ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ทางด็อกไอไลค์ (Dogilike) ได้นำเสนอบทความ ชีวิตที่มีน้องหมา....เปลี่ยนแปลงสิ่งใดในตัวเราบ้าง? ซึ่งก็มีเพื่อนๆ ให้ความสนใจร่วมแชร์ประสบการณ์ เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตหลังจากที่ได้เลี้ยงน้องหมาในแฟนเพจด็อกไอไลค์กันมากมาย

     วันนี้พริกจึงเลือกเรื่องราวน่าประทับใจของสมาชิก 2 คนมาแบ่งปัน ร่วมกับอีก 4 เรื่องราวน้องหมาเปลี่ยนชีวิตที่คัดมาเน้นๆ จากคอลัมน์ Daily Dog ให้เพื่อนๆ ได้ซึ้งไปตามๆ กัน มาดูกันค่ะว่ามีเรื่องอะไรกันบ้าง และบทความใครคือผู้โชคดีที่ได้นำมาลงในบทความนี้ ... ไปกันเลยยย ^0^

 

 

 

 

     ผู้ที่ได้รับคัดเลือกคนแรกคือ คุณ AngeliAe Chloe ที่ได้เล่าเรื่องประสบการณ์ว่า ตั้งแต่ที่ได้มีน้องหมาเข้ามาในชีวิต ทำให้รู้สึกได้ถึงสัญชาตญาณของความเป็น “แม่” ที่มีเพิ่มมากขึ้น แม้วันที่เงินใกล้จะหมด ตัวเองแทบจะไม่มีเงินกินข้าว ก็พร้อมที่จะสละเงินซื้อหมู ซื้อไก่ให้น้องหมากิน ส่วนตัวเองยอมกินมาม่าแทน ทำให้เข้าใจความรู้สึกของความเป็นแม่มากขึ้น เข้าใจว่า ... ความรักที่มีต่อลูกเป็นอย่างไร เวลาจะซื้ออะไรให้เขากิน ก็จะนึกถึงเขาตลอดว่า ว่าเขากินได้ไหม เขาชอบหรือเปล่า จะซื้ออะไรให้น้องหมาถึงจะดี แล้วในทุกๆ เดือนก็จะเก็บเงินไว้เล็กน้อย เพื่อซื้อเสื้อผ้าให้น้องหมาใส่ ซื้อยาสีฟัน และอุปกรณ์ต่างๆ ให้น้องหมา ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่เราทำให้เขา คือความสุข ที่เราได้รับ ... สุขที่ได้เห็นเขาใส่เสื้อผ้าที่เราซื้อ เห็นเขาน่ารัก น่ากอด 

 

     การเลี้ยงน้องหมาทำให้ต้องมีเวลาอยู่กับเขามากขึ้น เที่ยวกลางคืนน้อยลง เพราะไม่ต้องการทิ้งเขาไว้คนเดียว พอกลับบ้านมาก็ต้องเจอน้องหมาทำหน้าหงอยรอคอยอยู่ ... แล้วในทุกครั้งที่ร้องไห้ น้องหมาจะมานั่งอยู่ข้างๆ มองตาปริบๆ ถึงแม้เขาจะไม่สามารถพูดปลอบใจอะไรได้ แต่ก็รับฟังเสมอ ...โดยรวมสิ่งที่น้องหมามอบให้แก่ชีวิต มันคือความรักความอบอุ่นใจที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเรามันเป็นสิ่งที่ไร้คำอธิบาย อาจมีบางครั้งรู้สึกเหมือนชีวิตนี้ไม่มีใครรัก แต่เมื่อทำงานเสร็จกลับบ้านเห็น เขาวิ่งมาหา ส่งยิ้มมาให้เรา ก็ทำให้รู้ว่าอย่างน้อยก็มีเขาที่รอเราอยู่ทุกวัน ... รักมากกกกกก

 

     ส่วนผู้ที่ได้รับคัดเลือกอีกคนคือคุณ Jutamanee Pum ที่ได้เล่าประสบการณ์ความรู้สึกถึงการเลี้ยงน้องหมาว่า  รู้สึกเหมือนน้องหมาเป็นลูก อีกคนหนึ่งที่เราต้องห่วงใย ดูแล เสียสละ รวมทั้งเหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิม แต่นั่นกลับทำให้รู้สึกถึงความสุข  และอีกสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวก็คือ เมื่อได้เห็นน้องหมาของคนอื่น หรือน้องหมาจรจัดตามท้องถนน ได้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชีวิตน้องหมาแต่ละตัว ... และเมื่อใดที่ขับรถอยู่ แล้วมีน้องหมาจรจัดวิ่งตัดหน้ารถ หรือกำลังเดินข้ามถนน ก็จะชะลอรถหรือหยุดให้เขาเดินข้ามไปก่อนทุกครั้ง ^^

