลาย สงบ เหมือนเวลานั่งสมาธิ และที่สำคัญจะทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมโยง ผูกพัน เข้าใจกันและกันระหว่างผู้ให้และผู้รับ
เรกิเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
ต้นกำเนิดของเรกิมีการพัฒนาจากพุทธศาสนา ในทิเบต มีลักษณะเป็นการเรียนรู้ฝึกจิต นั่งสมาธิจนเกิดความสงบ เป็นศาสตร์การถ่ายทอดพลังงาน ญาณทัศนะ และ สมาธิจากอาจารย์สู่ศิษย์ ซึ่งต่อมาในปลายศตวรรษที่ 19 หรือต้นศตวรรษ ที่ 20 ดร.มิคาโอะ อูซูอิ ชาวญี่ปุ่นเรียนรู้และการพัฒนาเรกิเพื่อศึกษาค้นหารูปแบบการบำบัดด้วยเร กิอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถถ่ายทอดแก่ผู้สนใจได้ด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุด ซึ่งต่อมามีการพัฒนาแตกแขนงทฤษฎี รูปแบบ เทคนิคที่ต่างกันไป โดยแรกเริ่มเดิมทีผู้บำบัดต้องผ่านการเปิดจักระจากอาจารย์เรกิเสียก่อน ถึงจะสามารถนำพลังเรกิมาใช้เพื่อรักษาผู้อื่น แต่ปัจจุบันมีการนำมาประยุกต์ใช้ได้โดยไม่ต้องเปิดจักระค่ะ
แล้วจักระคืออะไร
จำเป็นไหมว่าต้องเปิดจักระ???
พริกเชื่อว่าเพื่อนๆ คงรู้จักโยคะกันไม่มากก็น้อย จักระของเรกิก็เหมือนกับของโยคะ เป็นจุดศูนย์กลางของร่างกายที่เรียงตัวเป็นแนวเส้นตรง 7 จุด ตั้งแต่ หัวไปยังท้องน้อย แต่ละจุดจะทำการตอบสนองต่อการทำงานของอวัยวะในร่างกาย เมื่อทำการรักษาผู้บำบัดจะวางมือลงบนตำแหน่งจักระต่างๆ จนกระทั่งเกิดการปรับสมดุลภายในร่างกาย ซึ่งน้องหมามีจักระเช่นเดียวกับคน เรกิจึงสามารถเอามาปรับใช้กับน้องหมาได้อย่างสบายๆ (พริกจะอธิบายวิธีการความสำคัญของแต่ละจักระ การวางมือ และรายละเอียดระหว่างการทำการบำบัดในบทความต่อๆไป อย่าลืมติดตามนะคะ พลาดไม่ได้เด็ดขาดค่ะ ^^)
ส่วนการเปิดจักระเป็นการกำหนดจิตผ่านจุดจักระ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของพลังงานภายในร่างกาย มีพลังละเอียดอ่อนโยน ซึ่งการเปิดจักระเปรียบเสมือนทางลัดในการเชื่อมต่อกับพลังธรรมชาติ อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือเราต้องเปิดรับสัญญาณภายนอกค่ะ คล้ายๆกับกับเปิดสัญญาณ Wireless หรือ Bluetooth นั่นเอง อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ของสัมผัสบำบัดและเพื่อให้นำเอาไปใช้ได้ง่ายขึ้น เราไม่จำเป็นต้องเปิดจักระก็ได้ค่ะ เพียงแค่รู้วิธีการวางมือลงบนร่างกาย ส่งความรักความเมตตาไปให้เหมือนเวลาเรากอดใครสักคน เท่านั้นอีกฝ่ายก็สามารถรับรู้ได้ถึงพลังงานและความรู้สึกดีๆ เพราะเมื่อใดที่ใจเราเปิดกว้าง มีความรัก ความปรารถนาดีก็ถือว่าเป็นการเปิดช่องทางเชื่อมต่อกับพลังงานที่ดีหรือพลังธรรมชาตินั่งเองค่ะ
เรกิเชื่อถือได้แค่ไหน?
