สวัสดีค่ะเพื่อนชาว Dogilike วันนี้หนูนามีสาระน่ารู้เกี่ยวกับน้องหมามาฝากกันค่ะ เพื่อนๆ เคยสงสัยมั๊ยคะว่า ลูกสุนัขตัวน้อยๆ ที่อยู่ท้อง (ครรภ์) มีการเจริญเติบโตและมีหน้าตาอย่างไร วันนี้หนูนาคัดสรรเอามาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันค่ะ เป็นภาพที่สวยงามและตื่นตามากเลยค่ะ

แต่การที่เราจะดูภาพนั้น เราต้องรู้ข้อมูลสุนัขเกี่ยวกับการพัฒนาแต่ละสัปดาห์และการดูแลแม่สุนัขประกอบไปด้วยนะคะ
สัปดาห์ที่ 1
พัฒนาการของลูกสุนัข
• เกิดการปฏิสนธิระหว่างไข่ (Ovum) ของแม่สุนัขกับตัวอสุจิของพ่อสุนัข
• ตัวอ่อนระยะเอ็มบริโอ (Embryo) แบ่งตัวเป็น 2 เซล บริเวณท่อนำไข่ (Oviduct)
• ในระยะนี้ตัวอ่อนมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกที่เข้ามากระทบต่อตัวแม่สุนัขได้ไม่มากนัก
• การเปลี่ยนแปลงของแม่สุนัข
• ในสุนัขบางตัวอาจพบอาการแปลกๆที่ไม่เคยพบมาก่อนเราเรียกอาการนี้ว่า “ อาการแพ้ท้อง ”
การดูแลแม่สุนัข
• การให้อาหารแก่แม่สุนัขจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
• สอบถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่ได้ให้แก่แม่สุนัขโดยเฉพาะยาต่างๆ ซึ่งอาจเกิดปัญหาแก่ลูกสุนัขในท้องได้
• ห้ามใช้ยากำจัดแมลงเช่น ยากำจัดเห็บหรือหมัดในช่วงเวลานี้
• ห้ามให้วัคซีนเชื้อเป็นแก่แม่สุนัขเด็ดขาด
สัปดาห์ที่ 2 ( วันที่ 8-14)
พัฒนาการของลูกสุนัข
• ต้นสัปดาห์ ตัวอ่อนระยะเอ็มบริโอจะแบ่งตัวเป็น 4 เซลและช่วงท้ายสัปดาห์พบว่าเอ็มบริโอแบ่งตัวถึง 64 เซล
• เอ็มบริโอเดินทางเข้ามาสู่มดลูก (uterus) ของแม่สุนัข
• การเปลี่ยนแปลงของแม่สุนัข
• อาจพบอาการแพ้ท้องในสุนัขบางตัว
การดูแลแม่สุนัข
• ดูแลต่อเนื่องจากสัปดาห์แรก

19 วัน
สัปดาห์ที่ 3 ( วันที่ 15-21)
พัฒนาการของลูกสุนัข
• เกิดการฝังตัวของเอ็มบริโอบริเวณมดลูกของแม่สุนัขในวันที่ 19
• การเปลี่ยนแปลงของแม่สุนัข
• ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากสัปดาห์ที่ก่อน
การดูแลแม่สุนัข
• ดูแลต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ 2

