โดย: เว็บมาสเตอร์มะเหมี่ยว
ไรเฟิล ลาบราดอร์สุดฮา ขาติดล้อ!!
ติดตามเรื่องราวสุดป่วนชวนประทับใจของน้องหมาติดล้อ ที่ความผิดปกติของร่างกายไม่สามารถทำลายความสุขใจชีวิตของเขาได้
19 เมษายน 2558 · · อ่าน (5,772)กลับมาแล้วค่าทุกคน Dog of the week กลับมาแล้ว สัปดาห์นี้มาพร้อมกับความ เย็นซาบซ่าชุ่มฉ่ำไปทั้งตัวและหัวใจ เพราะเป็นสัปดาห์แห่งเทศกาลสงกรานต์นั่นเองค่ะ เป็นยังไงเอ่ย ใครไปเล่นน้ำที่ไหนกันมาบ้าง อิอิ
พบกับมะเหมี่ยวที่คอลัมน์ Dog of the week ในสัปดาห์นี้รับรองว่าเพื่อนๆ ต้อง ประทับใจแน่ๆ เลยล่ะค่ะ เพราะมะเหมี่ยวมีเรื่องราว สนุกๆ ฮาๆ ของน้องหมาติดล้อมาฝาก กันค่ะ... และน้องหมาที่มะเหมี่ยวพูดถึงก็คือ "เจ้าไรเฟิล" น้องหมาลาบราดอร์ผู้มาพร้อม กับสองล้อคู่ใจและวีรกรรมความสนุกสนาน โหด มัน ฮาชนิดที่ว่าหัวเราะกันจนขากรรไกร ค้าง
เอาล่ะที่เล่ามาน่ำแค่น้ำจิ้มนะ มะเหมี่ยวว่าเราไปรู้จักเรื่องราวเต็มๆ ของเจ้าไรเฟิลกัน ดีกว่าค่าาาาา
อ้าว เฮ่ สวัสดีคร้าบทุกคน ผม "ไรเฟิล" ลาบราดอร์หนุ่มรูปหล่อมีออพชั่นเสริมเป็น สองล้อคู่ใจฮะ สนใจไปแว๊นซ์กับผมก็บอกได้นะคร้าบบบบบ :) ... ส่วนที่มาที่ไปของผมน่ะ เหรอฮะ คือแบบนี้ ผมน่ะเป็นหมาที่พ่อหนุ่ยกับแม่แพรวได้มากจากพี่ชายฮะ ตอนนั้นหมา ของพ่อกับแม่เพิ่งตายไปพอดี พี่ชายของพ่อกับแม่ก็เลยจะยกลูกหมาลาบราดอร์ให้ พ่อกับ แม่ก็เลยไปตัดสินใจไปรับผมทันทีเลยฮะ แต่พอดีตอนไปรับผมไม่มีใครอยู่บ้าน พ่อกับแม่ พอเห็นหน้าหล่อของผมก็ถูกชะตาทันที ประมาณว่าหน้าตาโดนใจโดยไร้เหตุผลอะไรแบบ “สงสัยพรหมลิขิต”
ตอนนี้ผมอายุ 6 ขวบแล้วฮะ แต่ตอน ผมอายุได้ขวบนึงชีวิตผมเกิดการเปลี่ยน แปลงครั้งใหญ่ฮะ ผมป่วยเป็นพยาธิเม็ด เลือดชนิด Hepatozoon spp ซึ่งเชื้อตัวนี้ ทำให้ผมเป็นอัมพาตสองขาหลังแบบเฉียบ พลัน คือตอนเช้ายังเดินได้อยู่เลย ตอนบ่าย ก็ไม่เดินไปซะเฉยๆ เลยอ่ะครับ หลังจาก รักษาอาการป่วยจากพยาธิเม็ดเลือดหายพ่อ กับแม่ก็ทำวีลแชร์ให้ผม จากนั้นผมก็เป็น หมาแว๊นซ์มาได้ประมาณเกือบๆ 5 ปี แล้วฮะ
ถ้าพูดถึงวีรกรรมของผมนะฮะให้บรรยาย 5 หน้ากระดาษก็คงไม่พอ หลักๆ ก็คงเป็น เรื่องของความตะกละและความซน นั่นล่ะฮะ
ตัวอย่างวีรกรรมก็อย่างเช่น มีครั้งนึงก่อนผมจะเป็นหมาติดล้อคุณลุงอยากให้ผมไป เป็นพ่อพันธุ์ให้ พ่อกับแม่ก็เลยพาผมไปที่บ้านว่าที่เจ้าสาว พอไปถึงแทนที่ผมจะสนใจสาว ผมกลับวิ่งตรงดิ่งไปที่ชามข้าวและลงมือกินข้าวในชามของสาวจนหมดเกลี้ยง เมื่ออิ่มแล้ว ก็หันหลังวิ่งกลับบ้านตัวเองทันที โดยไม่สนใจสาวเลยแม้แต่น้อย 55555555
