สำหรับใครที่เคยเลี้ยงชิวาวาจะทราบกันดีว่ามีสิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือ การกระทบกระเทือนรุนแรงบริเวณหัว เพราะด้วยลักษณะประจำสายพันธุ์ในช่วงแรกเกิดน้องหมาชิวาวาจะมีรูเล็ก ๆ ส่วนบนของกะโหลก (กะโหลกปิดไม่สนิท) ทำให้ต้องระมัดระวังเรื่องของอุบัติเหตุต่าง ๆ ไม่ให้มีอะไรไปกระทบกระเทือน แต่เมื่อน้องมาค่อย ๆ โตขึ้นกะโหลกของเขาก็จะค่อย ๆ ปิดเองไปตามธรรมชาติ

     แต่สำหรับ "น้องออโรร่า" น้องมาชิวาวาตัวจิ๋วที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติ กะโหลกปิดไม่สนิทและไม่มีหนังปิดกะโหลก แน่นอนว่า
ความผิดปกติแบบนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก และการดูแลน้องหมาที่มีสภาวะแบบนี้ให้มีชีวิตรอดก็เป็นเรื่องที่ยากเช่นกัน  ... วันนี้ Dog Spotlight จะพาทุกคนไปติดตามเรื่องราวของน้องออโรร่า ผ่านการบอกเล่าของ คุณอุ้ยอ้าย-ยลดา หนองบัว เจ้าของน้องออโรร่ากันค่ะ

     เว็บมาสเตอร์เหมี่ยว : ตอนที่แม่ของออโรร่าตั้งท้อง สุขภาพของแม่เป็นปกติดีไหมคะ
     คุณอุ้ยอ้าย : คุณแม่น้องออโรร่า ชื่อหนูนวลคะ เป็นท้องแรกตอนตั้งท้องสุขภาพแข็งแรงดี ครอกนี้ได้น้องหมา 4 ตัวแต่เหลือแค่สามตัว คือเอลซ่า อันนา และออโรร่าเป็นตัวสุดท้อง เพราะตัวนึงคลอดตอนเช้ามืดตื่นมาพบว่าตายแล้ว ลูกตัวแรกนั้นแม่หนูนวลอาจจะคลอดยากและตายระหว่างคลอด ส่วนตัวที่เหลือคุณหมอดูอาการร่วมกับการอัลตร้าซาวด์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ จึงประเมินว่าควรได้รับการผ่าช่วยคลอด

     เว็บมาสเตอร์เหมี่ยว : อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับออโรร่า มีสาเหตุมาจากอะไรคะ สามารถตรวจได้ตั้งแต่ยังอยู่ในท้องหรือเปล่า
     คุณอุ้ยอ้าย : จากการที่เราสอบถามคุณหมอที่ผ่าคลอดให้แม่หนูนวล (สพ.อังคณา คนพูดเพราะ สัตวแพทย์ประจำคลินิคบ้านหมอรักษ์สัตว์) น้องออโรร่ามีอาการกะโหลกไม่ปิดหรือเรียกว่า ภาวะ Molera ซึ่งส่วนใหญ่มีโอกาสเกิดขึ้นกับน้องหมาพันธุ์ชิวาวาสูงจนเรียกได้ว่าเป็นลักษณะประจำสายพันธุ์ Molera มีลักษณะเป็นรูเล็กส่วนบนของกะโหลกและจะเล็กลงเมื่ออายุมากขึ้น ต้องระมัดระวังการกระแทกแรง ๆ เป็นพิเศษเพราะอาจทำให้เสียชีวิตได้ และในบางรายที่มีรูขนาดใหญ่อาจมีแนวโน้มการเกิดภาวะสมองบวมน้ำ (hydrocephalus) ตามมา ส่วนการตรวจหาความผิดปกติตั้งแต่อยู่ในท้องได้หรือไม่นั้นคุณหมอมีความคิดเห็นว่า การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์ และอัลตราซาวด์ค่อนข้างตรวจหาได้ยาก ในกรณีของน้องออโรร่ามีรูขนาดใหญ่และไม่มีผิวหนังหุ้มส่วนตรงที่เป็นรูเลย จนมองเห็นสมองด้านในซึ่งเจ้าของเห็นครั้งแรกก็ทั้งตกใจและสงสารน้องมากคะ

     เว็บมาสเตอร์เหมี่ยว : เมื่อคลอดออกมาแล้วพบความผิดปกติ คุณหมอมีคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลน้องยังไงบ้างคะ
     คุณอุ้ยอ้าย : การดูแลน้องในช่วงแรกคุณหมอให้คอยระวังการกระทบกระเทือนบริเวณกะโหลกไม่ปิด  น้องออโรร่าเป็นหมาที่เก่งมากคะ^__^ แข็งแรงกินนมเก่ง แม่หนูนวลก็เลี้ยงลูกได้ดี คุณหมอจึงได้คอยทำความสะอาดแผลและหาอุปรณ์ทำเป็นหมวกกันน๊อค (แผ่นโฟมบ้างพลาสติกกล่องขนมบ้างนำมาตัดทำเป็นที่ครอบ) ป้องกันการกระทบกระเทือนสมองของน้อง การทำแผลสร้างหมวกไม่ต้องทำทุกวัน ประเมินลักษณะแผลเป็นช่วง ๆ ไป

