เคยมีใครตั้งคำถามเหมือนกันกับพริกบ้างไหมคะว่า ทำไมน้องหมาสามารถอ่านความรู้สึกของเราออก เข้าใจช่วงเวลาที่โศกเศร้าของเราได้เป็นอย่างดี คอยอยู่เคียงข้างและปลอบใจจนทำให้เรารู้สึกไม่ถูกทอดทิ้งทอดทิ้งเราให้เศร้าใจเพียงลำพัง ... พวกเขารับรู้แล้วอ่านใจพวกเราออกอย่างนั้นหรือ!?

     แต่ด้วยความที่น้องหมามีความแตกต่างจากเรามากมายทั้งเรื่องสรีระร่างกาย สมอง และ การสื่อสาร ก็ทำให้สงสัยว่า เอ๊ะ หรือเราจะมโนไปเอง ... ใช่ว่าน้องหมาทุกตัวที่จะใส่ใจคนรอบข้าง บ้างตัวก็นอนนิ่งเฉย ไม่สนใจใส่ใจใครเลยก็มี แต่ก็ด้วยความอยากรู้อยากเห็นนี่แหละคะที่ทำให้ต้องสืบหาความจริงว่า น้องหมาห่วงใย ใส่ใจความรู้สึกเราจริง ๆ หรือจะเป็นแผนการให้เราใจอ่อน หยิบของเล่น หาขนมมาให้กินกันแน่ ถึงเวลามาหาความจริงกันแล้วค่ะ!!

 

 

 

 

      น้องหมาเป็นสัตว์สังคมเหมือนกับเราค่ะ จึงชอบที่จะอยู่ร่วมกันเป็นฝูง หรืออยู่ร่วมกันกับครอบครัว ไม่ชอบอยู่ลำพัง แต่ด้วยความที่ชอบอยู่เป็นกลุ่มจึงทำให้น้องหมามีความสามารถในการสื่อสาร รับรู้ และไวต่อความรู้สึกของสมาชิกในฝูงและในครอบครัว  อีกทั้งพวกเขายังใส่ใจที่จะเรียนรู้ภาษาจากของคนเรา ไม่ว่าจะท่าทาง มือไม้ สีหน้า และน้ำเสียง ก็เลยมีส่วนร่วมกับคนได้ง่ายกว่าสัตว์ชนิดอื่น และที่สำคัญน้องหมาเป็นนักสังเกตที่ยอดเยี่ยมถึงขั้นที่คนเรายังต้องชิดซ้าย นั่นก็เพราะน้องหมามีประสาทสัมผัสทั้งการมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น ที่มากกว่าเราอยู่หลายเท่า เพราะฉะนั้น การที่คิดว่าน้องหมาฟังภาษาเราไม่ออก ไม่รู้หรอกว่าเรารู้สึกหรือคิดอะไรอยู่ อาจเป็นการสบประมาทน้องหมาเสียแล้ว เชื่อเถอะค่ะว่า น้องหมานี่ล่ะ สุดยอดสายลับ พวกเขาอ่านเราออกและรับรู้อารมณ์ การเปลี่ยนแปลงของเคมี ของความร้อนภายในร่างกายเราได้แค่เพียงใช้จมูกดม กับ การรับรู้พลังงานที่สั่นไหวรอบ ๆ กายเรา รวมไปถึงน้ำเสียง โทนเสียงที่เปลี่ยนไปของเราอีกด้วย!

 

 

 

 

     สำหรับน้องหมาบางตัวการเข้าไปหาเจ้าของอาจไม่ใช่การรับรู้ความรู้สึกหรือเห็นใจแต่เป็นนิสัยอยากรู้อยากเห็นก็เป็นได้ จากข้อสันนนิษฐานนี้จึงมีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มได้ทำการทดลองกับน้องหมาว่าสามารถรับรู้ความรู้สึกและอารมณ์ของคนได้หรือไม่ ซึ่งในการทดลองจะมีเจ้าของและคนแปลกหน้าทำทีว่ากำลังนั่งร้องไห้ สะอึกสะอื้นน้องหมาส่วนใหญ่แล้วจะตรงเข้าไปหาเจ้าของของพวกเขามากกว่าจะเข้าไปหาคนแปลกหน้าที่พวกเขาไม่รู้จัก 

     เมื่อน้องหมาเข้าไปหาเจ้าของพวกเขาจะดมตัว ใบหน้าของเจ้าของด้วยความสนใจ เนื่องจากเจ้าของมีเสียงที่เปลี่ยนแปลงไป สะอื้น  มีน้ำตา มีการหลั่งสารเคมีบางอย่างที่ผิดปกติ พวกเขาก็เลยอยากรู้อยากเห็น พยายามนั่งซบใกล้ๆ คล้ายจะปลอบใจ แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มมองว่าน้องหมาเข้ามาใกล้เราเพราะ พวกเขารับรู้ว่าเราอยู่ในช่วงที่มีพลังงานด้อยกว่า (Submissive)  จึงถือโอกาสเข้าใกล้เราเพื่อทำให้ตัวพวกเขาเองรู้สึกผ่อนคลายที่ได้อยู่ใกล้ มีอำนาจเหนือกว่า และได้สิ่งที่พวกเขาต้องการหลังจากได้เข้าไปคลอเคลียเจ้าของ 

      ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุชัดได้ว่า น้องหมารับรู้เห็นอกเห็นใจความเศร้าของเขาเรา เพียงแต่อาจจะรับรู้ได้ว่าเรามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่เหมือนเดิม ทั้งท่าทาง น้ำเสียง และเคมีในร่างกาย จึงให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ และจะให้ความสนใจ อยากอยู่ใกล้ๆ เคียงข้างเฉพาะคนที่พวกเขาไว้ใจและผูกพันมากเท่านั้น 