 

     และสุดท้ายนี้พริกขอนำเรื่องราวความมหัศจรรย์ของความผูกพันระหว่างน้องหมากับเจ้าของจากคอลัมน์ Daily  Dog มาให้เพื่อนๆ ที่มีหัวใจรักน้องหมาได้อินกันอีกครั้ง มาดูกันค่ะว่ามีเรื่องอะไรกันบ้าง


 

 

 

     แมรี่ ยูลค์ เลี้ยงน้องหมาทั้งหมด 5 ตัว วันหนึ่งเธอต้องการเป็นคนตกงาน รายได้น้อยนิด แถมยังไร้บ้าน  แต่เธอก็ยอมสละเงินซื้ออาหารให้น้องหมาอิ่มท้อง ทั้งยังปฏิเสธที่จะส่งน้องหมาทั้ง 5 ตัวให้กับสถานพักพิงสัตว์ได้เลี้ยงดู เพราะไม่ต้องการให้น้องหมาถูกทอดทิ้ง อยู่ในที่ที่พวกเขาไม่มีความสุข โชคดีที่เธอยังมีรถที่พอจะเป็นที่กิน ที่นอนให้แต่ตัวเธอเอง และน้องหมาได้ โดยที่ในแต่ละวันเธอจะพาน้องหมาไปเดินเล่นสวนสาธารณะ จึงได้มีโอกาสถ่ายทอดเรื่องราวของเธอให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ ซึ่งผู้ที่ได้รับฟังเรื่องราวก็ต่างช่วยกันหาเงิน ข้าวของเครื่องใช้ และอาหารมาช่วยเหลือแมรี่กับน้องหมาทั้ง 5 ... แต่สำหรับแมรี่แล้ว เธอไม่ต้องการเงินหรือสิ่งของ แต่ต้องการคนใจดีที่จะมารับเลี้ยงสุนัขที่แสนจะน่ารัก และซื่อสัตย์ของเธอให้อยู่ปลอดภัย เพราะ พวกเขาคือ เพื่อนแท้ที่เธอไม่อาจเห็นแก่ตัว และให้ทอดทิ้งเขาไปได้ ... ช่างเป็นความรัก และความเสียสละที่น่าประทับใจมากๆ ค่ะ

 

(อ่านรายละเอียดได้ที่คอลัมน์ Daily Dog  สุดซึ้ง! หญิงมะกันไม่ทิ้งหมา แม้ไม่เหลือบ้าน)

  

 

 

 

     เด็กชายโอเว่น ฮาวสกินส์ เริ่มมีความผิดปกติทางสรีระด้วยโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อยึด เมื่อวัย 7 ขวบ เขาก็เริ่มรู้สึกว่ารูปร่างของตัวเองแปลกประหลาดกว่าเพื่อนคนอื่นในโรงเรียน จึงไม่กล้าออกไปไหนและเก็บตัวอยู่เงียบๆ จนกระทั่งวันหนึ่งพ่อของเขาได้รับเจ้าฮาชิ น้องหมา 3 ขาพันธุ์อนาโตเลียนเชฟเฟิร์ด มาเลี้ยงจากสถานพักพิงสัตว์ ทำให้ชีวิตที่เซื่องซึมของโอเว่นเปลี่ยนไปเป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส กล้าที่จะไปไหนมาไหน พบปะผู้คน อยากที่จะเล่าเรื่องราวของ ฮาชิ ให้ทุกๆ คนฟัง ซึ่งจากประวัติของฮาชิทำให้พบความเชื่อมโยงของทั้งคู่ว่า ทั้งฮาชิ และโอเว่น ต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมานไม่ต่างกัน โดยที่เจ้าฮาชิ ได้สูญเสียเสียขาหลัง และหางไปจากการถูกล่ามให้รถไฟเหยียบ ส่วนโอเว่น ก็ต้องทรมานจากการเป็นโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ แต่แล้วบาดแผลจากอดีตก็ได้รับการสมานให้หายดีด้วยมิตรภาพ กลายเป็นสายใยเชื่อมโยงทั้งคู่ให้ผูกพันกันค่ะ

(อ่านรายละเอียดได้ที่คอลัมน์ Daily Dog อัศจรรย์! ตูบ 3 ขาช่วยเด็กเลิกกลัวโลกภายนอก)

