โดย: Candyx
4 สถานการณ์ที่คุณอาจทำให้สุนัขเป็น Heat stroke แบบไม่รู้ตัว !
ฮีสโตรก ภัยร้ายในหน้าร้อน ...
7 มีนาคม 2560 · · อ่าน (53,693)
เริ่มเข้าหน้าร้อนกันแล้ว เดินไปที่ไหนหลายคนก็มักจะบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า แดดปีนี้ร้อนแรงมาก รับรู้ถึงลมร้อน ๆ ที่พัดมาสัมผัสโดนผิวกายทำให้รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ... สำหรับมนุษย์เราแล้ว เรามีวิธีมากมากค่ะที่จะคลายความร้อน เช่น ฉีดสเปรย์น้ำแร่ เดินเล่นห้างสรรพสินค้า ไปพักผ่อนที่ทะเล หนีขึ้นยอดเขา หาของหวานเย็น ๆ ทาน ฯลฯ แต่สำหรับน้องหมาแล้ว เพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่า มีภัยร้ายที่มากับความร้อนที่อาจทำให้น้องหมาเจ็บป่วยและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยนั่นก็คือ โรคลมแดดหรือ ฮีทสโตรกที่หลาย ๆ คนมักจะเคยได้ยินคำ ๆ นี้บ่อย ๆ ในช่วงหน้าร้อน
คอลัมน์เทคนิคการเลี้ยงการดูแล วันนี้ ปังปอนด์ก็เลยจะรวม 4 สถานการณ์ที่บางครั้งเราอาจจะทำให้น้องหมาต้องเสี่ยงกับอาการฮีทสโตรกแบบไม่รู้ตัว มาดีกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง เพื่อน ๆ จะได้เตรียมตัวและหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของน้องหมา และทำให้น้องหมาสามารถผ่านหน้าร้อนนี้ไปได้อย่างมีความสุขค่ะ
ฮีทสโตรกคืออะไร?
โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก เป็นสิ่งที่พบบ่อยในน้องหมาในช่วงหน้าร้อนค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายน้องหมาจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 38 – 39 องศาเซลเซียสค่ะ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่น้องหมาหอบแสดงว่าร่างกายของน้องหมามีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งหากสูงถึง 41 องศาเซลเซียสจะทำลายอวัยวะภายในต่าง ๆ ของน้องหมาให้ล้มเหลว ถึงขั้นไม่สามารถรักษาให้กลับมาใช้งานได้อีก โดยเฉพาะสมองที่อ่อนไหวต่อความร้อนอย่างสูง รวมทั้งอาจส่งผลให้น้องหมาหัวใจวายถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งภาวะที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป ร่างกายปรับสมดุลไม่ทัน ทำให้เกิดความร้อนในตัวน้องหมา เป็นลักษณะของอาการฮีตสโตรก หรือลมแดด นั่นเองค่ะ (เพื่อนๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการฮีทสโตรกได้ที่บทความ ทำยังไงดี เมื่อน้องหมาเกิดอาการ "Heat stroke ค่ะ)