นอกจากจะแย่งข้าวหมาตัวอื่นกินแล้ว ผมยังเคยมีวีรกรรมอบตับด้วยฮะ คืองี้ มีอยู่วัน นึง แม่ต้มตับไก่เอาไว้ให้ผมกินตอนเย็น ต้มเสร็จแม่ก็เอาใส่กล่องแล้วก็วางไว้ด้านล่าง ของเตาแก๊ส ผมก็แอบไปวุ่นวายในครัวเหมือนปกติ แต่จริง ๆ แล้วผมวางแผนไว้แล้วฮะ ผมน่ะแอบอมตับออกไปกินข้างนอก เรียกว่าไปแบบเนียนๆ เลยฮะ กลัวแม่จับได้ 55555 ปรากฎแม่จับได้ฮะ เพราะผิดสังเกตผมเดินเข้าๆ ออกๆ บ่อยเกินไป แต่ไสเจียเสียใจฮะ กว่าจะจับได้ ผมก็กินตับเกือบหมดกล่องแล้ว คิคิ
ไม่แค่นี้นะฮะ ผมยังมีวีรกรรมโดดบ่อกบ ด้วยนะ คือไปยืนดูกบในบ่อที่คุณน้าแถวบ้าน เลี้ยงไว้ ก็จดๆ จ้องๆ อยู่พักนึง พอกบร้อง อ๊บ!!! ผมก็คิดว่าชวนผมเล่นด้วย เลยโดดลงบ่อไปเลย ฮะ หืมมมมม ขี้โคลนงี้เต็มตัวเลย ขึ้นจากบ่อเอง ก็ไม่ได้ด้วยติดวีลแชร์ 55555 แม่นี่กรี๊ดสลบเลย จะลงไปช่วยก็ไม่ได้เพราะแม่ก็กลัวกบกว่าจะขึ้น จากบ่อได้ทุลักทุเลมากฮะ แต่หนุกดีนะ
นี่ๆ อันนี้ก็เด็ดฮะ คือผมเป็นหมาขี้หา เรื่อง แต่จะหาเรื่องเฉพาะหมาใหญ่เท่านั้น แต่ จะเอ็นดูหมาเด็กและหมาที่ตัวเล็กกว่า นี่มีเรื่อง กับหมาใหญ่ตลอด แม่ก็ชอบว่าว่า"ไม่ได้คำนึง ถึงสภาพร่างกายตัวเองเล้ยยย"
ผมเป็น “หมาอินดี้” คือเป็นหมาที่มี ความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก คือถ้าผมไม่มี อารมณ์จะเล่นกับใครต่อให้ชวนเล่นกับแค่ไหน ผมก็ไม่สนหรอกฮะ แต่บทผมจะคึกขึ้นมานี่ ผม แหกปากโวยวายชวนให้คนมาเล่นด้วย ... นิสัย อีกอย่างนึงก็คือ ผมเป็นหมาไม่ค่อยกลัวอะไรฮะ แบบว่าอยากรู้อยากเห็น เป็นหมานักสำรวจ อย่างเวลาพ่อกับแม่พาผมไปเที่ยว ไปที่แปลกๆ ใหม่ๆ ผมก็ชอบเดินไปไหนมาไหนตามใจตัวเอง ไม่กลัวแล้วก็ไม่ฟังพ่อกับแม่เรียกด้วย 5555 แบบว่าแกล้งทำหูทวนลม จิตใจล่องลอยเตลิด เปิดเปิงสุด ๆ ไปเลย
กระดูกผูก ชามข้าว และ ขวดน้ำ สามสิ่งนี้คือของรักของหวงของผมฮะ
ถ้าของโปรดจริงๆ ก็คงเป็นกระดูก แหละฮะ แต่พ่อกับแม่ห้ามไม่ให้ผมกินเด็ด ขาดเพราะไม่ดีกับสุขภาพ เวลาพ่อกับแม่ ปล่อยผมใส่วีลแชร์ให้วิ่งเล่นตอนเย็นๆ แล้ว ไม่มีเวลาเดินตามเฝ้าก็จะใส่ตระกร้อครอบ ปากผม แม่บอกว่าหมาตัวอื่นโดนใส่ตระกร้อ เพราะว่าดุ แต่สำหรับผมนี่ต้องครอบปากไว้ เพราะตะกละเห็นแก่กิน 5555555555... ของโปรดลงมาจากกระดูกก็คงเป็น ตับย่าง ล่ะค่ะ แต่แม่ก็ให้กินบ่อยๆ หรอกฮะ นานๆ จะได้กินทีนึง เวลาผมได้กลิ่นนี่ น้ำลายไหล ย้อยเป็นทางราวกับน้ำตกเลยล่ะฮะ ห้ามใจ ไม่ไหว ควบคุมน้ำลายก็ไม่อยู่
