โดย: พริกขี้หนู
มาเช็กกัน! คุณคือผู้เลี้ยงแบบไหน? ที่ได้ใจน้องหมา
เช็กตัวเองว่าความรักน้องหมาที่มอบให้เรานั้นมาจากความดีส่วนไหนในตัวของเรากันค่ะ
19 กุมภาพันธ์ 2558 · · อ่าน (19,600)
เพื่อนๆ เคยสังเกตเห็นคุณลุง คุณป้าที่ถึงจะดูจะไม่รู้วิธีฝึกน้องหมา ไม่ต้องมีสายจูง แต่แค่พูด หรือเดินก็มีอำนาจพอที่น้องหมาติดตาม คอยปกป้อง อย่างจงรักภักดี ไม่ต้องเรียกปากเปียกปากแฉะๆ สอนจนหมดความอดทน เพื่อนๆ หลายคนก็คงอยากได้ความรัก ความซื่อสัตย์จากใจจริงเช่นนั้นจากน้องหมา โดยไม่ต้องพยายามคอยจัดการน้องหมาให้ยอมรับ
ซึ่งปกติแล้วน้องหมามีความสามารถรับรู้พลังงานของผู้เลี้ยงว่ามีจิตใจอย่างไร เป็นคนแบบไหน น่าไว้ใจหรือไม่ มีความรักให้พวกเขามากน้อยแค่ไหนที่จะทำให้พวกเขาเชื่อใจ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะคิดว่าตัวเองเป็นผู้เลี้ยงแบบไหนที่ชนะใจน้องหมา?
1. เป็นผู้เลี้ยงที่ ... ใจเย็น สุขุม
ผู้เลี้ยงที่ใจเย็นจะทำให้น้องหมารู้สึกมั่นคง ผ่อนคลาย ไม่รู้สึกตื่นตัวกระวนกระวาย ไร้สติ ซึ่งคนที่ใจเย็น จะมีความสุขุม เมื่อน้องหมาแสดงพฤติกรรมไม่ดีก็สามารถที่จะอดทน ให้เวลาแก่น้องหมาที่จะปรับปรุงตัว ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาทั้งทางร่างกาย และทางจิตใจ อารมณ์ น้องหมาจะสบายใจที่จะได้อยู่ใกล้ ตรงกันข้ามถ้าผู้เลี้ยงเป็นคนใจร้อน ถึงจะพยายามนิ่ง ไม่ใช้กำลัง แต่มีพลังงานความร้อนของอารมณ์ ความโกรธ การเร่งเร้าน้องหมาให้ทำตามคำสั่ง น้องหมาจะสามารถรับรู้ได้ทันที แต่เกิดความกลัว หวาดระแวง ไม่ไว้ใจ จึงยากที่จะพิชิตใจของพวกเขาได้นั่นเองค่ะ
2. เป็นผู้เลี้ยงที่ ... รู้ใจ ใส่ใจ ไม่เพิกเฉย
เมื่อเริ่มพาน้องหมาเข้าบ้านน้องหมาจะไม่มีความผูกพันกับเรา จนกระทั่งเราได้ให้อาหาร คอยดูแลหาที่อยู่ที่นอน ใส่ใจว่าพวกเขากำลังเล่นอะไรแล้วมีกิจกรรมร่วมด้วย ตอนน้องหมาของพริกมาแรกๆ ค่อนข้างหวงตัว แตะขาก็ขู่จะกัดเพราะไม่ไว้ใจเรา จึงลองนั่งอยู่หน้ากรง ค่อยๆ ยื่นขนมให้กิน แอบแตะเท้านิด สัมผัสไหล่ให้รู้สึกมั่นคง (ห้ามแตะหัวเด็ดขาด) เวลาเขาเล่นอะไรก็เข้าไปร่วมด้วย พาไปฉี่ เดินกับพวกเขาเวลาสำรวจบ้าน จนน้องหมารู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา เกิดความรู้สึกไว้ใจ และรับเข้าเป็นคนสำคัญของชีวิตค่ะ แต่สำหรับบางคนอาจพาเขามาให้อาหารกิน แต่ให้นอนตามยถากรรม ไม่ใส่ใจ ปล่อยปละละเลย....ดังนั้น ก่อนที่จะได้ใจ...ก็ต้องให้ใจก่อนนะคะ
3. เป็นผู้เลี้ยงที่ ... มั่นใจ เคร่งครัด มีวินัย