ซึ่งนอกจากอาการฮีทสโตรกที่จะพบได้บ่อยในช่วงหน้าร้อนแล้ว ร่างกายของน้องหมาบางตัวก็อาจจะระบายความร้อนได้ไม่เพียงพอ เนื่องจากน้องหมามีต่อมเหงื่อน้อยกว่ามนุษย์มาก ดังนั้น พวกเขาจึงใช้วิธีหอบ, การระบายความร้อนทางจมูก, และการระบายความร้อนที่บริเวณอุ้งเท้าเพียงเท่านั้น ถ้าอุณหภูมิในร่างกายสูงมาก ก็จะระบายความร้อนไม่ทันนั่นเอง รวมถึงอาจเกิด ภาวะขาดน้ำ หากน้องหมาขาดน้ำจะส่งผลให้หอบ อาเจียน ท้องเสีย เยื่อเมือกแห้ง หัวใจเต้นเร็ว เส้นเส้นเลือดฝอยขาดการคืนตัวช้า อ่อนแรง ส่งผลให้มีอาการทางระบบประสาทและอาจช็อกถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ค่ะ (อ่านเพิ่มเติม ภาวะขาดน้ำในสุนัข กับโรคสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ค่ะ)
4 สถานการณ์ที่เราอาจจะทำให้น้องหมาฮีทสโตรกแบบไม่รู้ตัว
1.พาทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน
ในหน้าร้อนแบบนี้ เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะสังเกตเห็นว่า น้องหมาของตัวเองไม่ค่อยร่าเริง นอนเยอะกว่าปกติ หลายคนก็เลยเลือกที่จะพาน้องหมาไปทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้น้องหมาเกิดความตื่นตัวและเป็นการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานไปในตัว ... แต่การพาน้องหมาออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านเป็นเวลานานและต่อเนื่องทำให้น้องหมาเป็นโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก ได้ค่ะเพราะอากาศร้อนทำให้ร่างกายของน้องหมาสูญเสียน้ำมากขึ้น และทำให้อวัยวะของน้องหมาทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งมีน้องหมาจำนวนไม่น้อยเลยค่ะที่เสียชีวิตจากความห่วงใยจากเจ้าของที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
ทางที่ดีที่สุด ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ผู้เลี้ยงควรปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการพาน้องหมาไปออกกำลังกาย โดยผู้เลี้ยงอาจจะเปลี่ยนเวลาจากเวลาปกติที่เคยพาน้องหมาไปออกกำลังกายในช่วงเวลาบ่าย ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นช่วงเช้า 6.00 น. - 7.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้นแล้วแต่แดดยังไม่แรงค่ะ หรืออาจจะเป็นตอนเย็นช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ประมาณ 17.40 น. ที่ถือว่าเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อนเพราะว่าอากาศในช่วงนี้จะเริ่มเย็นลงแล้วค่ะ
หรือผู้เลี้ยงอาจจะประเมินสภาพอากาศในขณะนั้นว่ามีสภาพอากาศที่ร้อนเกินไปหรือไม่ เหมาะกับการพาน้องหมาไปออกกำลังกายหรือเปล่า โดยผู้เลี้ยงควรหลีกเลี่ยงการพาน้องหมาไปวิ่งกลางแดด เพราะนอกจากจะมีความเสี่ยงที่น้องหมาจะเป็นโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke) แล้ว เท้าของน้องหมาก็อาจเกิดแผลพุพองที่เกิดจากการเดินบนพื้นปูนซีเมนต์ หรือเดินบนยางมะตอยร้อนๆ ตามสวนสาธารณะซึ่งจะร้อนกว่าฤดูอื่นๆ ด้วยนะคะ
2.ใส่เสื้อผ้า รองเท้าแบบจัดเต็ม