ถึงแม้เมืองไทยเรกิยังไม่แพร่หลายนัก มีเพียงในบางสปาหรือศูนย์สุขภาพชั้นนำเท่านั้น แต่ในต่างประเทศเรกิได้ถูกนำไปใช้ในโรงพยาบาล บ้านพักรักษาตัว ห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด เพื่อช่วยลดความวิตกกังวลและอาการบาดเจ็บ ไปพร้อมๆกับการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน มีการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับเรกิกว่า 50 ชิ้น ยืนยันถึงการรักษาด้วยเรกิว่าสามารถช่วยในเรื่องการบรรเทาความเครียด ความกัวลและอาการบาดเจ็บได้จริง
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งของโรงพยาบาลฮาร์ตฟอร์ด รัฐคอนเนคทิคัท ได้นำเรกิไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยซึ่งมีอาการนอนไม่หลับ ได้ผลถึง 86 เปอร์เซ็นต์ การบรรเทาอาการเจ็บปวดใช้ได้ผลถึง 78 เปอร์เซ็นต์ แล้วในปัจจุบันโดยเฉพาะที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สัตวแพทย์ได้นำเรกิไปใช้กับสัตว์ โดยมีผลจากงานกรณีศึกษาออกมาว่าเรกิสามารถเยียวยารักษา และปรับพฤติกรรมของสัตว์ สำหรับสัตว์ที่ป่วย เรกิสามารถเยียวยา รักษาและลดผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด ส่วนสัตว์ที่กำลังจะเสียชีวิต เรกิสามารถทำให้สัตว์รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย กระวนกระวายน้อยลง แล้วก้าวข้ามความตายอย่างสงบ และยังสามารถช่วยเชื่อมโยงความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์ โดยเฉพาะน้องหมาที่รับมาเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์ เรกิช่วยให้เขาผ่อนคลายความเครียดและความกลัวลงได้มากค่ะ ด้วยเหตุนี้เอง การรักษาด้วยเรกิจึงเป็นการรักษาแบบองค์รวมที่มีคุณสมบัติเพื่อใช้ในการรักษา เยียวยา และการบำบัด ได้ตามแต่ละวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ เริ่มสนใจเรกิ สัมผัสบำบัดกันบ้างหรือยัง ถ้าเพื่อนๆสนใจอยากรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อวันหนึ่งจะลองไปใช้กับน้องหมาที่บ้าน ต้องรออ่านบทความในซีรี่ย์ตอนต่อๆ ไป ว่าก่อนจะทำสัมผัสบำบัดให้น้องหมา เราจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง มีวิธีการอย่างไร นอกจากนี้พริกยังมีวิธีบำบัดน้องหมาในกรณีต่างๆ มาแชร์ให้เพื่อนๆ นำไปใช้ เป็นวิธีง่ายๆที่ใครทำก็ได้ ขอแค่มี ม.กับจ. มือกับใจเท่านั้นเองค่ะ ^___^
(ป.ล. ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีข้อสงสัยหรืออยากแชร์ความคิดเห็นแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โพสต์กันมาได้เลย เดี๋ยวพริกจะตอบให้แจ่มแจ้งกระจ่างชัดเองค่ะ ^^)
ข้อมูลอ้างอิง:
http://www.lifepositive.com/mind/personal-growth/hug/hug-therapy.asp
http://www.thehealingpages.com/benefits-of-reiki-in-hospitals
http://www.dogbreedinfo.com/articles/dogsenses.htm
http://board.palungjit.com
http://animalreikisource.com/animal-reiki-information/reiki-for-dogs
หนังสือ เรกิ พลังธรรมชาติ เพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่การเติบโตภายใน เขียนโดย ทอม ราเซียนดะ
ภาพประกอบ:
http://www.thezigzagger.com/tag/reiki/
http://www.barkingbarbers.co.uk/reiki-healing-for-dogs-60-c.asp http://animalworldusa.blogspot.com/2010/08/reiki-for-our-animals.html
http://www.bryancountynews.net/archives/21063/
http://www.hondencentrum.com/artikels/geef-je-hond-een-massage/
http://www.nycreikicenter.com/2012/03/
http://to-the-earth-back-at-home.blogspot.com/2011/02/blog-post_21.html
http://www.animaltalk.com.au/animal_chakras.shtml
http://www.mlive.com/fenton/index.ssf/2009/05/holly_children_look_forward_to.html
http://www.the-happy-dog-spot.com/reiki-for-dogs.html
|
SHARES