“จ่าฝูง” คำที่ซีซาร์ มิลานนักจิตวิทยาสุนัขที่โด่งดังมากที่สุดของโลกในขณะนี้เป็นคนที่ทำให้คนเลี้ยงน้องหมาตื่นตัวมาเป็นจ่าฝูงที่มีความมั่นใจ มีความมั่นคงทางอารมณ์ เคร่งครัดต่อกฏระเบียบ และมีวินัย เหมือนเป็นทหาร เพื่อที่จะให้น้องหมาจอมวุ่นกลายมาเป็นลูกไก่ในกำมือ วิธีนี้เหมาะกับน้องหมาทุกตัว ยิ่งน้องหมาดุหรือมีความมั่นใจสูง ยิ่งต้องมีความเป็นผู้นำสูงถึงจะได้ใจน้องหมาไป แต่ทว่าไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ เพราะบุคลิกของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ไม่ได้เป็นคนดูมีอำนาจหน้าเกรงขามมากพอ หากพยายามแสดงอำนาจก็อาจจะดูขึงขันจนน้องหมากลัว (พริกคนหนึ่งล่ะค่ะ ใช้วิธีนี้ไม่ค่อยได้) ค่อยลองหาตัวเองกันต่อไปค่ะ ว่าจะเป็นผู้เลี้ยงแบบไหนดี ^^
4. เป็นผู้เลี้ยงที่ ... ช่างสังเกต มีภูมิรู้
ผู้เลี้ยงช่างสังเกตแสนจะใกล้เคียงกับผู้เลี้ยงที่คอยเอาใจใส่ แต่จะมีความพิเศษกว่าตรงที่ การเอาใจใส่เป็นลักษณะผู้เลี้ยงที่ถนัดเรื่องการให้เพื่อได้ใจน้องหมา ส่วนผู้เลี้ยงช่างสังเกตนี้ค่อนข้างจะมีสามารถมองลึกถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติของน้องหมาไม่ว่าทางร่างกาย หรือ จิตใจ รักการอ่านข้อมูล เพื่อคอยทดลอง ฝึกฝน ปรับปรุงนิสัย ดูแลสุขภาพอย่างตรงจุดมีเหตุและผล น้องหมาที่มีผู้เลี้ยงเช่นนี้ ค่อนข้างมีคุณภาพชีวิตดีค่ะ
5. เป็นผู้เลี้ยงที่ ... รักสุขภาพ
ผู้เลี้ยงรักสุขภาพเป็นผู้เลี้ยงที่สร้างความเปรมปรีดิ์ให้แก่น้องหมาจากการกินอาหารที่ดี จากการทำความสะอาด การดูแลขน พาไปออกกำลังกาย พาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อสร้างภูมิคุ้มโรคร้ายไม่ให้เกิดกับน้องหมา ซึ่งจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี น้องหมาแฮปปี้มีความสุข ไร้โรคภัย ชีวิตก็เป็นสุขได้ไม่ยาก เพราะแค่การหาของกินที่ดีก็ทำให้น้องหมา กรี๊ดกร๊าด มองตาแป๋ว สั่งให้ทำอะไรก็ยอมทำ หนำซ้ำยังพาไปวิ่งทำกิจกรรมออกกำลังกายเผาผลาญพลังงาน ก็ยิ่งทำให้น้องหมารู้สึกผูกพันกับผู้เลี้ยงไปโดยปริยาย ยิงทีเดียวได้นกหลายตัวเลยล่ะค่ะ
6. เป็นผู้เลี้ยงที่ ... ใจดีมีเมตตา
คนที่จิตใจดีมีเมตตาน้องหมาก็สามารถรู้ได้ค่ะ เขาจะรู้ว่าใครเป็นคนรักสัตว์ได้ด้วยพลังงานที่พวกเขาสัมผัสได้ แล้วมักจะเห่าขู่คนที่ชอบทำร้ายน้องหมา (พวกเขารู้ได้ด้วยใจไม่ใช่ตานั่นเอง) ซึ่งการเป็นผู้เลี้ยงที่มีเมตตาเป็นเรื่องของภายในมากๆ ค่ะ (อินเนอร์ล้วน) ใช้ความพยายามที่จะทำดีมีเมตตาไม่ได้เลย ซึ่งคนที่มีเมตตามักจะเป็นคนที่น้องหมารักแรกพบ มัดใจน้องหมาได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะน้องหมายากไร้ที่ต้องการความอบอุ่นจากหัวใจใครสักคน พวกเขาพร้อมจะจงรักภักดี เดินตาม อยู่ใกล้ๆ เช่น คนที่ช่วยเหลือน้องหมายากไร้ หรือช่วยเหลือน้องหมาที่ได้รับอุบัติเหตุ ประสบภัย....คนน้ำใจงามเช่นนี้ น้องหมาจะจดจำ ซาบซึ้ง รักและกตัญญูอย่างไม่สิ้นสุดค่ะ