25 วัน
สัปดาห์ที่ 4 ( วันที่ 22-28)
พัฒนาการของลูกสุนัข
• มีการเจริญของตาและไขสันหลัง ตัวอ่อนในระยะนี้เรียกว่า ฟีตัส (Fetus)
• ลักษณะของตัวอ่อนมองดูคล้ายก้อนอุจจาระ
• ฟีตัสมีขนาด 5-10 X 14-15 มม .
• เกิดขบวนการสร้างอวัยวะต่างๆในช่วงนี้หากมีผลกระทบที่มีต่อฟีตัสอาจทำให้เกิดความผิดปกติหรือความพิการได้
• การเปลี่ยนแปลงของแม่สุนัข
• อาจพบสิ่งคัดหลั่งสีใสไหลออกมาจากช่องคลอด
• เต้านมเริ่มมีการพัฒนาขยายใหญ่ขึ้นในระยะนี้
การดูแลแม่สุนัข
• ตั้งแต่วันที่ 26 ขึ้นไป การคลำบริเวณช่องท้องของแม่สุนัขอาจจะทำนายผลการตั้งท้องว่าตั้งท้องหรือไม่ได้ หรืออาจให้สัตวแพทย์ยืนยันการตั้งท้องโดยใช้วิธีการอัลตร้าซาวด์ (ultrasound)
• ในระยะนี้ระมัดระวังการกระทบกระแทกอันเนื่องมาจากการกระโดด การวิ่งเป็นระยะทางไกลๆหรือการเล่นที่รุนแรง
• ควรเพิ่มเนยแข็ง (Cheese) หรือไข่ต้มสุกประมาณ 1/4 ถ้วย ในอาหารแม่สุนัขในแต่ละวัน
สัปดาห์ที่ 5 ( วันที่ 29-35)
พัฒนาการของลูกสุนัข
• ขบวนการสร้างอวัยวะ (Organogenesis) จะมีการสร้างจนมีอวัยวะครบในช่วงเวลานี้
• ลักษณะของฟีตัสมองดูคล้ายสุนัขมากขึ้นมีขนาด 18-30 มม .
• การเปลี่ยนแปลงของแม่สุนัข
• พบการบวม - ขยายใหญ่บริเวณช่องท้องอย่างเห็นได้ชัด น้ำหนักตัวจะเพิ่มสูงขึ้น
การดูแลแม่สุนัข
• เพิ่มจำนวนอาหารที่ให้ขึ้นเล็กน้อยและควรเปลี่ยนเป็นอาหารสูตรที่ใช้เลี้ยงลูกสุนัข
• หากให้อาหารวันละ 1 มื้อ ควรจะเพิ่มมื้อพิเศษให้อีก 1 มื้อ หากให้วันละ 2 มื้อ ควรเพิ่มจำนวนอาหารให้อีกเล็กน้อยในแต่ละมื้อ
• ในแต่ละวันควรให้วิตามินรวมเสริม

39 วัน
สัปดาห์ที่ 6 ( วันที่ 36-42)
พัฒนาการของลูกสุนัข
• ระยะนี้จะพบว่าเกิดการสร้างสีบริเวณผิวหนังขึ้น
• เมื่อใช้หูฟัง (stethoscope) ฟังเสียงหัวใจจะพบเสียงเต้นของหัวใจของฟีตัส
• การเปลี่ยนแปลงของแม่สุนัข
• หัวนมมีการขยายใหญ่และมีสีคล้ำขึ้น
• ช่องท้องมีขนาดใหญ่ต่อเนื่องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การดูแลแม่สุนัข
• เพิ่มเนยแข็งหรือไข่ต้มสุกในอาหารแม่สุนัขทุกวัน
• เพิ่มจำนวนอาหารให้แก่แม่สุนัขในมื้อพิเศษ
• ฝึกให้แม่สุนัขอยู่ในบริเวณที่เตรียมไว้สำหรับการคลอด
สัปดาห์ที่ 7 ( วันที่ 43-49)
พัฒนาการของลูกสุนัข
• การเจริญเติบโตและพัฒนาการจะมีอย่างต่อเนื่อง
• การเปลี่ยนแปลงของแม่สุนัข
• ขนบริเวณส่วนท้องจะเริ่มมีการหลุดร่วง
• แม่สุนัขจะเริ่มมองหาจุดที่จะทำการคลอด
การดูแลแม่สุนัข
• ในแม่สุนัขบางตัวควรระมัดระวังเรื่องการกระโดด
• เพิ่มจำนวนอาหารอีกเล็กน้อยให้ทั้ง 2 มื้อ
• พิจารณาการทำ X-ray เพื่อตรวจดูจำนวนและขนาดของลูกสุนัขในท้อง