มีเพื่อน ๆ คนไหนบ้างที่ชอบจับน้องหมาแต่งตัวแบบจัดเต็มทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เพราะอยากให้น้องหมาดูน่ารักและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนบ้างคะ? ... ในหน้าร้อนแบบนี้การที่เราจับน้องหมาใส่เสื้อผ้า และรองเท้า เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงมาก ๆ ค่ะ เพราะการใส่เสื้อผ้าและรองเท้าให้น้องหมาจะทำให้อุณหภูมิร่างกายของน้องหมาค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้น ลองสังเกตดูนะคะว่า ถ้าหากเราใส่เสื้อผ้า และรองเท้าให้น้องหมาพาเดินเล่นในช่วงแดดร้อนไปสักพักหนึ่ง น้องหมาจะเริ่มมีอาการหอบ กระวนกระวาย นั่นก็เพราะว่า การระบายความร้อนของน้องหมาถูกรบกวน ระบบภายในต่าง ๆ เสี่ยงเป็นฮีทสโตรกจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ
สำหรับข้อดีรองเท้าสำหรับน้องหมาก็มีนะคะ คือ จะช่วยเรื่องความสะอาด ลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรค สารเคมีที่เป็นอันตรายตามสิ่งแวดล้อม ช่วยไม่ให้น้องหมาสัมผัสความร้อนจากพื้นที่จะทำให้อุ้งเท้าของน้องหมาพุพองได้ รวมถึงช่วยให้อุ้งเท้าของน้องหมาอบอุ่นและป้องกันหิมะกัดได้ แต่ก็อย่าลืมว่ารองเท้าสำหรับน้องหมาก็มีข้อด้อย หากต้องการให้น้องหมาใส่รองเท้าจริง ๆ เราก็ควรประเมินก่อนว่า สภาพอากาศในวันนั้นร้อนเกินไปสำหรับการใส่รองเท้าหรือไม่และไม่ควรใส่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่ควรให้น้องหมาใส่รองเท้าเฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น เช่น น้องหมาต้องเดินในสถานที่ที่สกปรก พื้นเปื้อน ฝนตก ฯลฯ
และควรเลือกซื้อรองเท้าที่ได้มาตราฐานการผลิต ใช้วัสดุที่สามารถระบายความร้อนได้ดี ไม่อับ มีพื้นยาง ปุ่มกันลื่นเพื่อการยึกเกาะที่ดี ส่วนในน้องหมาสายพันธุ์ใหญ่ ผู้เลี้ยงก็จำเป็นต้องดูแลน้องหมาเมื่อต้องใส่รองเท้าเป็นพิเศษ เพราะน้องหมาสายพันธุ์ใหญ่จะมีน้ำหนักตัวมาก การใส่รองรองเท้า อาจจะทำให้น้องหมาเคลื่อนไหวได้ไม่ถนัด และสามารถเกิดอุบัติเหตุวิ่งแล้วลื่นล้ม ส่งผลกระทบต่อกระดูกและสะโพกได้ค่ะ
3.ปล่อยให้น้องหมาอยู่ในพื้นที่อับ
สำหรับคนรักสุนัข ทุกคนต่างก็ไม่อยากเห็นน้องหมาของตัวเองเป็นฮีทสโตรก แต่ในบางครั้งเราเองก็อาจจะไม่ได้สังเกตสภาพแวดล้อม พื้นที่อยู่อาศัยของน้องหมาว่า พื้นที่ตำแหน่งวางกรงสุนัขนั้น ๆ มีความเหมาะสมกับน้องหมาหรือเปล่า หรือบางคนก็อาจจะเห็นว่า น้องหมาตัวเล็กสามารถอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ ได้ สามารถผ่านมาได้ทุกฤดูอย่างไม่มีปัญหาก็ไม่มีการจัด หรือเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใหม่ให้กับน้องหมา ... แต่ในหน้าร้อนแบบนี้เราต้องสังเกตให้มาก ๆ ค่ะว่า พื้นที่ที่น้องหมาอยู่นั้นเป็นพื้นที่โปร่ง มีลมถ่ายเทสะดวกหรือไม่ และมีแดดส่องมาที่กรงของน้องหมาหรือเปล่า?