7. เป็นผู้เลี้ยงที่ ... เข้าใจธรรมชาติน้องหมา
ผู้เลี้ยงที่เข้าใจธรรมชาติน้องหมาจะเป็นผู้เลี้ยงที่ทำให้น้องหมายังคงความเป็นตัวของตัวเอง มีสัญชาตญาณเดิมอย่างเต็มเปี่ยม อิสระ ไม่ได้บิดให้มีธรรมชาติให้เขาเหมือนกับคน น้องหมาเหล่านี้มักเป็นน้องหมาที่เลี้ยงแบบชิวๆ เลี้ยงไว้นอกบ้านบ้าง อยู่ในไร่ ในสวน เฝ้าทรัพย์สิน มีชีวิตอิสระเป็นของตัวเอง มีพื้นที่ให้วิ่งเล่น ให้เรียนรู้ ไม่ได้เลี้ยงเพื่อเก็บไว้แต่ในบ้าน (ก็ธรรมชาติพวกเขาเกิดมาเพื่อทำงาน เฝ้าบ้านเฝ้าทรัพย์สินค่ะ) พวกเขาจะมีความมั่นใจในตัวเองสูง สามารถเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดี แต่ก็อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างตรงที่พวกเขาอาจไม่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเทียบเท่ากับสมาชิกคนอื่นในครอบครัว แล้วมักประสบอุบัติเหตุจากการถูกน้องหมาตัวอื่นกัด ถูกทำร้ายจากคนนอกบ้าน หรือถูกรถชน รวมถึงอุบัติเหตุอื่นๆ อีกด้วยค่ะ
8. เป็นผู้เลี้ยงที่ ... ตรงต่อเวลา มีเวลาให้สม่ำเสมอ
น้องหมามีนาฬิกาชีวิตที่ตรงเป๊ะ ทั้งเวลาตื่น เวลากิน เวลานอน เวลาเจ้าของกลับบ้าน น้องหมารู้เวลาหมดแม้ไม่ได้ใส่นาฬิกา พวกเขาจะรอคอยช่วงเวลาที่จะได้อยู่กับเจ้าของที่พวกเขารัก การที่เจ้าของตรงต่อเวลา พาน้องหมาทำกิจวัตรเช่นเดิมเป็นประจำทุกวัน กลับมาบ้านตรงเวลาไม่เถลไถล จะช่วยให้พวกเขารู้สึกมั่นคง รับรู้ถึงความรักในรูปแบบที่พวกเขาต้องการ เมื่อพวกเขาสุขสงบก็จะมีพฤติกรรมดี เรียบร้อยอยู่ในโอวาทเป็นอย่างดีค่ะ แต่ถ้าเมื่อใดที่ต้องถูกทิ้งตามลำพัง รอคอยเจ้าของพาไปทำกิจวัตร แล้วต้องกลายเป็นรอเก้อ ก็จะทำให้พวกเขารู้สึกกระวนกระวายใจ ทำลายข้าวของ เพื่อปลดปล่อยพลังงานที่ไม่ได้ใช้ และจากความกังวลค่ะ
9. เป็นผู้เลี้ยงที่ ... มีความรับผิดชอบ เคารพคุณค่าชีวิตน้องหมา
ผู้เลี้ยงที่มีความรับผิดชอบต่อการเลี้ยงน้องหมาหรือเคารพต่อคุณค่าชีวิตพวกเขานั้น อาจยากที่น้องหมาจะรับรู้ได้ว่าเคารพยังไง รับผิดชอบยังไง จนกว่าจะถึงช่วงที่พวกเขาเกิดแก่ ป่วย พิการ นั่นล่ะค่ะ ซึ่งผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อชีวิตน้องหมาจะยึดมั่นไว้ในใจเสมอว่า เมื่อเรารับน้องหมามาเลี้ยงแล้ว เราต้องดูแลพวกเขาอย่างดีที่สุดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แม้จะไม่ได้เอาอกเอาใจน้องหมา พาไปเที่ยวแต่ถึงคราวทุกข์ ผู้เลี้ยงที่มีความรับผิดชอบจะดูแลไม่มีถอยค่ะ
