มาหาคำตอบกันว่า น้ำมันปลา แมวกินได้ หรือไม่ได้กันแน่นะ แล้วมีประโยชน์อย่างที่ใคร ๆ พูดกันจริงหรือเปล่า?

น้องแมวสามารถกินน้ำมันปลาได้น้า แล้วดีกับสุขภาพเค้าด้วย แต่ก็ต้องปรึกษาคุณหมอก่อนให้เพราะน้องแมวแต่ละตัวมีความต้องการที่ต่างกันน้า โดยเฉพาะแมวป่วยที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ

น้ำมันปลาดีกับแมวยังไง?

🐱ช่วยผิวสุขภาพดี เพราะมีโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงให้ผิวของเหมียวมีสุขภาพดี และยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เหมาะสำหรับแมวที่เป็นภูมิแพ้ มีผิวแห้ง หรือเป็น Hotspot ได้ด้วย

🐱ช่วยขนเงางามและหลุดร่วงน้อยลง เพราะกรดไขมันโอเมก้า 3 จะช่วยให้แมวมีขนที่ฟูขึ้นและเงางามขึ้น พร้อมช่วยฟื้นฟูรูขุมขน ซึ่งสามารถลดปริมาณเส้นขนที่หลุดร่วงได้ เมื่อขนร่วงน้อยลงระหว่างเลียทำความสะอาดตัวเองก็ทำให้มีก้อนขนน้อยลงนั่นเอง

🐱 ช่วยระบบข้อต่อ เพราะมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ ดีกับเหมียวสูงวัยที่เป็นโรคข้ออักเสบ ซึ่งมีการศึกษาพบว่า แมวที่ได้รับน้ำมันปลาปริมาณที่เหมาะสมต่อวันสามารถเคลื่อนไหว ขึ้นลงบันได กระโดดได้ดีกว่าแมวที่ได้รับน้ำมันข้าวโพดที่ไม่มีโอเมก้า 3

🐱ช่วยระบบไหลเวียนเลือด โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Utrecht ในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ตรวจสอบตัวอย่างเลือดจากแมวที่กินอาหารที่มีน้ำมันปลาเป็นส่วนประกอบ เทียบกับแมวที่กินอาหารที่มีน้ำมันดอกทานตะวันเป็นหลักพบว่า แมวที่กินอาหารที่มีน้ำมันปลามีการไหลเวียนของระบบเลือดที่ดีกว่า แต่ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดไม่พบความแตกต่าง

🐱ช่วยป้องกันโรคได้ โดยสามารถช่วยป้องกันแมวสูงวัยจากภาวะสมองเสื่อมได้ และช่วยให้เหมียวรับมือกับโรคไตได้

🐱 จะเพิ่มโอเมก้า 3 ให้เหมียวได้ยังไง?

ถ้าอยากให้เหมียวได้รับโอเมก้า 3 อาจจะให้ปลาเสริมเข้าไปในมื้ออาหารอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ปลาที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ และเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาเทราต์ ปลาซาร์ดีน ปลาทู ปลาทูน่า ปลาเฮอริ่ง ปลาแอนโชวี่ ฯลฯ

🐱 น้ำมันปลาไม่จำเป็นกับแมวเด็ก ... ถ้าหากแมวยังเด็กมีอายุน้อย หรือมีร่างกายที่แข็งแรงอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องให้น้ำมันปลาเพราะน้ำมันปลาจะได้ผลดีกับแมวโตเต็มวัย แมวสูงวัย หรือแมวป่วยมากกว่า