เพราะตอนที่เราไม่อยูบ้าน น้องหมาที่ถูกขังอยู่ อาจต้องเผชิญกับความร้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนั่นอาจเป็นสาเหตุให้น้องหมามีอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น และเป็นฮีทสโตรกได้ในที่สุดค่ะ ในช่วงหน้าร้อนนี้เราจึงต้องคอยปรับเปลี่ยนและเลือกตำแหน่งการวางกรงน้องหมาให้อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสม คือ เลือกสถานที่โปร่ง อากาศถ่ายเท มีลมผ่านตลอด และควรหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุด และอย่าลืมที่จะทำความสะอาดกรงของน้องหมาด้วยการเช็ด หรือล้างทำความสะอาดกรงมุ้งลวด เพื่อชะล้างฝุ่นที่ติดอยู่ในช่องมุ้งลวดให้หลุดออกไป ซึ่งจะเป็นการช่วยให้ลมสามารถผ่านช่องมุ่งลวด และระบายความร้อนให้กับน้องหมาได้ดีขึ้น ... ส่วนวันไหนมีอากาศร้อนมากๆ ผู้เลี้ยงก็อย่าลืมที่จะตั้งน้ำเย็นสะอาดให้น้องหมาด้วยนะคะ และอาจจะหาผ้าชุบน้ำมาคลุมบนกรงน้องหมาเป็นช่วง ๆ หรืออาจจะเสริมด้วยแผ่นเจลเก็บความเย็นให้น้องหมาได้รู้สึกเย็นสดชื่นขึ้นก็ได้ค่ะ
4.ทิ้งน้องหมาไว้บนรถยนต์ โดยไม่ติดเครื่องยนต์
เจ้าของน้องหมาหลายคน มักไม่รู้ว่า การทิ้งน้องหมาไว้บนรถยนต์เพียงลำพัง โดยไม่ติดเครื่องยนต์เอาไว้นั้นจะทำให้น้องหมาสามารถเป็นฮีทสโตรคจนเสียชีวิตได้ ... บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นเจ้าของน้องหมาทิ้งน้องหมาไว้บนรถยนต์ ด้วยเหตุผลที่ว่า จะลงไปซื้อของใช้ทิ้งไว้ไม่นาน เปิดกระจกไว้ให้คงไม่เป็นอะไร!! แต่จริง ๆ แล้วการทิ้งน้องหมาไว้บนรถยนต์ถือเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้น้องหมาเสียชีวิตได้เลยล่ะค่ะ
มีผลการศึกษาหลายงานวิจัยที่ยืนยันตรงกันว่า อุณหภูมิภายในรถยนต์จะสูงกว่าภายนอกรถยนต์ และการเปิดหน้าต่างทิ้งไว้นั้น ก็ไม่ได้ช่วยลดอุณหภูมิภายในท้องโดยสารที่เพิ่มขึ้นให้ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ การทิ้งน้องหมาไว้บนรถยนต์จึงเป็นอันตรายอย่างมาก เจ้าของน้องหมาอย่างเราจึงไม่ควรทิ้งน้องหมาไว้บนรถยนต์เพียงลำพังนะคะ หรืออาจจะใช้วิธีให้สมาชิกในครอบครัวพาน้องหมาลงไปหาที่ร่ม นั่งรอด้านนอกจะดีที่สุดค่ะ อ่านเพิ่มเติม เตือน!! อย่าทิ้งสุนัขไว้ในรถ แม้แง้มกระจกให้...ก็อาจตายได้
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
1. เคลื่อนย้ายน้องหมาออกจากบริเวณที่มีอุณหภูมิร้อน โดยให้เข้ามาอยู่ในที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก
2. พยายามลดอุณหภูมิร่างกาย โดยการนำผ้าชุบน้ำเช็ดตัว เน้นส่วนของฝ่าเท้าและศรีษะ ไม่ควรใช้น้ำแข็งหรือน้ำที่เย็นเกินไปเพราะจะทำให้เส้นเลือดฝอยภายนอกหดตัว
3. เปิดพัดลมเพื่อพาความร้อน ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นปูให้น้องหมานอนเพื่อลดอุณหภูมิ
4.ใช้แอลกอฮอล์ผสมน้ำฉีดที่อุ้งเท้าน้องหมาเพื่อช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกาย
5. ถ้าน้องหมายังมีสติ ให้ตั้งน้ำเย็นให้กิน แต่ไม่ควรใส่น้ำแข็ง หรือบังคับให้กิน
6. วัดอุณหภูมิร่างกายน้องหมาทุก ๆ 5 นาที ซึ่งโดยปกติอุณหภูมิของร่างกายสุนัขจะประมาณ 101-102.5 องศาฟาเรนไฮต์ ถ้าน้องหมาไม่ดีขึ้นใน 15-20 นาทีให้รีบพาไปยังโรงพยาบาลสัตว์พบสัตวแพทย์ทันที
https://www.texvetpets.org/article/kennel-cough/
http://www.peta.org/issues/companion-animal-issues/cruel-practices/dog-hot-car/
http://blog.rent.com/avoid-dog-heat-stroke-dehydration/
SHARES