ซึ่งคนที่มีความรับผิดชอบต่อชีวิตน้องหมานี้จะแตกต่างจากผู้เลี้ยงที่มีเมตตาตรงที่ พวกเขาพร้อมจะอดทนต่อความยากลำบากในการดูแลน้องหมาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ผู้เลี้ยงเมตตามากๆ อาจจะใจอ่อนเมื่อเห็นน้องหมา อยากช่วยเหลือ รับเลี้ยงแต่อาจไม่สามารถดูแลชีวิตพวกเขาได้อย่างดีจนถึงวาระสุดท้าย อาจเนื่องมาจากไม่สามารถทนเห็นน้องหมาทุกข์ทรมานกับการเจ็บปวด และยอมแพ้ใจทำการุณยฆาตน้องหมาให้หลับสบายในที่สุด
10. เป็นผู้เลี้ยงที่ ... ชอบสปอยล์น้องหมา
ผู้เลี้ยงที่ชอบสปอยด์น้องหมา.....เป็นผู้เลี้ยงที่จะฟินมากทั้งน้องหมาทั้งคนเลี้ยงค่ะ เพราะเจ้าของมักจะนึกถึงน้องหมาในมุมมองตัวเอง มีเมตตามากกกกก ขี้สงสาร เห็นน้องหมาว่าเป็นลูกสาว ลูกชายสุดโปรด อยากได้อะไรก็ได้หมด ไม่มีขัดน้องหมา กลัวน้องหมาไม่รัก....แน่นอนค่ะว่าถึงไม่สปอยล์น้องน้องหมาก็รักอยู่แล้ว และเมื่อยิ่งสปอยล์ก็ยิ่งรักมากกกก แต่เป็นรักแบบ “พ่อแม่รักแกฉัน” น้องหมาจะมีชีวิตสุขี แต่จะไม่มีความมั่นคงทางอารมณ์ และจิตใจ รวมทั้งถ้ากินมากๆ นอนเยอะๆ ไม่ออกกำลังกายก็อาจเป็นโรคอ้วนและโรคอื่นๆ ตามมาได้ พ่วงมาด้วยพฤติกรรมก้าวร้าว ดังนั้น ถ้าใครเป็นผู้เลี้ยงในกลุ่มนี้ หากรักน้องหมาจริงอาจต้องอดทนอดกลั้นต่อความสงสาร กลัวเขาไม่มีความสุขนะคะ เพราะแค่พวกเขาได้อยู่กับผู้เลี้ยง มีที่อยู่อาศัย มีอาหาร พาไปออกกำลังกายก็ทำให้พวกเขามีความสุขเป็นทุนเดิมแล้วล่ะค่ะ
เพื่อนๆ คิดว่าตัวเองเป็นผู้เลี้ยงแบบไหนคะ ที่จะให้น้องหมายอมไว้วางใจเรา อยากเข้าใกล้ เชื่อฟังคำสั่ง และจงรักภักดี แต่ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเป็นผู้เลี้ยงแบบไหนก็อย่าลืมหัวใจหลักของการเลี้ยงน้องหมานะคะ นั่นก็คืออาหารครบโภชนาการ วินัย การออกกำลังกาย และความรักค่ะ ขอให้ได้หัวใจน้องหมามาครองทุกคนนะคะ ^__^
บทความโดย : Dogilike.com
ข้อมูลอ้างอิง :
http://www.wikihow.com/Make-a-Dog-Love-You
http://www.wikihow.com/Make-Dogs-Love-You
ภาพประกอบ:
www.telegraph.co.uk
www.dailymail.co.uk
petanthology.com
100waystochangetheworld.com
abcnews.go.com
www.dogrelated.com
www.livescience.com
www.eadt.co.uk
dogs.about.com
what-buddha-said.net
imgbuddy.com
www.ottawaspackleader.com
fitfunfemme.com
SHARES