 

     หลายคนคงสงสัยว่าตกลงน้องหมาเข้าใจความรู้สึกของคนเราว่าเศร้า ดีใจ โกรธได้หรือไม่กันแน่ ....ซึ่งถ้าจะว่ากันตรง ๆ แล้ว ต้องแยกให้ออกระหว่าง “รับรู้” กับ “เข้าใจ” ความรู้สึกนะคะ น้องหมานั้นแน่นอนว่าสามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์คนได้แน่นอน แต่ในส่วนของความเข้าใจว่าเป็นอารมณ์อะไร เพราะอะไร เป็นเรื่องที่สมองของพวกเขาไปไม่ถึง เพราะจากงานวิจัยแล้วสมองของน้องหมาเมื่อเทียบกับคนจะอยู่ที่ประมาณเด็ก 2-3 ขวบเท่านั้นเองค่ะ 

     ส่วนเรื่องความสามารถในการเห็นอกเห็นใจของน้องหมานั้น ก็ยังไม่มีใครรับรองได้แน่ชัด แต่ไม่นานมานี้ได้มีกรณีศึกษาโดยทีมนักประสาทวิทยาชาวฮังกาเรียนของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งฮังการี ที่มหาวิทยาลัย Eötvös Loránd ทำการทดลองให้น้องหมาเข้าเครื่องสแกนสมองเพื่อหาความเหมือนระหว่างสมองของน้องหมากับสมองของคนเรา ด้วยสมมติฐานว่า “น้องหมานั้นสามารถรับรู้ข้อมูลของคนเราได้จากเสียงที่แตกต่างไป”

 

     ผลจากการสแกนสมองน้องหมาจากการทดลองให้น้องหมาแต่ละตัวฟังเสียงน้องหมาและคนรวมกว่า 200 เสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงตอนร้องไห้ กำลังเล่น เจ็บปวด โมโห หรือ หัวเราะ ทำให้ทราบว่า ทั้งสมองของน้องหมาและคนเราจะตื่นตัวขึ้นเมื่อได้ยินเสียงที่ใกล้เคียงกัน แสดงให้เห็นว่าน้องหมานั้นสามารถรับรู้ความรู้สึกจากเสียงที่ได้ยินเช่นเดียวกับคนเรา เพียงแต่จะแสดงออกอย่างไรต่อต่อเจ้าของก็ขึ้นอยู่กับความผูกพันและระหว่างกันตั้งแต่เริ่มเลี้ยงน้องหมามา  อย่างน้องหมาที่เลี้ยงไว้นอกบ้าน ไม่ค่อยได้คลุกคลีกับคน ได้ฟังเสียง ได้สื่อสารกับเจ้าของบ่อย ๆ ก็จะรับรู้อารมณ์ และแสดงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจได้น้อยกว่าน้องหมาที่ถูกเลี้ยงไว้ในบ้านร่วมกับเจ้าของนั่นเองค่ะ 

 

 

 

     หากเราเปิดใจให้กว้างพอเราจะเห็นหัวใจของน้องหมาว่า พวกเขาสามารถรับรู้อารมณ์ของสมาชิกในฝูงของตัวเองได้ เมื่อลูกตกใจ แม่หมาก็จะเข้าไปปลอบโยน หรือสมาชิกฝูงได้รับอันตรายบาดเจ็บ ก็จะเข้าไปเลียดูแลให้กัน ซึ่งนี่คือความเห็นอกเห็นใจที่บางครั้งก็อาจถูกมองข้ามไปบ้าง

 

     แต่ในเมื่อน้องหมาไม่สามารถพูดบอกเราได้ว่าเพราะอะไรพวกเขาถึงเข้ามาอยู่เคียงข้างเราในวันที่เราโศกเศร้าได้ ก็ยากที่เราจะอ่านความคิดและอ่านใจน้องหมาได้อย่างแท้จริง แต่สำหรับคนที่รักน้องหมา ก็ไม่อาจปฏิเสธความผูกพันและความรักระหว่างเรากับน้องหมาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาเลือกที่จะมาอยู่ข้าง ๆ เราในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ถึงแม้พวกเขาอาจไม่เข้าใจอารมณ์อย่างลึกซึ้งก็ตาม....นั่นเพราะความรักและสายใยที่ผูกพันมาช้านานระหว่างกันนั่นเอง
 

 

บทความโดย : Dogilike.com

https://www.dogilike.com/

 

ข้อมูลอ้างอิง :
 

https://www.psychologytoday.com/blog/canine-corner/201206/
canine-empathy-your-dog-really-does-care-if-you-are-unhappy

http://www.livescience.com/20823-canine-comfort-dogs-understand-emotion.html

http://www.sciencemag.org/news/2014/02/how-dogs-know-what-youre-feeling

https://www.doghealth.com/how-and-why/how-dogs-sense-emotions

 

ภาพประกอบ :
 

https://uthmanx.wordpress.com/2016/01/14/
dogs-know-best-new-study-shows-your-pup-can-tell-how-you-feel/

http://latinrapper.com/blogs/?p=8182

http://www.holidogtimes.com/11-ways-your-dog-tells-you-they-love-you-every-day/

http://abcnews.go.com/US/hospice-therapy-dog-comforts-dying-patient-heartwarming-video/story?id=33330577

http://www.marlonwayans.tv/dog-helps-kid-having-meltdown.html