พ่อกับแม่บอกว่าเทคนิคพิเศษที่ใช้ใน การดูแลผมก็คือ การเลี้ยงด้วยหัวใจ มอบ ความรักทั้งหมดให้ เพราะการเลี้ยงน้องหมา ที่ช่วยเหลือตัวเองเรื่องการเดินและการขับ ถ่ายไม่ได้แบบผมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องใช้ ความรักและความเอาใจใส่ด้วยหัวใจ แม่ บอกว่าหมาที่เป็นอัมพาตช่วงล่างแบบผม ต้องได้รับการดูแลเรื่องการเดินและการขับ ถ่ายเป็นพิเศษ ต้องมีเวลาพาผมใส่วีลแชร์ วิ่งเล่น ต้องดูแลเรื่องการขับถ่าย บีบฉี่บีบอึ ให้เป็นเวลาเป็นประจำทุกวัน
แม่บอกว่าตั้งแต่ผมพิการ พ่อกับแม่ก็เคยเหนื่อยเคยท้อ แรกๆ ทำอะไรไม่เป็นเลย ทุกสิ่งทุกอย่างต้องค่อยๆ เรียนรู้และปรับตัวไปเรื่อยๆ ทั้งคนทั้งหมา แต่ทุกครั้งที่พ่อกับแม่ มองตาผมเห็นแววตาของความหวังอยู่ในนั้น มันก็ทำให้พ่อกับแม่เข้มแข็ง เพราะเชื่อเสมอ ว่าความเข้มแข็งนี้จะส่งผ่านมายังผมได้เช่นกัน
พ่อกับแม่บอกผมว่า สำหรับผมคงไม่ จำเป็นต้องพูดอะไรกันให้มากมายเพราะเรา เข้าใจกันเสมอ ก็อยากจะบอกกับผมแค่ว่า “พ่อกับแม่จะเป็นขาหลังให้ไรเฟิลตลอดไป”
"ไรเฟิลไม่ใช่หมาปกติในสายตาคน อื่นก็จริง แต่สำหรับเราเองไม่เคยคิดว่าไร เฟิลผิดปกติเลย เพราะไรเฟิลเองก็ไม่เคย เอาความพิการของตัวเองมาทำให้ความสุข ในชีวิตลดลง ไรเฟิลสอนให้เรารู้จักคุณค่า ของตัวเอง รู้จักคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ สุด ท้ายอยากฝากถึงทุกคนที่กำลังดูแลหมา พิการอยู่นะคะ ขอบคุณที่เสียสละ รู้นะว่า เหนื่อยแค่ไหน แต่อยากจะบอกว่าสู้ๆ นะคะ ขอบคุณที่ไม่ทอดทิ้งพวกเค้า ขอบคุณจาก ใจ" :)
ได้อ่านเรื่องราวของไรเฟิลแล้วต้องบอกว่าชีวิตของเจ้าหมาติดล้อตัวนี้มีทั้งเรื่องราว สนุกสนานมากมายและก็มีทั้งเรื่องราวที่น่าประทับใจสุดๆ อีกด้วยล่ะค่ะ ถือเป็นโชคดีของไร เฟิลนะคะที่มีครอบครัวที่อบอุ่น มีเจ้าของที่น่ารักคอยดูแลเอาใจใส่เสมอ ไม่ว่าร่างกายของ ไรเฟิลจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน แต่ความรักที่มีให้กลับไม่เคยน้องลงเลย มะเหมี่ยวเชื่อเลยล่ะค่ะว่าไรเฟิลต้องเป็นน้องหมาอีกตัวในโลกที่มีความสุขมากที่สุดแน่ๆ เลยล่ะค่ะ
SHARES