55 วัน
สัปดาห์ที่ 8 ( วันที่ 50-57)
พัฒนาการของลูกสุนัข
• สามารถตรวจพบการเคลื่อนไหวของฟีตัสในขณะที่แม่สุนัขนอนพักได้
• การเปลี่ยนแปลงของแม่สุนัข
• เมื่อบีบบริเวณหัวนมอาจพบว่ามีน้ำนมไหลออกมา
การดูแลแม่สุนัข
• ให้อาหารเพิ่มอีกในระหว่างมื้อปกติ

60 วัน
สัปดาห์ที่ 9 ( วันที่ 58-65)
พัฒนาการของลูกสุนัข
• การเจริญเติบโตและพัฒนาการจะมีอย่างต่อเนื่อง
• การเปลี่ยนแปลงของแม่สุนัข
• พบพฤติกรรมการทำรังของแม่สุนัขให้เห็น
• อุณหภูมิของร่างกายจะอยู่ที่ประมาณ 100.2-100.8 ? F หากอุณหภูมิลดลงไปอยู่ที่ 98-99.4 F คาดการณ์ได้ว่าลูกสุนัขจะออกมาภายใน 24 ชั่วโมง
การดูแลแม่สุนัข
• วัดอุณหภูมิและจดบันทึกวันละ 3 ครั้ง ร่วมกับการดูแลอย่างใกล้ชิด
ปล. ^_^
• ต้องให้ลูกสุนัขทุกตัวได้ดูดนมน้ำเหลืองที่ได้จากแม่สุนัขอย่างเต็มที่ภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
• สิ่งคัดหลั่งที่ออกมาจากช่องคลอดควรจะมีสีแดง - แดงน้ำตาล ( อาจพบมีสีเขียวในวันแรกหลังคลอดถือว่าปกติ ) ถ้าหากพบสีดำควรไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน
• 5-6 ชั่วโมงภายหลังที่ลูกตัวสุดท้ายเกิด ควรพาลูกสุนัขและแม่สุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและตรวจสอบว่าไม่มีลูกสุนัขหรือรกค้างอยู่ในตัวแม่สุนัข
ว๊าวววว......เป็นยังไงบ้างคะ เพื่อนๆ ชาว Dogilike ที่นี้ก็ไขข้อข้องใจได้แล้วสินะคะ คงตื่นตาตื่นใจ เหมือนตอนที่หนูนาได้เห็นภาพนี้ครั้งแรกเลย เกินจะบรรยาย Amazing จริงๆ ค่ะ แต่ก่อนเคยคิดว่าจะมีลักษณะเป็นตัวก้อนกลมๆ ขดๆ อยู่ในท้อง ทีแท้เป็นอย่างนี้นี่เองเนอะ.....
ปิดท้ายด้วยคลิปวิดีโอน่ารัก ๆ เจ้าวุ้นตัวน้อย ๆ ค่ะ
อย่าลืม! คิดที่จะเลี้ยงเค้าต้องศึกษาข้อมูลเยอะๆ เอาไว้ด้วยนะคะ ด้วยความหวังดีจาก Dogilike.com ค่ะ [^0^]
บทความโดย: Dogilike.com
ข้อมูลอ้างอิง :
baanbangkaew.com
น.สพ.ศักดิ์ชัย เรือนเพชร
ภาพประกอบ :
updownacross.wordpress.com
web.me.com/janine_meister/Site/Puppies_in_the_Womb.html
aristocratfrenchbulldogsandbullmastiffs.com/14puppydevelopment.htm
เรียบเรียงโดย
"Nuna Dogilike.com"
|
SHARES