 

 

 

 

 

     อลูเซีย ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ สีช็อคโกแลต อายุ 2 ปี เป็นสุนัขบริการที่คอยช่วยเหลือ แพม ควิก หญิงพิการวัย 57 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุกระดูกหักและต้องนั่งรถเข็นมาเป็นเวลา 10 กว่าปี ซึ่งถือได้ว่าเธอโชคดีมากๆ ที่ได้เจ้า อลูเซีย สุนัขแสนน่ารักมาคอยดูแลเสมือนเป็นแขนขาของเธอ อลูเซียสามารถทำตามคำสั่งของเธอได้ทุกอย่างไม่ว่าจะกดปุ่ม ดึงผ้าออกจากเครื่องซักผ้า ยกหูโทรศัพท์ คาบจดหมายจากหน้าประตูบ้านมาให้ ทำให้ชีวิตที่ยากลำบากของเธอง่ายมากขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าที่ควรจะเป็น สำหรับแพมแล้ว อลูเซียคือสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต ... เป็นทั้งผู้ดูแล เป็นทั้งเพื่อนที่ดีที่สุด เป็นความสุข และเป็นส่วนเติมเต็มชีวิตของเธอ ... เธอไม่รู้เลยว่าชีวิตจะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีอลูเซีย ...

  

(อ่านรายละเอียดได้ที่คอลัมน์ Daily Dog อลูเซีย ลาบราดอร์องครักษ์ ดูแลหญิงพิการ!)

 

 

 

 

     นักดับเพลิง 2 คนเข้าไปยังบริเวณบ้านที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เพื่อสำรวจดูรอบๆ บ้านดูว่ามีใครติดอยู่ภายในบ้านหรือไม่ แต่กลับไม่พบใครนอกจากน้องหมาพันธุ์ลาบราดอร์สีดำตัวหนึ่ง ที่วิ่งไปหาพวกเขาทันทีที่มันพบเจอ แล้วก็กระโดดเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง มันดมไปที่พื้นแล้วก็เดินไปยังประตูบานเลื่อนจนกระทั่งพบหญิงคนหนึ่งนอนหมดสติอยู่ ขาข้างหนึ่งของเธอใส่เฝือกจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่สามารถหลบหนีจากเพลิงไหม้ได้ นักดับเพลิงทั้ง 2 คนจึงรีบช่วยหญิงผู้เคราะห์ร้ายออกมาจากบ้านที่กำลังถล่มลงมา 

 

 

     หลังจากที่หญิงผู้นั้นฟื้นจึงทำให้รู้ว่าเธอคือเจ้าของน้องหมาลาบราดอร์ตัวสีดำนั่นเอง ซึ่งเมื่อเธอรับรู้เรื่องราวของน้องหมาที่ได้ช่วยชีวิตให้เธอรอดพ้นจากความตาย จึงรู้สึกตื้นตันและขอบคุณ เจ้าพัมพ์กิ้นน้องหมาของเธอเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ได้มันเธอคงต้องจบชีวิตลงที่กองเพลิง ไม่มีโอกาสพบแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง ... พัมพ์กิ้นจึงไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงของเธออีกต่อไป แต่เป็นวีรุรุษ และเพื่อนผู้แสนซื่อสัตย์ที่เธอจะไม่มีวันทอดทิ้ง

     

   (อ่านรายละเอียดได้ที่คอลัมน์ Daily Dog แสนรู้! สุนัขภักดีเห่าบอกคนให้ช่วยเจ้าของติดไฟไหม้ )

 

 

 

     เป็นอย่างไรบ้างคะ แต่ละคนที่เลี้ยงน้องหมาก็มีเรื่องราวประสบการณ์ที่ประทับใจในหลากหลายมุมมองแตกต่างกันไป เรื่องที่เล็กน้อยของคนคนหนึ่งอาจเป็นเรื่องใหญ่ของอีกคน ซึ่งยากที่จะตัดสิน แต่ไม่ว่าความคิดหรือประสบการณ์จะแตกต่างกันอย่างไร น้องหมาก็ยังทำหน้าที่เพื่อนแท้ผู้ซื่อสัตย์ เอาชนะใจผู้คนได้ตลอดมาไม่มีเสื่อมคลายค่ะ ^__^

 

 

บทความโดย : Dogilike.com

 

ภาพประกอบ :
 

http://www.dailymail.co.uk

ashbrookeweims.blogspot.com

heartwoodap.com

seattletimes.com