     เว็บมาสเตอร์เหมี่ยว : เมื่อต้องนำน้องออโรร่ากลับมาดูแลที่บ้าน การดูแลยากไหมคะ ต้องระวังเรื่องอะไรเป็นพิเศษบ้าง
     คุณอุ้ยอ้าย : การดูแลน้องออโรร่านอกจากการคอยระวังไม่ให้กระทบกระเทือนบริเวณหัวแล้ว สำหรับเจ้าของเองคิดว่าไม่ยากเลยค่ะ เหมือนการดูแลลูกหมาทั่วไป น้องค่อนข้างแข็งแรงและช่วยเหลือตัวเองได้พอสมควรไม่ต่างจากพี่ๆอีกสองตัวเลย อาจจะมีคอยดูว่าโดนแม่น้องเหยียบหรือกินนมแม่ได้มั้ย มีการทำแผลและสวมหมวกกันน็อคให้น้องตลอด จนแผลเริ่มเล็กลงผิวหนังค่อยๆขึ้น น้องอายุได้ 1 เดือน ผิวหนังก็เกิดหุ้มสนิทถึงเริ่มเอาหมวกกันน็อคออกคะ ตอนนี้น้องอายุ 2 เดือนแล้วพัฒนาการจะช้ากว่าเพื่อน การมองเห็นและการทรงตัวไม่ปกติพูดง่าย ๆ คือดูเอ๋อ ๆ นั้นแหละคะ แต่ก็น่ารักในแบบของน้อง ค่อนข้างร่าเริงกินอาหารเก่ง

     เว็บมาสเตอร์เหมี่ยว : ออโรร่าสามารถอยู่ร่วมกับพี่น้องตัวอื่น ๆ ในครอกเดียวกันได้ไหมคะ
     คุณอุ้ยอ้าย : น้องอยู่รวมกับแม่และพี่น้องตั้งแต่แรกเลยคะ ไม่ได้แยกออกมาแค่คอยระวังดูแลใกล้ชิดเท่านั้น แม่หนูนวลเลี้ยงลูกเก่ง พี่ๆก็เหมือนจะรู้ว่าน้องเล็กไม่สบายไม่รบกวนแผลน้องเลย  ตอนนี้โตแล้วก็วิ่งเล่นกันตามปกติแต่ออโรร่ามักจะโดนแกล้งโดนรุมประจำ เวลาโดนแกล้งน้องจะส่งเสียงดังเลยคะ  เหมือนเป็นการฟ้องอ่ะคะ “แม่ขาหนูโดนแกล้ง!” เราต้องคอยทำหน้าที่เหมือนครูอุบาลห้ามไม่ให้ขาโจ๋รุมเด็กเอ๋อ ^__^

     เว็บมาสเตอร์เหมี่ยว : ช่วยเล่าความประทับใจเกี่ยวกับออโรร่าให้ฟังหน่อยค่ะ
     คุณอุ้ยอ้าย : สำหรับเราแล้วออโรร่าคือน้องหมาแสนพิเศษคะ ตัวน้องเองต้องอดทนและเข้มแข็งเป็นพิเศษเพื่อต่อสู้กับภาวะที่น้องเผชิญ  เจ้าของเองต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ และที่สำคัญน้องน่ารักเป็นพิเศษอีกด้วยคะ ในตอนแรกที่เห็นน้องเราคิดในใจเลยว่ายังงัยน้องคงไม่มีทางรอด อัตราการหายใจคือแผ่วมาก เราพูดกับน้องในใจว่าถ้าหนูไม่ไหวขอให้หนูไปดีนะคะ หลับให้สบายนะ แต่จนแล้วจนรอดแม้จะหายใจรวยรินขนาดไหนแต่น้องก็ยังคงหายใจอย่างสม่ำเสมอเหมือนเป็นการส่งสัญญาณบอกเราว่า “หนูจะสู้ค่ะ” เราพูดกับน้องอีกครั้งว่า ถ้าหนูอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหนูต้องสู้นะคะ เหมือนน้องรับรู้ถึงความรู้สึกและสิ่งที่เราบอกเลยคะ เพราะน้องสู้มาตลอดและไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เลย  เราตั้งชื่อให้น้องว่าออโรร่า ซึ่งในภาษาละตินหมายถึง แสงแห่งรุ่งอรุณ เพราะเราเชื่อว่าความหวังยังมีอยู่เสมอในทุกรุ่งอรุณของวันใหม่และเราจะได้ตื่นมาเจอกับออโรร่าเสมอในทุกเช้าให้นานที่สุดเท่าที่เราจะมีกันและกันได้…   ออ.เอ๋อ ออโรร่า น้องหมาหัวแห้ว

     โชคดีมาก ๆ เลยนะคะที่น้องออโรร่ามีเจ้าของที่ทั้งคอยดูแลเอาใจใส่ ให้ความรัก และพร้อมที่จะดูแลเขาไปตลอดชีวิต ยังไงก็ขอส่งกำลังใจให้น้องออโรร่าเติบโตอย่างแข็งแรงเป็นน้องหมาที่น่ารัก เป็นที่รักของทุก ๆ คนนะคะ